เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

"คุณประพุทธ กำลังเอก" หรือ (พระประพุทธ พุทฺธิพโล) บุตรชายของพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบกและทหารสูงสุด อดีตหวานใจของสาวตอง ภัครมัย ที่ก่อนหน้านี้เคยบวชมาแล้วครั้งหนึ่ง และในครั้งที่ 2 พระดุ๊กก็ตัดสินใจบวชไม่สึก http://winne.ws/n10465

3.3 พัน ผู้เข้าชม
เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

        "คุณดุ๊ก ประพุทธ กำลังเอก" (พระประพุทธ พุทฺธิพโล) บุตรชายของพลเอกอาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารบกและทหารสูงสุด อดีตหวานใจของสาวตอง ภัครมัย ที่ก่อนหน้านี้เคยบวชมาแล้วครั้งหนึ่ง และในครั้งที่ 2 พระดุ๊กก็ตัดสินใจบวชไม่สึก แม้ในขณะนั้นยังคงสถานะหวานใจกับสาวตองอยู่ก็ตาม 

         ล่าสุดคุณพรสรร กำลังเอก ไปร่วมโปรยกุหลาบต้อนรับคณะพระธุดงด์ในปฐมเริ่มการเดินธุดงค์ธรรมชัย สถาปนาเส้นทางมหาปูชนียาจารย์ฯ เมื่อวันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2554 ที่มีพระลูกชายร่วมธุดงด์ด้วย

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

ไม่พบที่สุดของการแสวงหา จนกระทั่งมาพบจุดเปลี่ยนที่ใช่

จากการเข้าอุปสมบทในโครงการ อบรมธรรมทายาทและอุปสมบทหมู่ รุ่นพิเศษ พ.ศ.2550

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

ปริญญาโท สาขาบริหารคอมพิวเตอร์ London School of Economics

     เมื่อพูดถึงนามสกุลกำลังเอก ทำให้นึกถึงพลเอก อาทิตย์ กำลังเอก อดีตผู้บัญชาการทหารสูงสุด ซึ่งในวันนี้ เราได้มีโอกาสเข้าไปพูดคุยกับคนใกล้ชิดท่านที่สุดคนหนึ่ง คุณประพุทธ กำลังเอก หรือคุณดุ๊ก ลูกชายหน้าใส ที่มีคุณแม่ คือ คุณพรสรร กำลังเอก (พรประภา)

     คุณดุ๊กเติบโตขึ้นในสังคมที่แวดล้อมไปด้วยความก้าวหน้าทางด้านเทคโนโลยีและคริสต์ศาสนา เพราะเกิดที่สหรัฐอเมริกาและบินไปเรียนที่อังกฤษตั้งแต่ 8 ขวบ จนกระทั่งคว้าปริญญาโท สาขาบริหารคอมพิวเตอร์ จาก London School of Economics กลับมาฝากคุณพ่อคุณแม่ที่เมืองไทย

     แต่นาทีนี้… เขากลายเป็นต้นแบบและเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นถัดมาให้ได้เดินตามหลังอีกจำนวนไม่น้อย แม้บางคนจะบอกว่าเขาคือหนุ่มไฮโซ ที่ไม่ค่อยชอบออกงานสังคมมากนัก แต่หากมารู้จักเขาให้ลึกซึ้งขึ้น เราจะค้นพบสัจธรรมอะไรบางอย่าง กับคำพูดที่วา “ผมเป็นคนหลุดแนว และเป็นคนเปิดกว้างทางความคิด” ซึ่งแก่นสารตรงนี่แหละ..!!  ทำให้คุณดุ๊กเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิตตั้งแต่อายุยังน้อย

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

 “ตั้งแต่ผมเรียนจบ ก็บินกลับเมืองไทย มาทำธุรกิจด้านเว็บไซต์ และทำด้านกีฬาฟุตวอลเล่ย์ ซึ่งเป็นกีฬาลูกผสมระหว่างฟุตบอลกับวอลเล่ย์บอล จะเล่นกันที่ชายหาด สนุกมาก แต่ยังไม่ค่อยบูมในเมืองไทย ผมจึงปิ๊งขึ้นมาว่า… คนไทยเราน่าจะมีโอกาสและมีความเป็นไปได้ในการไปคว้าแชมป์โลกในกีฬาประเภทนี้ ผมจึงบุกเบิกและก่อตั้งบริษัทนี้ขึ้น

     คุณดุ๊กได้นำทีมนักกีฬาเวียนไปแข่งขันที่ประเทศกรีซ บราซิล สเปน และอีกหลายๆ ประเทศ จนสามารถคว้าอันดับ 4 ของโลกมาแล้ว ทั้งๆ ที่เพิ่งเริ่มทำได้เพียง 5 ปี โดยมีคุณแม่เป็นผู้ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด และอยู่ในฐานะผู้จัดการทีมชาติ..!!

     คุณดุ๊กได้รับการอบรมเลี้ยงดูอย่างดีจากคุณพ่อคุณแม่ที่มีฐานะดี และเกิดในตระกูลที่มีชื่อเสียง อีกทั้งยังดำรงตำแหน่งเป็นรองประธานบริหารถึง 2 บริษัท คือ บริษัทแชดไดเร็กทอรี่ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัทฟุตวอลเล่ย์ จำกัด

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

“บางคนอาจมองว่าผมเป็นคนมีความพร้อมในทุกด้าน ดูดี มีความสุข แต่ทำไมผมต้องแสวงหาอะไรบางอย่างอยู่ตลอดเวลา”

เป็นเพราะในวัยเด็ก ขณะที่ผมนั่งดูหนังอยู่กับคุณแม่ และเห็นคนตาย ผมจึงถามคุณแม่ว่า…

คนเราเกิดมาต้องตายหรือครับ?”   คุณแม่ตอบว่า “ใช่” …  ผมก็ถามต่อว่า “แล้วคุณแม่ก็ต้องตายหรือ

     คุณแม่ก็ตอบว่า “ใช่ คนเราเกิดมาต้องตายทุกคน”   อย่างนี้แสดงว่า อีกหน่อยคุณแม่ที่ผมรักที่สุดก็ต้องตายจากผมไป และผมก็ต้องตายด้วยงั้นหรือ  ตอนนั้นทำให้ผมรู้สึกแย่ ผมร้องไห้โฮ รู้สึกเซ็งชีวิตและผิดหวังเอามากๆ จึงมีความคิดว่า งั้นโตขึ้นผมต้องรวยให้ได้มากๆ และจะเอาเงินมาทุ่มค้นคว้าหาวิธีการทำให้คนไม่ตาย อาจเป็นหุ่นยนต์ หรืออะไรก็ได้ที่ทำให้คนเป็นอมตะ

     ตั้งแต่วันนั้น ความรู้สึกนี้มันเลยฝังใจ ทำให้ผมพยายามแสวงหาคำตอบที่ว่าด้วยเรื่องของชีวิตมาตลอด จนกระทั่งมาพบคำตอบที่ใช่ในพระพุทธศาสนา โดยเฉพาะช่วงที่เรียนอยู่อังกฤษ ผมแสวงหาหนังสือประเภทธรรมะมาอ่าน และสนใจการปฏิบัติธรรม จนกระทั่งกลับมาเมืองไทย จึงแสวงหาและศึกษาธรรมะมากขึ้น ทดลองปฏิบัติมาหลายแห่ง แต่ไปมากี่ที่ก็เหมือนยังไม่พบที่สุดของการแสวงหา จนกระทั่งได้มาบวช…

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

คุณดุ๊กตัดสินใจมาบวชธรรมทายาท รุ่นเข้าพรรษา ที่วัดพระธรรมกาย จากการที่ลูกน้องคุณแม่ที่บริษัทแนะนำให้มาปฏิบัติธรรมที่สวนพนาวัฒน์ จ.เชียงใหม่ และก็มีพระอาจารย์เป็นผู้ชวนให้บวช

     “พระอาจารย์ประสิทธิ์ อนังคโน ท่านแนะนำว่า หากคิดจะมาศึกษาด้านนี้ ก็อยากให้ศึกษาให้ถ่องแท้ ซึ่งจะเข้าใจได้มากขึ้นโดยการบวช ตอนนั้นผมก็อยากบวชพอดีครับ เพราะเคยบวชเณรมาแล้ว แต่บวชพระยังไม่เคย”

     ในช่วงเวลาที่บวชอยู่นั้น เป็นช่วงหนึ่งของชีวิตที่คุณดุ๊กเลือกด้วยตนเอง เพราะเขาได้พบว่า วิถีชีวิตแบบนี้ทำให้เขามีความสุข และเขาก็ได้พบคำตอบที่เสาะแสวงหา

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

        “ผมว่าชีวิตนักบวชนี่ดีมาก ๆ เป็นพระนี่ดี ไม่ต้องเบียดเบียนใคร เป็นชีวิตที่สงบ ทำให้เราสามารถศึกษาพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้อย่างเต็มที่ เมื่อก่อนผมศึกษาธรรมะมามากก็จริง แต่พอศึกษาไป ก็พบคำถามมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ผมคิดวนไปวนมา แต่พอมาบวชที่นี่ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านตอบให้เราได้หมด โดยที่เราไม่ต้องถาม เหมือนผมได้ที่สุดของคำตอบที่โดนใจ

         เมื่อก่อนผมคาใจมากว่าคนเราเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน เราต้องเกิดอีกนานเท่าไร เพราะผมเห็นชีวิตของผู้ประสบความสำเร็จระดับสูงสุดของประเทศหลายต่อหลายคนในที่สุดก็ต้องตาย แล้วก็เอาอะไรไปไม่ได้ จึงทำให้ผมคิดว่า มีอะไรอีกไหม?… นอกจากความรวยที่สุด มีชื่อเสียงที่สุด เพราะในเมื่อรวยที่สุดก็แค่นั้น มันน่าจะมีอะไรที่มันมากไปกว่านี้… หรือคนเราจะเกิดมาเพื่อรวยที่สุด แล้วเอาอะไรไปไม่ได้งั้นหรือ แล้วทำไมพระสัมมาสัมพุทธเจ้า 

       ก่อนที่พระองค์จะบวช พระองค์ก็เป็นที่สุดของความสุขที่ชาวโลกอยากได้ มีชาติตระกูลที่สูงสุด เป็นถึงลูกกษัตริย์ มีราชสมบัติอันมหาศาลมากมาย แต่ทำไมท่านกลับยอมทิ้งทุกอย่างแล้วมาบวช แสดงว่ามันต้องมีอะไรที่มากไปกว่านั้น อีกทั้งการที่ผมได้มาฟังพระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโยท่านบอกว่า คนเราเกิดมาเพื่อทำพระนิพพานให้แจ้ง แสวงบุญ สร้างบารมี และที่ต้องทำอย่างนี้ ก็เพื่อให้เราชนะการเกิด แก่ เจ็บ ตาย คำตอบตรงนี้โดนใจผม ทำให้ผมกระจ่าง…

เมื่อชีวิตมีพร้อม "คนดังบวชไม่สึก" เพราะ รู้ว่า ทุกคนต้องตาย แล้วอะไร ? คือสิ่งที่เขาแสวงหา

ผมว่า "การบวชเป็นโอกาสที่ลูกผู้ชายพึงใช้สิทธิ์นะครับ และเป็นโครงการที่ดีมาก ๆ ที่อยากให้มาลอง เราแค่ฟังว่าคนอื่นเขาว่าดีก็ได้ระดับหนึ่ง แต่ถ้าได้เข้ามาเองจะได้อะไรมากกว่าที่คิด เหมือนที่ผมเองได้รับ”

หลายคนอดสงสัยไม่ได้ว่า คุณดุ๊กจะบวชทั้งทีทำไมถึงเลือกวัดนี้

     “ผมเป็นคนทำอะไรหลุดแนวอยู่แล้ว และเป็นคนเปิดกว้างทางความคิด ซึ่งใครจะว่ายังไงผมก็คงไปห้ามอะไรเขาไม่ได้ แต่มาบวชวัดนี้แล้ว ผมได้อะไรหลายอย่าง ผมได้คำตอบที่ผมแสวงหา ผมได้บวชให้กับคุณพ่อคุณแม่ที่ผมรักมากที่สุด ผมได้ทำให้ท่านได้เข้าวัดมาทำบุญกับพระลูกชายของท่าน ผมชอบเห็นคนที่ผมรักมาวัดด้วยกัน เพราะการที่ผมทำอย่างนี้แล้ว ผมมีความสุข ซึ่งหลายๆคนที่เข้าวัดนี้จำนวนมากก็เหมือนผม คือ เขาพบความสุข มีชีวิตที่ดีขึ้น เพราะหากเข้าวัดนี้แล้ว ชีวิตเขาแย่ลงเขาคงไม่เข้าหรอกครับ… คำพูดของผมอาจจะทำให้คนเข้าใจได้ยากสักหน่อย เพราะหากไม่ได้มาวัดเองก็คงไม่เห็นภาพ”

         “สิ่งที่ผมทำก็ทำเพื่อตัวเอง หากเราปรารถนาให้ตัวเองมีชีวิตที่ดีขึ้น มีความสุข ก็ควรจะเลือกทำสิ่งดีๆ ให้กับตัวเอง ดีกว่าไปหมกมุ่นอบายมุข และผมถือว่า การทำความดีเพียงแค่นี้ มันยังน้อยมากนะครับ ถ้าจะแลกกับการให้สิ่งดีๆ บังเกิดขึ้นกับชีวิตเราในอนาคต ผมเชื่อว่าทุกคนอยากมีชีวิตที่ดีขึ้นนะครับ แต่หากจะถามว่า ด้วยวิธีการไหนล่ะ ผมว่า..ความดีพื้นฐานแบบง่ายๆ นี่ล่ะครับ จะนำความสุขความสำเร็จในชีวิตที่ยิ่งใหญ่มาสู่เราแบบเย็น ๆ"

ที่มา : www.dmc.tv

แชร์