8 ทริคเด็ด ๆ... ดูแลปากแห้งในหน้าหนาว

ปากแห้งหน้าหนาว ดูแลอย่างไรให้เรียวปากสวยอิ่มสุขภาพดีตลอดหน้าหนาว http://winne.ws/n11048

528 ผู้เข้าชม
8 ทริคเด็ด ๆ... ดูแลปากแห้งในหน้าหนาว

 เข้าหน้าหนาวทีไร สาว ๆ ก็มักจะต้องพบเจอกับปัญหาริมฝีปากแตกแห้งกันทุกที เพราะด้วยอากาศที่แห้งและเย็น มักจะเป็นสาเหตุให้ร่างกายขาดความชุ่มชื้น รวมไปถึงริมฝีปากก็จะแห้งแตก ลอกเป็นขุย และบางรายอาจถึงขั้นเลือดไหลซิบ ๆ จนอาจทำให้สาว ๆ หลายคนทรมานและเสียความมั่นใจจนไม่กล้ายิ้มไปตาม ๆ กันเลยทีเดียว ดังนั้นอย่าปล่อยให้ริมฝีปากแห้งจนถึงขั้นที่รักษาได้ยาก มาเตรียมรับมือและโบกมือลาปัญหาริมฝีปากแห้งในหน้าหนาวนี้ด้วยเทคนิคที่เอามาฝากกันดีกว่า


1. ทาริมฝีปากด้วยลิปบาล์ม

          ลิปบาล์มถูกผลิตขึ้นมาเพื่อบำรุงให้ความชุ่มชื้น และรักษาอาการริมฝีปากแห้งแตกโดยเฉพาะ นอกจากจะทำให้ริมฝีปากเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ตลอดเวลาแล้ว ยังจะมีสารบำรุงและวิตามินที่มีประโยชน์ต่อริมฝีปากอีกด้วย ดังนั้นหน้าหนาวนี้ สาว ๆ ควรพกลิปบาล์มติดตัวเอาไว้สักแท่ง เพราะถือเป็นตัวช่วยที่ดีที่สุดค่ะ

 2. ทาริมฝีปากด้วยออยล์

          ออยล์หรือน้ำมันที่สกัดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันละหุ่ง น้ำมันสกัดจากเมล็ดทานตะวัน และน้ำมันมะกอก จะสามารถใช้บรรเทาอาการริมฝีปากแห้งได้ โดยใช้คอตตอนบัดจุ่มลงในออยล์แล้วนำมาทาริมฝีปาก จากนั้นให้นวดเบา ๆ เพื่อให้น้ำมันซึมและเคลือบริมฝีปาก จะทำให้ปากเนียนนุ่มชุ่มชื้นได้ตลอดทั้งวันเลยค่ะ

 3. ทาริมฝีปากด้วยเจลว่านหางจระเข้

          เป็นที่ทราบกันดีว่าเจลว่านหางจระเข้ หรือ อโลเวร่า จะมีคุณสมบัติในการบำรุงรักษาเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวพรรณ รวมถึงริมฝีปากได้เป็นอย่างดี เพียงแค่ใช้เจลอโลเวร่าแบบ 100% มาทาที่ริมฝีปาก วิธีนี้จะช่วยบรรเทาอาการปากแห้งแตกของริมฝีปากได้เป็นอย่างดี


8 ทริคเด็ด ๆ... ดูแลปากแห้งในหน้าหนาว

4. สครับริมฝีปาก

          หากสาว ๆ คนไหนที่ปากแห้ง แต่ยังไม่ถึงขั้นปากแตก อาจเป็นเพราะมีเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วเกาะอยู่ที่ริมฝีปากมากเกินไป จึงทำให้เรียวปากมีขุยขาว ๆ ลอก ๆ เกาะอยู่ ซึ่งวิธีที่จะช่วยได้ก็คือกระตุ้นการผลัดผิวที่ริมฝีปากด้วยการสครับริมฝีปากอย่างเบามือ ซึ่งจะทำให้ผิวหนังชั้นบนที่แห้งเป็นขุยค่อย ๆ หลุดลอกออกไป พร้อมเผยผิวริมฝีปากที่สุขภาพดีกว่าขึ้นมา โดยการใช้แปรงสีฟันขนนุ่ม ๆ ขัดเบา ๆ ที่ริมฝีปาก เมื่อเสร็จแล้วให้ล้างด้วยน้ำและทาทับด้วยลิปบาล์มเพื่อเป็นการล็อกความชุ่มชื้นให้แก่เรียวปากอีกครั้ง

 5. รักษาแผลเรียวปากแห้งแตกด้วยน้ำผึ้ง

          น้ำผึ้งมีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อโรคอ่อน ๆ จึงสามารถใช้รักษาริมฝีปากที่แห้งแตกจนลอก แสบ และมีเลือดไหลซิบ ๆ ได้เป็นอย่างดี โดยใช้คอตตอนบัดจุ่มน้ำผึ้งแท้ แล้วทาลงบนริมฝีปาก ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จึงค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นเช็ดออก เมื่อทำเป็นประจำ แผลริมฝีปากที่แห้งและลอกจะบรรเทาลง

 6. รับประทานอาหารให้ถูกหลัก

          อาหารที่กินเข้าไป ถือเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยสำคัญที่จะช่วยให้ริมฝีปากมีสุขภาพดูดีขึ้นได้จากภายใน อย่างเช่น การรับประทานอาหารที่มีซัลเฟอร์สูงอย่าง ไข่ กระเทียม และหน่อไม้ฝรั่ง จะช่วยให้ผิวพรรณรวมทั้งริมฝีปากดูสดชื่น เต่งตึง นอกจากนี้อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินเอ บี และซี ซึ่งพบมากในผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ แครอท ผักใบเขียว โยเกิร์ตรสธรรมชาติ จะช่วยทำให้ริมฝีปากมีสุขภาพดีขึ้นได้

8 ทริคเด็ด ๆ... ดูแลปากแห้งในหน้าหนาวhttps://naminie.wordpress.com/2012/08/23/

 7. ดื่มน้ำอย่างเพียงพอ

          น้ำเป็นปัจจัยสำคัญและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะเติมความชุ่มชื้นให้กับร่างกาย รวมทั้งริมฝีปาก เพราะฉะนั้นอย่าลืมดื่มน้ำอย่างพอเพียงเพื่อริมฝีปากที่สวยและอวบอิ่ม เพียงแค่ดื่มให้ได้ 8-10 แก้วในแต่ละวัน และทำอย่างสม่ำเสมอ รับรองว่าอาการริมฝีปากแห้งจะดีขึ้นอย่างแน่นอนค่ะ

 8. รับประทานวิตามิน

          ริมฝีปากจะดูเปล่งปลั่งและมีสุขภาพดีขึ้นได้ อาจจะต้องรับประทานวิตามินเพื่อเป็นตัวช่วยอีกแรงค่ะ อย่างเช่น โอเมก้า 3 วิตามินเอ และวิตามินบี เพียงแค่รับประทานให้ได้ปริมาณที่เหมาะสม จะช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นขึ้นได้ ทั้งนี้ควรลองปรึกษาเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำเสียก่อนนะคะ

          หน้าหนาวนี้มาดูแลริมฝีปากของเราไม่ให้แตกแห้งกันดีกว่านะคะสาว ๆ เพราะนอกจากจะทำให้เราดูเป็นสาวสุขภาพดีแล้ว ยังจะช่วยให้เรายิ้มได้อย่างมั่นใจอีกด้วย เพียงแค่เอาเทคนิคที่เอามาฝากในวันนี้ไปลองใช้กันดู ไม่ว่าจะกี่หน้าหนาว รับรองว่าริมฝีปากของคุณก็จะดูสวยอมชมพูแบบมีสุขภาพดีได้ตลอดเวลาเลย


ขอบคุณข้อมูลและภาพhttp://women.kapook.com/view105214.html

แชร์