ทรัมป์ ประกาศแผนการทำงานใน 100 วันแรก

นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ ประกาศแผนการทำงานใน 100 วันแรกที่จะเริ่มต้นกลางเดือนม.ค.ปีหน้า เพื่อให้ "อเมริกากลับมายิ่งใหญ่อีกครั้ง" ที่รวมถึงการถอนตัวออกจากทีพีพี http://winne.ws/n10516

1.1 พัน ผู้เข้าชม
ทรัมป์ ประกาศแผนการทำงานใน 100 วันแรก

          สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 พ.ย.ว่านายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐ เผยคลิปบอกเล่าแผนการทำงาน 100 วันแรกในทำเนียบขาว ว่าได้มีคำสั่งให้ทีมงานเตรียมการใช้อำนาจพิเศษในฐานะประธานาธิบดีสหรัฐ เพื่อ "ปฏิรูปกฎหมายและนำงานกลับคืนสู่อเมริกา" โดยในส่วนของนโยบายการค้าจะใช้อำนาจในฐานผู้นำสหรัฐ แจ้งการเตรียมถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกความร่วมมือยุทธศาสตร์เอเชีย-แปซิฟิก ( ทีพีพี ) ที่เป็นข้อตกลงการค้า "หายนะ" สำหรับอเมริกา

          ทั้งนี้ ทรัมป์ให้คำมั่นจะเริ่มการเจรจาการค้าในระดับทวิภาคีกับประเทศคู่ค้า โดยต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของความยุติธรรม เพื่อนำการผลิตภาคอุตสาหกรรมและตำแหน่งงานกลับคืนสู่อเมริกาอีกครั้ง ซึ่งการข่มขู่ถอนตัวออกจากทีพีพีและความตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ ( นาฟตา ) เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ทรัมป์สามารถซื้อใจกลุ่มชนชั้นแรงงานในรัฐที่เป็นพื้นที่อุตสาหกรรมของสหรัฐ หรือ "รัสต์เบลต์" จนหันมาเทคะแนนเสียงในการเลือกตั้งให้แก่พรรครีพับลิกันเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ทศวรรษ

          อย่างไรก็ตาม การถอนตัวออกจากทีพีพีเป็นเพียงหนึ่งในเป้าหมาย 6 ข้อของว่าที่ผู้นำสหรัฐคนที่ 45  ซึ่งจะเข้ารับตำแหน่งในวันที่ 20 ม.ค.ปีหน้าเท่านั้น โดยเป้าหมายที่เหลือได้แก่ ในด้านพลังงานทรัมป์ให้คำมั่นจะยกเลิกข้อจำกัดด้านที่ส่งผลต่อการจ้างงานในส่วนนี้ ที่รวมถึงการส่งเสริมพลังงานสะอาด และการสร้างงานอีกหลายล้านตำแหน่งให้มีค่าตอบแทนสูงขึ้น

          ในด้านกระบวนการตรวจสอบทางกฎหมายจะยกเลิกมาตรการที่เก่าและล้าสมัย ในด้านความมั่นคงจะมอบหมายให้มีการวางแผนอย่างรัดกุมเพื่อปกป้องระบบโครวร้างพื้นฐานของสหรัฐ จากการตกเป็นเป้าหมายโจมตีทางไซเบอร์ ขณะที่ในด้านการตรวจคนเข้าเมืองเตรียมมอบหมายให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบโครงการวีซ่าทั้งหมด ที่เป็น "การแย่งงาน" ไปจากชาวอเมริกัน และในด้านจริยธรรมจะออกกฏมายห้ามเจ้าหน้าที่รัฐซึ่งพ้นจากตำแหน่งทำงานเป็นล็อบบี้ยิสต์ในสหรัฐภายในเวลา 5 ปี และ "ตลอดชีวิต" สำหรับการทำงานให้รัฐบาลต่างชาติ

ขอขอบคุณคลิปจาก USATODAY

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก http://www.dailynews.co.th

 อ่านต่อที่ : http://www.dailynews.co.th/foreign/537977

แชร์