นักสิทธิมนุษยชน แนะครอบครัวผู้ต้องหาที่ถูกนักโทษรุมทำร้ายจนเสียชีวิตในเรือนจำจังหวัดชุมพรฟ้องอาญาผู้เกี่ยวข้อง รวมถึงเรียกค่าเสียหายแพ่งจากเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบดูแลในวันเกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุการณ์ที่นายนพดล แซ่ลิ้ม ชาวจังหวัดชุมพร ผู้ต้องหาระหว่างฝากขัง แค่คืนเดียว ถูกนักโทษรุมซ้อมจนเสียชีวิตในเรือนจำจังหวัดชุมพร ตามที่ปรากฏเป็นข่าว

นางสาวพูนสุข พูนสุขเจริญ นักสิทธิมนุษยชน จากมูลนิธิผสานวัฒนธรรม ระบุว่า ทางครอบครัวผู้เสียหาย สามารถดำเนินคดีอาญากับผู้กระทำผิดได้ โดยฟ้องเป็นคดีใหม่ ส่วนทางแพ่ง สามารถเรียกรับได้จาก 2 กรณี คือ จากเรือนจำ และเจ้าหน้าที่ผู้ดูแลนักโทษโดยตรง และสามารถเรียกรับเงินตามพระราชบัญญัติค่าตอบแทนผู้เสียหายและค่าทดแทนและ ค่าใช้จ่ายแก่จำเลยในคดีอาญา พ.ศ. 2544 ได้ จำนวน 1 แสนบาท

นายนพดล แซ่ลิ้ม ตกเป็นผู้ต้องหาคดีประมาท ขับรถชนและตรวจพบมีสารเสพติดในร่างกาย เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2559 ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ นำตัวไปฝากขังยังเรือนจำชุมพรและเสียชีวิตในวันต่อมา 

โดยครั้งแรกทางโรงพยาบาลชุมพรเขตรอุดมศักดิ์ ระบุว่า นายนพดลเสียชีวิตจากการลงแดง แต่นางวิภาวดา แซ่ลิ้ม ผู้เป็นมารดา ระบุ พบเห็นร่องรอยฟกช้ำดำเขียว และแผลหลายจุดคล้ายถูกทำร้ายร่างกาย จึงนำเอกสารการตายไปที่เรือนจำ ซึ่งทาง ผู้บัญชาการเรือนจำก็ได้ระบุว่า หลังการตรวจสอบพบว่านายนพดล เสียชีวิตจากการถูกนักโทษในห้องขังเดียวกันจำนวน 5 คนรุมทำร้าย 

โดยล่าสุด เมื่อวันที่ 13 มกราคมที่ผ่านมา ทางเรือนจำชุมพร เจรจาการเยียวยาแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิต เป็นจำนวนเงิน 6 แสน 5 หมื่นบาท ทั้งได้ทำบันทึกการตกลงเจรจาเรื่องค่าชดเชยความเสียหาย และไม่ติดใจจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญา ต่อทางเรือนจำชุมพรอีก ส่วนผู้กระทำความผิดให้ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/thailand/452526.html