ผลแห่งการศรัทธาในพระพุทธเจ้า...จะเป็นเช่นไร ? 

ปัญหา ในศาสนาฝ่ายเทวนิยม ผู้ใดมีความเชื่อและความรักในพระผู้เป็นเจ้า ผู้นั้นย่อมมีหวังเข้าสู่สวรรค์ ในเรื่องนี้ พระพุทธเจ้าทรงสอนไว้อย่างไรบ้าง ?

พุทธดำรัสตอบ “....บุคคลใดมีเพียงความเชื่อ เพียงความรักเรา บุคคลนั้นทั้งหมดเป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า”

ผลแห่งการละกิเลส 

      ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้น เปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว 
     ภิกษุเหล่าใด เป็นพระอรหันต์ มีอาสวะสิ้นแล้ว อยู่จบพรหมจรรย์แล้ว มีกิจที่จำต้องทำ ทำเสร็จแล้ว มีภาระ ปลงลงแล้ว ลุถึงประโยชน์ของตนแล้ว มีสัญโญชน์ในภพหมดสิ้นแล้ว หลุดพ้นแล้วเพราะรู้โดยชอบ ภิกษุเหล่านั้นย่อมไม่มีวัฏฏะ เพื่อจะบัญญัติต่อไป. 

     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้น เปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว 
     ภิกษุเหล่าใดละโอรัมภาคิยสัญโญชน์ทั้ง ๕ ประการ ได้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมดเป็นโอปปาติกะ ปรินิพพานในโลกนั้น มีการไม่กลับจากโลกนั้นเป็นธรรมดา 

     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้น เปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว 
     ภิกษุเหล่าใดละสัญโญชน์ ๓ ประการได้แล้ว กับมีราคะโทสะและโมหะบางเบา ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นพระสกทาคามี มาสู่โลกนี้คราวเดียวเท่านั้น จักกระทำที่สุดแห่งทุกข์ได้.

      ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้น เปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว ภิกษุเหล่าใดละสัญโญชน์ ๓ ประการได้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด เป็นพระโสดาบัน ผู้มีอันไม่ตกต่ำเป็นธรรมดา เป็นผู้เที่ยง มีปัญญาเครื่องตรัสรู้เป็นเบื้องหน้า. 

     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้น เปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว 
     ภิกษุเหล่าใด ผู้เป็นธัมมานุสารี เป็นสัทธานุสารี ภิกษุเหล่านั้นทั้งหมด มีปัญญาเป็นเครื่องตรัสรู้ดีเป็นที่ไปในเบื้องหน้า. 

     ดูกรภิกษุทั้งหลาย ในธรรมที่เรากล่าวไว้ดีแล้วอย่างนี้ เป็นของตื้น เปิดเผย ปรากฏ แยกขยายแล้ว 
     บุคคลเหล่าใด มีเพียงความเชื่อ เพียงความรักในเรา บุคคลเหล่านั้นทั้งหมด เป็นผู้มีสวรรค์ เป็นที่ไปในเบื้องหน้า. 

     พระผู้มีพระภาคได้ตรัสพระพุทธพจน์นี้แล้ว ภิกษุทั้งหลายเหล่านั้นมีใจชื่นชม เพลิดเพลินภาษิตของพระผู้มีพระภาค ดังนี้แล. 

     จบ อลคัททูปมสูตรที่ ๒

อลคัททูปมสูตร มู. ม. (๒๘๘)
ตบ. ๑๒ : ๒๘๑ ตม. ๑๒ : ๒๓๐
ตอ. MLS. I : ๑๒๘

อ้างอิงจาก : http://www.84000.org/true/002.html

พระพุทธองค์ทรงเคารพในพระธรรมของพระองค์ที่ตรัสรู้ด้วยพระองค์เอง

แหล่งภาพจาก สังคม

อย่างไร ? ก็ตาม แม้พระพุทธองค์เอง ยังทรงนับถือเคารพ พระธรรมคำสอนของพระองค์เอง เพราะในโลกในจักรวาล ไม่มีผู้ใดเสมอเหมือนเทียบได้กับพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว พระพุทธองค์ผู้ซึ่งบริสุทธิ์ปราศจากอาสวะกิเลสใด ๆ เจือปนแล้ว กิเลสหมดสิ้นแล้ว แต่ก็ทรงเคารพในพระธรรม ขับเคลื่อนงานของพระพุทธศาสนาของพระองค์ด้วยพระธรรมคำสอนของพระองค์

        ข้อสังเกตของการตอบคำถามของพระพุทธองค์ กล่าวคือ พระพุทธองค์ไม่ได้ปฏิเสธหรือยอมรับ ความเชื่อความศรัทธา ของศาสนิกความเชื่อในผู้เป็นเจ้าของศาสนาอื่น ความเชื่ออื่น ๆ แต่พระพุทธองค์ ทรงย้ำให้พระภิกษุสงฆ์และพุทธศาสนิกชนให้เข้าใจและตรัสเพียงว่า “....บุคคลใดมีเพียงความเชื่อ เพียงความรักเรา บุคคลนั้นทั้งหมดเป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า” 

ซึ่งเป็นการตอบเพื่อไม่ให้มีการขัดแย้งในความเชื่อที่แตกต่างกับพระพุทธองค์นั่นเอง

สวรรค์เป็นที่ไป สำหรับผู้เพียงมีความเลื่อมใสในพระพุทธเจ้า ผู้สะอาดบริสุทธิ์สิ้นอาสวะกิเลสแล้ว

แหล่งภาพจาก www2.kalyanamitra.org

         ถึงแม้ เป้าหมายการนับถือพระพุทธศาสนาพระพุทธองค์ทรงมีจุดประสงค์คือให้ชาวพุทธได้น้อมนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มาใส่ตัว ใส่ใจปฏิบัติตาม จนเป็นปกตินิสัย ก็ตาม แต่การที่มนุษย์ผู้เป็นปุถุชน ย่อมมีกิเลสมากมายที่ยังสิงสถิตย์ในใจ ตราบใดที่ยังไม่มีความศรัทธาเชื่อถือยอมรับพระบรมศาสดา เสียแล้ว การน้อมนำพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มายึดถือปฏิบัติก็ย่อมเป็นไปได้ไม่ง่ายเลย

          ในความสะอาดบริสุทธิ์ของพระพุทธองค์ ดังนั้น พระพุทธองค์จึงตรัสว่า " “....บุคคลใดมีเพียงความเชื่อ เพียงความรักเรา บุคคลนั้นทั้งหมดเป็นผู้มีสวรรค์เป็นที่ไปในเบื้องหน้า”

รักษ์ธรรม รักษ์ชีวิต

6 ธ.ค. 2559