สับปะรดมีประโยชน์อย่างไร

1. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับ วิตามินซี ที่สำคัญคือวิตามินช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ ฯลฯ http://winne.ws/n12266

6.7 พัน ผู้เข้าชม
สับปะรดมีประโยชน์อย่างไร

         สับปะรด เป็นผลไม้ลำต้นเตี้ย เจริญเติบโตได้ดีในสภาวะอากาศร้อนแห้ง แล้ง มีดินปนทราย ขนาดของผลสับปะรดจะใหญ่กว่าลำต้น ส่วนใบจะเรียวยาว และแข็งแรงใช้ในการกักเก็บน้ำได้ดีครับเพราะมีเส้นใยที่เหนียวมาก ตรงเปลือกของสับปะรดจะมีลักษณะแข็ง มีตา ปรากฎอยู่รอบ ๆ เปลือก เนื้อสับปะรดมีรสหวานอมเปรี้ยวชุ่มน้ำ บางพันธุ์มีรสหวานฉ่ำ ส่วนมากนะครับจะนิยมปลูกทั้งพันธุ์ปัตตาเวีย และพันธุ์ภูเก็ต แต่ในบ้านเราส่วนมากที่ขายกันอยู่ก็จะมี สับปะรด นางแล ภูแล เพชรบุรี ศรีราชา แล้วส่วนต่างๆของสับปะรดเนี่ย เขาเอามาทำอะไรกันบ้าง

·        ผลสับปะรด จะเป็นส่วนที่มีเนื้อและน้ำซึ้งมีประโยชน์มากมายเลยครับ เราจะกินผลสดๆก็ได้ รวมไปถึงมาแปรรูปเป็น สับปะรดกวน ,สับปะรดในน้ำเชื่อมบรรจุกระป๋อง ที่เราเห็นทั่วไป , แยมสับปะรดและสับปะรดอบแห้ง หรือจะคั้นเป็นเครื่องดื่มน้ำสับปะรด,น้ำส้มสายชูก็ได้ครับ

·        ใบสับปะรด รู้ไหมครับว่าใบสับปะรดเนี่ยเป็นเศษวัสดุที่มีมูลค่ามากเลยครับ เพราะเส้นใยที่เหนียวนั้นสามารถนำมาแปรรูปเป็นผ้าใยสับปะรด ซึ่งชาวฟิลิปปินส์จะนิยมนำมาทำเป็นผ้าพื้นเมืองด้วยครับอีกทั้งยังนำมาประยุกต์ใช้ทำเป็นกระดาษใบสับปะรด หรือเชือก

·        เปลือกสับปะรด  มีประโยชน์มากเช่นเดียวกันครับเพราะตรงส่วนตาของสับปะรดนั้น อุดมไปด้วยสารอาหารที่มีคุณค่าจึงนิยมนำมาแปรรูปเป็นอาหารของโคหรือจะอบแห้งเผื่อนำมาเป็นส่วนผสมหลักๆของอาหารสัตว์อื่นๆ แถมยังนำมาทำเป็นน้ำหมักปุ๋ยชีวภาพได้ด้วยครับ

·        แกนสับปะรด  บางสายพันธุ์นะครับที่มีแกนกลางใหญ่ๆ จะนิยมนำมาแปรรูปเป็นแกนสับปะรดอบแห้ง และ แกนสับปะรดหยี ที่ไม่นิยมรับประทานสดๆเพราะเนื้อของแกนสับปะรดจะมีลักษณะแข็งกระด้างครับ

ประโยชน์และสรรพคุณของ สับปะรด

1. ช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง รับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นก็จะช่วยให้ร่างกายได้รับวิตามินซี ที่สำคัญคือวิตามินช่วยในการทำงานของเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน และยังช่วยให้ระบบภูมิคุ้มกันแข็งแรง เพื่อป้องกันไม่ให้ร่างกายติดเชื้อและต่อสู้กับเชื้อโรคต่างๆ การรับประทานสับปะรดวันละหนึ่งชิ้นจึงเป็นการเพิ่มแรงต้านทานโรคให้แก่ร่าง กายแต่ในผู้ที่มีเลือดจางไม่ควรกินมากนัก 

2. ช่วยในการย่อยอาหาร สับปะรดมีกากใยอาหารอาหารมากซึ่งมีความสำคัญกับการย่อยอาหาร และเป็นที่รู้กันอยู่ว่ากากใยอาหารช่วยลดคอเลสเตอรอล ควบคุมน้ำตาลในเส้นเลือดและช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งเพราะในสับปะรดมีเอนไซม์ตามธรรมชาติที่มีชื่อว่า “บรอมีเลน” สามารถช่วยย่อยอาหารได้ทั้งใสภาวะเป็นกรดและด่าง จึงเหมาะมากที่จะพาไปช่วยย่อยในกระเพาะซึ่งเป็นกรด หากกินสัปปะรดหลังอาหารเป็นประจำ จะช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายด้วยนะครับ (ใครที่กำลังอยากลดความอ้วนนี่ ผมคอนเฟริมเลยครับ ได้ผลดีจริงๆ ) 

3. ช่วยให้เลือดลมไหลเวียนดี สับปะรดมีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ เช่น วิตามินซี เบต้าแคโรทีน และแมงกานีสที่จะช่วยป้องกันอันตรายจากอนุมูลอิสระที่จะทำลายโครงสร้างของ เซลล์ และอาจทำให้เป็นโรคหัวใจและอัมพฤกษ์ อัมพาต นอกจากนี้ สารแอนตี้ออกซิแดนท์ยังมีความสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอีกด้วย 

4. ป้องกันความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำและลดความเสี่ยงจากโรคมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งกระเพาะอาหาร และมะเร็งเต้านม เพราะสับปะรด มีสารแอนตี้ออกซิแดนท์ที่ช่วยป้องกันการเติบโตของเซลล์ร้ายในปอด ป้องกันมะเร็งรังไข่ 

5. ช่วยป้องกันโรคต่างๆ การรับประทานผักและผลไม้ให้ได้วันละ 5 กำมือจะช่วยลดการเสียชีวิตด้วยโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น อัมพฤกษ์ อัมพาต หรือมะเร็งได้ถึง 20% อีกทั้งยังเสริมสร้างการดูดซึมอาหาร เพราะสับปะรดมีกรด และวิตามินหลายชนิดครับ 

6. ช่วยให้เหงือกแข็งแรง สับปะรดช่วยให้สุขภาพในช่องปากแข็งแรง เนื่องจากสับปะรดมีวิตามินสูงที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงจากโรคเหงือกได้ 

7. ช่วยยับยั้งการอักเสบ เอนไซม์ Bromelain ในสับปะรดจะช่วยยับยั้งการอักเสบ ทั้งนี้ ชาวอเมริกาใต้โบราณใช้สับปะรดเป็นยารักษาโรคผิวหนังและรักษาบาดแผล  

สับปะรดดีต่อสุภาพสตรีและผู้ป่วย

        สำหรับสุภาพสตรีที่มีอาการปวดประจำเดือน อาการอักเสบจากริดสีดวงทวาร หรือผู้ป่วยอาการที่เกี่ยวข้องกับเส้นเลือดดำ โรคกระดูก ข้ออักเสบ รูมาตอยด์ เก๊าท์ หากรับประทานสับปะรดเป็นประจำ จะช่วยบรรเทาอาการต่างๆเหล่านี้ได้ รวมไปถึงสมานแผลให้ทุเลาได้เร็วขึ้นด้วยครับ  

วิธีรับประทานสับปะรดให้ถูกต้อง

          สำหรับการรับประทานที่ถูกวิธีนะครับ ให้ใช้มีดใหญ่เฉือนเปลือกออกจนหมด จากนั้นจึงใช้มีดตัดส่วนตาออกเป็นร่องเฉียงเป็นแถว ๆ เอาส่วนตาออกแล้วตัดเป็นชิ้น แล้วเอาเกลือแกงทาให้ทั่วหรือมิฉะนั้นก็แช่ในน้ำเกลืออ่อน ๆ ประมาณ 2-3 นาที การทาเกลือหรือแช่ในน้ำเกลือนอกจากจะทำให้รสชาติดีขึ้นแล้วยังเป็นการทำลายสารจำพวก Glycoalkaoid และเอ็มไซม์บางชนิด ซึ่งเป็นสารที่ทำให้เกิดอาการแพ้ได้หลังรับประทานครับ

ข้อแนะนำของสับปะรด

          ถึงแม้ว่าสับปะรด จะเป็นผลไม้ที่เยี่ยมยอดเลยก็ว่าได้สำหรับเรานะครับ แต่หากรับประทานในปริมาณมากๆ อาจเป็นผลเสียต่อร่างกายได้ ควรรับประทานสับปะรด ควบคู่ไปกับการทานอาหาร และผักผลไม้อื่นๆด้วยนะครับ อย่าลืมบอกต่อเคล็ดลับดีๆให้เพื่อนๆต่อได้นะครับ ขอขอบคุณ ภาพประกอบจากอินเตอร์เน็ต

แชร์