โรค "ร้อนใน" หรือเป็นแผลในช่องปาก.....แก้อย่างไร ??

แต่สำหรับทางการแพทย์แผนจีนจะมองว่าอาการร้อนในเกิดจาก "หยินหยาง" ในร่างกายไม่สมดุลกัน หากใครมี "หยิน" พร่อง เมื่อได้รับปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็จะเป็นร้อนในได้ง่าย http://winne.ws/n12311

2.1 พัน ผู้เข้าชม
โรค "ร้อนใน" หรือเป็นแผลในช่องปาก.....แก้อย่างไร ??

"ร้อนใน" เกิดจากอะไร แก้ร้อนในในช่องปากอย่างไรดี แล้วอาหารแก้ร้อนใน มีอะไรบ้าง คำตอบอยู่ข้างล่างนี่เลยจ้า

ร้อนใน หรือแผลในปาก จะกินจะทานอะไรก็ลำบาก    เคี้ยวทีก็เจ็บไปหมด ชักอยากรู้แล้วสิว่ามีวิธีไหนช่วยแก้ร้อนในในช่องปากได้บ้าง แล้วควรจะทานอาหารประเภทไหนดี จะได้ปราบอาการร้อนในให้หายไปซะที อ๊ะ...แต่ก่อนจะได้รู้ ต้องมาดูกันก่อนว่า ทำไมเราถึงเป็นร้อนใน?

ร้อนใน เกิดจากอะไรกัน

          ร้อนใน หรือแผลร้อนใน (Apthous ulcer) คือ แผลเปิดภายในช่องปากเกิดจากการแตกของเยื่อเมือก เป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยทางการแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุอย่างชัดเจนได้ว่า ร้อนในเกิดขึ้นจากอะไร แต่มีหลายปัจจัยที่มักจะก่อให้เกิดอาการร้อนในขึ้น เช่น

          - การนอนดึก อดนอนเป็นประจำ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย

          - ความเครียด ความเหนื่อยล้า

          - การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่น ผู้หญิงในช่วงก่อนประจำเดือนมา หรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ มักมีอาการร้อนในเกิดขึ้น

          - การแพ้อาหารบางชนิด

          - การขาดวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก

          - การสูบบุหรี่

          แต่สำหรับทางการแพทย์แผนจีนจะมองว่าอาการร้อนในเกิดจาก "หยินหยาง" ในร่างกายไม่สมดุลกัน หากใครมี "หยิน" พร่อง เมื่อได้รับปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็จะเป็นร้อนในได้ง่าย ซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็อย่างเช่น ทานของมัน ของทอด อากาศร้อน พักผ่อนน้อยไป

อาการร้อนใน มีอะไรบ้าง

          คนที่เป็นแผลร้อนในเริ่มแรกจะมีแผลหรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นมาในริมฝีปากด้านใน หรือกระพุ้งแก้ม หรือบริเวณลิ้น จากนั้นตุ่มแดง ๆ จะกลายเป็นเม็ดสีขาวมีขอบสีแดงนูนออกมา            มีอาการบวม และกลายเป็นแผลที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ทำให้เรารู้สึกเจ็บ 

          แม้ว่าโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพ แต่ก็ทำให้คนที่เป็นเจ็บปวดและรำคาญไม่น้อยเลย ซึ่งโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะเป็นอยู่ประมาณ 1-2 สัปดาห์ 

วิธีแก้ร้อนในในช่องปาก

          โดยปกติแล้วแผลร้อนในมักจะหายไปได้เองภายใน 7 วัน แต่ถ้าใครมีอาการปวดมาก     ผ่านไป 7 วันแล้วก็ยังไม่หายเสียที คงต้องลองไปพบแพทย์เพื่อตรวจรักษาดูค่ะ ซึ่งถ้าแพทย์ตรวจดูแล้วพบว่าเราเป็นเพียงอาการร้อนในธรรมดาก็อาจจะให้ยามาทา หรือบ้วนปาก เพื่อช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น 

          อย่างไรก็ตาม ถ้าเรารู้จักดูแลตัวเอง ไม่ทำพฤติกรรมที่เป็นปัจจัยทำให้เกิดอาการร้อนในขึ้นอีก อาการร้อนในที่เป็นอยู่ก็อาจจะหายได้เร็วขึ้นด้วยเหมือนกัน ทำง่าย ๆ ตามนี้เลย

          - หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอด ของมัน ขนม น้ำตาล ทุเรียน ลำไย ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ ฟังชื่อก็เปรี้ยวปากอยากกินแล้วใช่ไหมล่ะ แต่อาหารพวกนี้แหละ ตัวการที่ทำให้เกิดความร้อนสะสมในร่างกาย แต่ถ้าอยากทานจริง ๆ ก็ทานได้ในปริมาณน้อย ๆ ค่ะ

          - หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่น กระเทียม หอม ขิง ฯลฯ แต่สามารถทานพริกได้

          - รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดี แปรงฟันทุกครั้งหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 30 นาที ถ้าเป็นไปได้ควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังอาหารด้วย 

          - รับประทานผักผลไม้ให้มาก ๆ เพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุ วิตามินอย่างครบถ้วน และจะได้ป้องกันอาการท้องผูก เพราะร้อนในมักเป็นร่วมกับท้องผูก

          - ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในแต่ละวัน 

          - ลดความเครียดลง เพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดร้อนในในช่องปากได้อย่างไม่น่าเชื่อ 

          - หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เกิดการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาช่วยลดความเครียด

          - หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆ เพราะจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น

โรค "ร้อนใน" หรือเป็นแผลในช่องปาก.....แก้อย่างไร ??

อาหารแก้ร้อนใน ทานอะไรดี

          อาหารบางชนิดที่มีฤทธิ์ร้อน เมื่อทานเข้าไปแล้วทำให้เกิดความร้อนสะสมอยู่ในร่างกายจนปรากฏเป็นอาการร้อนในได้ เมื่อเป็นแบบนี้ การทานอาหารที่มีฤทธิ์ตรงข้ามก็ช่วยบรรเทาอาการร้อนใน และทำให้หายได้เร็วขึ้นเหมือนกัน มาดูกันว่านอกจากการดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ แล้ว อาหารประเภทไหนบ้างที่มีฤทธิ์เย็น ช่วยดับร้อนในร่างกายได้เหมือนกัน 

          - มะระ เป็นยาดับร้อน ถอนพิษไข้ แก้กระหาย บรรเทาอาการร้อนใน แก้อักเสบ เจ็บคอ

          - ชะอม ช่วยลดความร้อนในร่างกาย ขับลมในลำไส้

          - ถั่วเขียว มีฤทธิ์ขับร้อนใน แก้กระหาย ขับปัสสาวะ

          - ผักกาดขาว ช่วยแก้ร้อนใน ป้องกันมะเร็ง 

          - ปวยเล้ง เป็นยาเย็น ช่วยขับร้อน แก้กระหาย

          - แตงกวา ขับปัสสาวะ แก้ไข้ กระหายน้ำ ไฟลวก ถ่ายพยาธิ แก้ท้องเสีย

          - ตำลึง ดับพิษร้อนภายในร่างกาย ลดอาการไข้ เป็นยาระบายอ่อน ๆ

          - ฟักเขียว มีฤทธิ์เย็น ช่วยถอนพิษ ขับร้อนในร่างกาย ขจัดเสมหะ ขับปัสสาวะ บำบัดอาการบวมน้ำ ไอ หอบ

          - หัวไชเท้า ล้างพิษภายใน ดับพิษร้อน บำรุงไต ขับปัสสาวะ ละลายนิ่ว 

          - มะเฟือง ช่วยลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย ปวดศีรษะ บรรเทาอาการไอ และนิ่ว   ในกระเพาะปัสสาวะ 

          - แตงไทย ดับกระหาย ลดความร้อนในร่างกาย ขับปัสสาวะ และเป็นยาระบายอ่อน ๆ 

          - ลองกอง ลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย แก้อาการร้อนใน ทำให้ชุ่มคอ

          - ส้มโอ ช่วยในการขับถ่ายและขับสารพิษแก้อาการท้องอืด ช่วยระบายความร้อนในร่างกาย ผ่อนพิษไข้

          - อ้อย ช่วยบำรุงร่างกาย ลดอุณหภูมิความร้อนภายในร่างกาย บรรเทาอาการกระหายน้ำ  

          - มังคุด ช่วยลดความร้อนภายใน แก้กระหายน้ำ ช่วยเพิ่มเมือกภายในลำไส้และกระเพาะทำให้ถ่ายคล่อง

          - มะตูม ต้มดื่ม ช่วยแก้ร้อนใน ช่วยย่อยอาหาร แก้ท้องเสีย ขับเสมหะ ช่วยเจริญอาหาร

          - เก๊กฮวย นำมาต้มดื่มช่วงหน้าร้อน ช่วยแก้ร้อนใน บำรุงตับ บำรุงประสาท บำรุงสายตา     ขับลมในลำไส้

          - กระเจี๊ยบ แก้ร้อนใน กระหายน้ำ ลดความดันโลหิต บรรเทาอาการไอ

          - รากบัว แก้ร้อนใน ลดไข้ บำรุงโลหิต ช่วยให้เจริญอาหาร

          - หล่อฮั้งก้วย นำมาต้มดื่ม ช่วยแก้ร้อนใน กระหายน้ำ ขับเสมหะ แก้ท้องผูก โรคหลอดลมอักเสบ หืด หอบ

          - ใบบัวบก ช่วยแก้อาการร้อนใน ตัวร้อน รักษาอาการเจ็บคอ บำรุงโลหิตในร่างกาย บำรุงหัวใจ 

          วิธีการเหล่านี้คงช่วยให้อาการร้อนในในช่องปากของเพื่อน ๆ หายได้เร็วขึ้นบ้างล่ะค่ะ       แต่ถ้าใครเป็นร้อนในหลายสัปดาห์แล้วยังไม่มีวี่แววว่าแผลจะหายสักที แบบนี้ลองไปพบแพทย์ให้ตรวจวินิจฉัยหน่อยดีกว่าค่ะ เพราะอาการนี้อาจเป็นสัญญาณของโรคอื่นได้เหมือนกัน 

ขอขอบคุณ:http://health.kapook.com/view25084.html

แชร์