ชาวพุทธ..ตื่นหรือยัง ? อย่ารอให้ ..?..ไปไล่รื้อวัดทั่วไทยเช่นประเทศอดีตเมืองพุทธที่เคยเห็นกันนะครับ

ในเสาหลัก ๓ สิ่งนี้ เป็นที่เห็นได้ชัดว่า วัด คือ เสาที่สำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานที่ติดอยู่ในใจของบรรพชนและถูกปลูกฝังให้อยู่ในสายเลือด จึงตกเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องทำลายให้ได้ http://winne.ws/n11770

637 ผู้เข้าชม
ชาวพุทธ..ตื่นหรือยัง ? อย่ารอให้ ..?..ไปไล่รื้อวัดทั่วไทยเช่นประเทศอดีตเมืองพุทธที่เคยเห็นกันนะครับ

เริ่มจะมองอะไรออกกันบ้างแล้วใช่ไหมครับ

         เวลาจะทำลายอะไรสักอย่าง ไม่ใช่ว่าจู่ ๆ จะทำลายได้ทันที ยิ่งเป็นเรื่องใหญ่ ๆ ก็ยิ่งต้องอาศัยวิธีการ และเวลาที่เหมาะสม

         โดยเฉพาะองค์กรที่เกี่ยวกับความเชื่อ ความศรัทธาเช่น องค์กรพระพุทธศาสนา กว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ไม่ใช่วันสองวัน แต่ใช้เวลากว่าครึ่งศตวรรษทีเดียว

         เมื่อครั้งผู้เขียนยังเยาว์ วัด บ้าน โรงเรียน คือ เสาหลักที่ค้ำสังคมไทยอยู่ ทำให้ประเทศชาติเกิดความเข้มแข็ง การจะโค่นล้มสังคมไทย จึงต้องทำให้ความสัมพันธ์ของเสาหลักทั้งสามนี้สูญหายไป

          ในเสาหลัก ๓ สิ่งนี้ เป็นที่เห็นได้ชัดว่า วัด คือ เสาที่สำคัญ เพราะเป็นพื้นฐานที่ติดอยู่ในใจของบรรพชนและถูกปลูกฝังให้อยู่ในสายเลือด จึงตกเป็นเป้าหมายสำคัญที่ต้องทำลายให้ได้          

ชาวพุทธ..ตื่นหรือยัง ? อย่ารอให้ ..?..ไปไล่รื้อวัดทั่วไทยเช่นประเทศอดีตเมืองพุทธที่เคยเห็นกันนะครับ

        แผนการทำลายจึงเริ่มต้นด้วยการแยกวัดออกจากโรงเรียน ทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับโรงเรียนเกิดช่องว่างขึ้นทันที จากเดิมที่พระเคยเป็นครูสอนในโรงเรียน ก็กลายเป็นพระไม่มีความจำเป็นแต่อย่างใด (ลดบทบาทพระสงฆ์)

         จากนั้นแผนแยกวัด กับบ้าน ก็เกิดขึ้นด้วยสภาพสังคมที่ต้องดิ้นรนทำมาหากิน ทำให้คนไม่มีเวลาไปวัด จึงเป็นโอกาสของการละเลงสีให้วัด โดยการนำพฤติกรรมที่เสียหายของพระหรือวัด ลงข่าวทุกวัน แค่วันละข่าว ก็ทำให้ศรัทธาเสื่อมถอยแล้ว

มาตรา ๗ เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชซึ่่งเดิมเป็นหน้าที่ของมส.นำเสนอนามพระราชาคณะ

ชาวพุทธ..ตื่นหรือยัง ? อย่ารอให้ ..?..ไปไล่รื้อวัดทั่วไทยเช่นประเทศอดีตเมืองพุทธที่เคยเห็นกันนะครับ

         เมื่อแยกวัด กับบ้าน และโรงเรียนได้แล้ว แผนขั้นต่อมาก็คือ การทำให้แตกความสามัคคีกันในหมู่ชาวพุทธ โดยการทำให้เกิดการประจันหน้ากันของสายหรือสำนักต่าง ๆ กลายเป็นการโจมตีกันเองของชาวพุทธ

          ในที่สุดก็จะมีบุคคลหรือหน่วยงานที่อยากจะเข้ามาปฏิรูปวงการศาสนาโดยอาศัยอำนาจทางกฎหมายที่มีอยู่เข้ามาดำเนินการโดยอ้างเหตุว่ามหาเถรสมาคมไม่ทำหน้าที่ จึงค่อย ๆ ลดบทบาทขององค์กรปกครองสูงสุดของสงฆ์ออกไป

           นั่นคือ การเด็ดยอดของพระพุทธศาสนาในประเทศไทย

           ซึ่งปัจจุบัน วิธีการต่าง ๆ กำลังดำเนินมาถึงจุดนี้ เมื่อองค์กรทางโลกกำลังก้าวล่วงเข้ามาจะแก้ไขกฎหมายของสงฆ์โดยไม่มีการปรึกษาองค์กรทางธรรมหรือมหาเถรสมาคมเลย

สนช.ซึ่งเป็นฆราวาสเข้าชื่อแก้พ.ร.บ.คณะสงฆ์ผ่านฉลุย 3 วาระรวด ชั่วโมงเดียว วันนี้

ชาวพุทธ..ตื่นหรือยัง ? อย่ารอให้ ..?..ไปไล่รื้อวัดทั่วไทยเช่นประเทศอดีตเมืองพุทธที่เคยเห็นกันนะครับ

          จากความต้องการแก้ไขในมาตรา ๗ เรื่องการแต่งตั้งสมเด็จพระสังฆราชซึ่งเป็นประมุขสงฆ์ เดิมทีนั้นเป็นหน้าที่ของมหาเถรสมาคมในการนำเสนอ แล้วให้นายกรัฐมนตรีเป็นผู้ทูลเกล้าฯ ให้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงวินิจฉัย ก็พยายามจะตีความให้เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีในการนำเสนอ เมื่อได้รับการคัดค้าน ในที่สุดเพื่อให้บรรลุเป้าหมายอย่างง่ายดาย จึงมาถึงจุดที่ตัดมหาเถรสมาคมออกไปเลย และล่าสุดร่างกฎหมายนี้ก็ผ่านอย่างง่ายดายด้วยมติ ๑๘๒ ต่อ ๐ เสียด้วย

            ณ เวลานี้พุทธบริษัทคงจะทำอะไรได้ยาก คงต้องจับตาดูกันต่อไปว่า จากมาตรา ๗ นี้ จะมีการรุกคืบไปอีกแค่ไหน อย่าคิดว่าเป็นเรื่องไกลตัว เพราะแท้จริงแล้ว นี่คือจุดเริ่มต้นของการล้มองค์กรสูงสุดของสงฆ์คือ มหาเถรสมาคม ซึ่งจะมีผลต่อความมั่นคงของพระพุทธศาสนาในประเทศไทยเลยทีเดียว

อนาคาริก

12/29/16

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://hansolo63.blogspot.com/2016/12/blog-post_29.html

แชร์