ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) สนง.ใหญ่นิวยอร์ก ชี้ รัฐบาลทหารไทยเหลวรักษา ‘สัญญาสิทธิมนุษยชน’

องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก เผยแพร่รายงานในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม ตามเวลาไทย ระบุว่า ในปี 2559 รัฐบาลไทย นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะทำตามคำสัญญา http://winne.ws/n12249

580 ผู้เข้าชม
ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) สนง.ใหญ่นิวยอร์ก ชี้ รัฐบาลทหารไทยเหลวรักษา ‘สัญญาสิทธิมนุษยชน’

ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนไทยปี 2559 ชี้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชาไม่ได้ทำตามคำมั่นกับสหประชาชาติที่จะฟื้นประชาธิปไตย

      องค์กรสิทธิมนุษยชน ฮิวแมนไรท์วอทช์ ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในนิวยอร์ก เผยแพร่รายงานในวันศุกร์ที่ 13 มกราคม ตามเวลาไทย ระบุว่า ในปี 2559 รัฐบาลไทย นำโดยพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่าที่จะทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับสมัชชาใหญ่สหประชาชาติและคณะมนตรีสิทธิมนุษยชน ที่จะเคารพหลักสิทธิเสรีภาพและฟื้นฟูระบอบประชาธิปไตย

ประชามติปิดปาก

      รายงานระบุว่า ก่อนหน้าการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญเมื่อ 7 สิงหาคม 2559 กลุ่มผู้ยึดอำนาจในนามคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (คสช.) ปิดกั้นการใช้สิทธิในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมโดยสงบ โดยใช้กฎหมายต่างๆ คือ กฎหมายประชามติ กฎหมายคอมพิวเตอร์ กฎหมายอาญาว่าด้วยความผิดฐานยุยงปลุกปั่น และคำสั่งคสช.ฉบับต่างๆ ส่งผลให้บุคคลที่วิจารณ์ร่างดังกล่าวและรณรงค์ให้ ‘โหวตโน’ ถูกจับกุมอย่างน้อย 120 คน  

ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) สนง.ใหญ่นิวยอร์ก ชี้ รัฐบาลทหารไทยเหลวรักษา ‘สัญญาสิทธิมนุษยชน’

@  นักกิจกรรมถูกควบคุมตัวฐานละเมิดคำสั่งห้ามชุมนุมเกิน 5 คนในกรุงเทพฯเมื่อ 27 เมษายน 2559 (photo: AFP)

ห้ามแสดงออก

       ในรอบปีที่ผ่านมา รัฐบาลคณะรัฐประหารของไทยยังคงปิดกั้นการแสดงออก อาทิกรณีกลุ่มแอมเนสตี อินเตอร์เนชั่นแนล ต้องยกเลิกการแถลงข่าวในกรุงเทพฯเพื่อเปิดตัวรายงานว่าด้วยการทรมานในประเทศไทยหลังจากทางการขู่จับกุมทีมงานแอมเนสตี้โดยอ้างว่าไม่มีใบอนุญาตทำงาน, กรณีคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) กดดันให้โทรทัศน์ พีซทีวี ระงับออกอากาศเป็นเวลา 30 วัน และวอยซ์ทีวีกับสปริงนิวส์งดนำเสนอความเห็นของนักวิเคราะห์ข่าวที่วิจารณ์รัฐบาล

       รัฐบาลทหารนำกฎหมายว่าด้วยความผิดฐานยุยงปลุกปั่นมาใช้อย่างกว้างขวาง เช่น กรณี ‘จับขันแดง’ ที่เชียงใหม่ นับแต่รัฐประหารมีคนถูกเล่นงานด้วยข้อหานี้แล้วอย่างน้อย 38 คน ขณะเดียวกัน ตั้งแต่ทหารยึดอำนาจ มีการดำเนินคดีประชาชนในข้อหาหมิ่นพระบรมเดชานุภาพแล้วอย่างน้อย 68 คน นอกจากนี้ รัฐบาลยังขอให้ประเทศต่างๆส่งตัวบุคคลผู้ขอลี้ภัยกลับมาดำเนินคดีในประเทศในข้อหาหมิ่นสถาบันฯ ด้วย

กักขังตามอำเภอใจ

       เมื่อวันที่ 12 กันยายน พล.อ.ประยุทธ์ยกเลิกคำสั่งคสช. 3 ฉบับที่กำหนดให้พลเรือนขึ้นศาลทหารในคดีความมั่นคง เช่น ยุยงปลุกปั่น หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ อย่างไรก็ดี การยกเลิกดังกล่าวไม่มีผลย้อนหลัง จึงไม่ได้เป็นคุณแก่คดีที่ขึ้นศาลทหารแล้วกว่า 1,800 คดี

      เวลานี้ ยังมีพลเรือนถูกควบคุมตัวภายในกรมทหารในกรุงเทพฯ โดยไม่มีกลไกป้องกันการละเมิดสิทธิของผู้ต้องหา รวมจำนวน 45 คน

ลอยนวลพ้นผิด

       รายงานบอกอีกว่า เหตุใช้ความรุนแรงอันเนื่องจากแรงจูงใจทางการเมืองหลายกรณีในประเทศไทย ยังไม่ปรากฎการรับผิด

       แม้มีหลักฐานว่ากองกำลังความมั่นคงของรัฐมีส่วนในกรณีบาดเจ็บล้มตายส่วนใหญ่ระหว่างการเผชิญหน้าทางการเมืองเมื่อปี 2553 ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 90 คน บาดเจ็บกว่า 2,000 คน ทว่าจนถึงปีที่ผ่านมายังไม่มีผู้กำหนดนโยบายในยุครัฐบาลของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะหรือนายทหารคนใด ถูกแจ้งข้อหาสังหารและประทุษร้ายผู้ชุมนุมและผู้ผ่านไปมา

ฮิวแมนไรท์วอทช์ (HRW) สนง.ใหญ่นิวยอร์ก ชี้ รัฐบาลทหารไทยเหลวรักษา ‘สัญญาสิทธิมนุษยชน’

@  การ์ดของกลุ่มกปปส.เฝ้าตรวจเหตุการณ์ขณะชุมนุมที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเมื่อ 4 มีนาคม 2557 (photo: AFP)

       ในขณะที่แกนนำแนวร่วมประชาชนต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) และผู้สนับสนุน ถูกดำเนินคดีในข้อหาร้ายแรงต่างๆจากการชุมนุมเมื่อปี 2553 ไปแล้วนั้น แทบไม่ปรากฏความคืบหน้าในการสอบสวนและเอาผิดกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย (พธม.) ที่ได้ก่อเหตุเผชิญหน้าเมื่อปี 2551 หรือกลุ่มกปปส.ที่ได้ก่อเหตุเมื่อปี 2556-2557.

Source: HRW’s country report 2017

Photo:  AP

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/thailand/451752.html

แชร์