“ร่างกายแข็งแรง” เป็นสิ่งที่คนรักสุขภาพทุกคนฝันถึง แต่จะทำยังไงให้ร่างกายที่ไม่ค่อยได้ดูแลเเข็งแรงได้เร็วขึ้น …มาทดลอง 6 ทิปส์ต่อไปนี้พร้อมกันนะคะ เป็นสิ่งที่จะช่วยหนีป่วยได้ คุณควรทำทันที ไม่ต้องรอ

             นวด งานวิจัยยืนยันว่า การนวดช่วยลดความกระวนการะวาย ความดันโลหิต และอัตราการเต้นของหัวใจ ซึ่งเหล่านี้ ล้วนแล้วแต่กระตุ้นภูมิคุ้มกันในร่างกายเรา วิธีการง่ายๆ คือ ไปหาหมอนวด หรือไม่ก็ลองนวดเท้าง่ายๆ ด้วยตนเอง หรืออาจใช้การนวดกดจุดแบบชีวจิตก็ได้

              อาบน้ำเย็น ชีวจิตกล่าวไว้ในนิตยสารเสมอว่า การอาบน้ำเย็นช่วยลดอาการไมเกรน เพิ่มการไหลเวียนโลหิต และลดอาการปวดอื่นๆ คุณแมร์รี่ แอนน์ โบแมน ผู้เขียนหนังสือเรื่อง Fight Fatigue : Six simple Steps to Maximize Your Energy ยืนยันว่า น่าทดลองอาบน้ำด้วยน้ำเย็นสัก 10 นาที หรือ 10 ขัน แล้วจบลงที่น้ำอุ่นอีก 1 นาที หรือ 1 ขัน

            ล้างมือ ศูนย์การควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐอเมริกาพบว่า การล้างมือคือ ตัวช่วยอันดับหนึ่งที่ช่วยปกป้องคนอเมริกันถึงปีละ 100 ล้านคน ไม่ให้ป่วยเป็นโรคไข้หวัด วิธีการคือ ล้างมือให้นานหน่อย ครั้งละ 20 วินาที หรือร้องเพลง Happy Birthday 2 รอบ โดยล้างทุกนิ้ว ง่ามนิ้วมือ ฝ่ามือ อุ้งมือ รวมถึงข้อมือ

             กินขิง นับศตวรรษที่เรายอมรับกันว่าขิงช่วยขับลม ทั้งในส่วนของระบบย่อยและระบบขับถ่าย นักวิจัยยืนยันว่า ขิงช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการย่อย ช่วยการบีบตัวของลำไส้เล็ก และช่วยให้เศษอาหารเคลื่อนตัวไปยังลำไส้ใหญ่ได้โดยง่าย ฉะนั้นการกินขิง ทั้งแห้ง ป่น และปรุงอาหาร ก็ล้วนให้ผลลัพธ์แบบเดียวกัน

            กินวิตามินซี และสังกะสี นอกจากปกป้องหวัดแล้ว วิตามินซีและสังกะสี ช่วยปกป้องการข้ามสายพันธุ์ของไวรัส จึงไม่ควรปฏิเสธ ศูนย์การแพทย์ซายนาย แห่งกรุงนิวยอร์ค แนะนำให้กินวิตามินซีวันละ 500 มิลลิกรัม หรือไม่เกินวันละ 2000 มิลลิกรัม ช่วงเวลาป่วย โดยสามารถกินสังกะสีได้วันละ 2-3 ครั้ง

         คิดบวก งานวิจัยพบว่า การคิดบวกช่วยให้สมองสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันโรคหวัด แม้นักวิจัยอาจยังไม่ยืนยันผลลัพธ์ แต่ก็บอกว่า สมองสามารถสื่อสารกับระบบภูมิคุ้มกันได้ วิธีการเริ่มต้นคือ คิดลบให้น้อยลง อย่าเอาแต่หมกมุ่นหรือดราม่ากับความยุ่งยากบางอย่าง หรือความป่วยไข้ในชีวิต แต่ให้อยู่กับปัจจุบัน แต่คิดว่า สิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณขณะนี้ ยังน้อยกว่าสิ่งที่เกิดขึ้นกับหลายคน

การหนีป่วยนั้นไม่ยาก เพียงแต่เมื่อรู้แล้ว ต้องเริ่มทำทันที

ที่มา  http://www.goodlifeupdate.com/