เติมแคลเซียมให้ร่างกาย!!! ด้วยเมนูอาหารไทยหากินง่าย
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญในร่างกายและเป็นแร่ธาตุที่มีมากที่สุดในร่างกาย โดย 99% ของแคลเซียมในร่างกายอยู่ในกระดูกและฟัน นอกจากนี้แคลเซียมยังเป็นปัจจัยสำคัญในการแข็งตัวของเลือด และจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ ฯลฯ http://winne.ws/n11043
เติมแคลเซียมให้ร่างกาย ด้วยเมนูอาหารไทยหากินง่าย ไม่แน่นะ กับข้าวที่คุณทานอยู่ทุกวัน อาจมีแร่ธาตุที่สำคัญต่อกระดูกและฟันแฝงอยู่
อาหารไทย อาหารประจำชาติที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์จนทำให้ชาวต่างชาติติดใจกันจนต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเลมารับประทานอาหารไทยแบบแท้ ๆ กันถึงบ้านเรา นอกจากจะเต็มไปด้วยคุณค่าทางอาหารและสมุนไพรที่ดีต่อสุขภาพแล้ว หลาย ๆ เมนูยอดฮิตก็ยังเต็มเปี่ยมไปด้วยแคลเซียม สารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้กับกระดูกและฟันได้อย่างไม่น่าเชื่อ บางทีหนึ่งในเมนูนั้นอาจเป็นจานโปรดของคุณก็ได้
แต่ก่อนที่จะได้รู้ว่าอาหารไทยจานไหนมีแคลเซียมสูงบ้าง เราไปดูกันก่อนว่าแคลเซียมนั้นมีประโยชน์อย่างไรบ้าง นอกจากทำให้กระดูกแข็งแรงแล้วยังดีต่อร่างกายยังไงอีกล่ะเนี่ย
แคลเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีความสำคัญในร่างกายและเป็นแร่ธาตุที่มีมากที่สุดในร่างกาย โดย 99% ของแคลเซียมในร่างกายอยู่ในกระดูกและฟัน นอกจากนี้แคลเซียมยังเป็นปัจจัยสำคัญในการแข็งตัวของเลือด และจำเป็นต่อการทำงานของระบบประสาทและกล้ามเนื้อ แถมยังช่วยควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อหัวใจ รวมทั้งกระตุ้นการทำงานของเอนไซม์หลายชนิดในร่างกายอีกด้วย โดยร่างกายจะดูดซึมแคลเซียมจากอาหารไปใช้ และจะสามารถดูดซึมได้ดีขึ้นหากรับประทานควบคู่กับสารอาหารและวิตามินต่าง ๆ เช่น วิตามินดี กรดอะมิโน แลคโตส เป็นต้น
นอกจากนี้ปริมาณแคลเซียมที่คนควรได้รับต่อวันก็มีความแตกต่างกันในแต่ละช่วงวัยดังนี้ค่ะ
- เด็กอายุ 1 - 10 ปี ควรได้รับแคลเซียมวันละ 800 - 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- วัยรุ่นอายุ 11 - 24 ปี ควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,000 มิลลิกรัมต่อวัน
- ผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ รวมทั้งสตรีในวัยหมดประจำเดือน ควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน
- สตรีมีครรภ์ หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตร ควรได้รับแคลเซียมวันละ 1,500 มิลลิกรัมต่อวัน
ทั้งนี้หากร่างกายได้รับแคลเซียมไม่เพียงพอ กระดูกจะเกิดการเสื่อมสลายของแคลเซียมเพื่อนำแคลเซียมมาใช้ในการรักษาระดับแคลเซียมในเลือดให้คงที่ และถ้าหากเกิดการขาดแคลเซียมสะสมเป็นเวลานานก็อาจจะทำให้กระดูกพรุนและหักได้ง่าย โดยเฉพาะกระดูกบริเวณใกล้ข้อมือ หรือบริเวณสะโพก และอาจจะทำให้เกิดอาการกระดูกสันหลังทรุด ทำให้เจ็บหลังได้ง่าย แถมยังส่งผลให้เกิดอาการหลังค่อมได้อีกด้วย นอกจากนี้หากในเลือดมีปริมาณแคลเซียมต่ำก็อาจจะส่งผลทำให้เกิดอาการผิดปกติ อาทิเช่น หงุดหงิดง่าย ขา เกร็ง กระตุก มีอาการเหน็บที่นิ้วมือนิ้วเท้า รอบปาก ตลอดจนเป็นตะคริวบ่อยขึ้น และยังอาจมีอาการกล้ามเนื้อเกร็งตัวและตอบสนองไวผิดปกติ บางรายอาจจะถึงกับหัวใจล้มเหลวได้ค่ะ
ฉะนั้นจึงควรรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย ซึ่งนอกจากการดื่มนมแล้ว การรับประทานอาหารที่มีแคลเซียมก็สามารถสร้างเสริมแคลเซียมให้ร่างกายได้ เราไปดูกันเลยดีกว่าว่ามีอาหารไทยจานไหนบ้างที่มีปริมาณแคลเซียมสูงค่ะ
น้ำพริกปลาทู
เมนูอาหารแบบเรียบง่ายนี้ขอบอกเลยว่ามีแคลเซียมสูงปรี๊ดเลยเชียวล่ะ เพราะส่วนประกอบแต่ละอย่างที่อยู่ในน้ำพริกนั้นมีแคลเซียมอยู่ทั้งนั้นเลย แถมยังมีสารอาหารอื่น ๆ ที่สำคัญอีกด้วย โดยในแต่ละส่วนผสมของเมนูนี้มีปริมาณแคลเซียมดังนี้ค่ะ
- กะปิ : มีปริมาณแคลเซียม 1,556 มิลลิกรัม ต่อกะปิ 100 กรัม
- พริกขี้หนู : มีปริมาณแคลเซียม 4 มิลลิกรัมต่อพริก 100 กรัม
- กระเทียม : มีปริมาณแคลเซียม 5 มิลลิกรัมต่อกระเทียม 100 กรัม
- กุ้งแห้ง : มีปริมาณแคลเซียม 2,305 มิลลิกรัมต่อกุ้งแห้ง 100 กรัม
- หอมแดง : มีปริมาณแคลเซียม 16 มิลลิกรัมต่อหอมแดง 100 กรัม
- ปลาทูทอด : มีปริมาณแคลเซียม 136 มิลลิกรัมต่อปลาทู 100 กรัม