สมุนไพรไทยเจาะตลาดโลก สั่ง "ทูตพาณิชย์" ทำแผนส่งออกเพิ่มรายได้

“พาณิชย์” ส่ง “สมุนไพรไทย” เจาะตลาดโลก รับกระแสผู้บริโภคหันหาวิถีธรรมชาติดูแลสุขภาพ สั่งทูตพาณิชย์สำรวจกฎระเบียบและความต้องการ ก่อนทำแผนดันส่งออก ล่าสุดพบฮ่องกงนิยมดอกอัญชัน http://winne.ws/n12315

621 ผู้เข้าชม
สมุนไพรไทยเจาะตลาดโลก สั่ง "ทูตพาณิชย์" ทำแผนส่งออกเพิ่มรายได้

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงได้ทำแผนผลักดันการส่งออกสินค้าสมุนไพรไทย ตามนโยบาย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการช่วยเหลือเกษตรกรให้มีรายได้อย่างยั่งยืน และ
พัฒนาสินค้าส่งออกรายการใหม่ๆ ออกสู่ตลาดโลก เพราะเล็งเห็นว่าสมุนไพรกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดโลก เพราะผู้บริโภคเริ่มให้ความสำคัญกับการบำรุงสุขภาพหรือรักษาสุขภาพด้วยวิถีธรรมชาติมากขึ้น และหลีกเลี่ยงการ
ใช้สารเคมี จึงเป็นโอกาสในการส่งออกสมุนไพรไทยได้เพิ่มขึ้น ทั้งสมุนไพรสด และผลิตภัณฑ์ “กระทรวงกำลังจัดทำแผนผลักดันการส่งออกสมุนไพรไทย เพราะไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มมูลค่าส่งออก แต่ยังช่วยให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากแทนที่เกษตรกรจะเพาะปลูกพืชอย่างเดียว แต่สามารถปลูกสมุนไพรแซมในไร่นา เพื่อหารายได้เสริมได้ด้วย และอาจเป็นรายได้หลักในอนาคต หลังจากที่ตลาดต้องการมากขึ้น”

สำหรับตลาดสมุนไพรปัจจุบัน ไม่ว่าขิง ข่า ตะไคร้ ไพล มะกรูด กวาวเครือ ว่านหางจระเข้ ส้มแขก กำลังมีความต้องการเพิ่มขึ้น ทั้งการใช้บริโภคแบบสด และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ ที่มีมูลค่าเพิ่มหลายเท่าตัว โดยสามารถทำเป็นเครื่องดื่มสำเร็จรูป เครื่องแกงสำเร็จรูป อาหารเสริม เครื่องสำอาง และยา เช่น น้ำมันนวด น้ำมันหอมระเหย สบู่ แชมพู ครีมทาผิว ชาสมุนไพร กระเทียมแคปซูล เป็นต้น

นอกจากนี้ กระทรวงได้มอบหมายให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (ทูตพาณิชย์) ที่ประจำอยู่ในประเทศต่างๆทั่วโลก สำรวจความต้องการของตลาดที่ดูแลอยู่ และให้ตรวจสอบระเบียบปฏิบัติที่เกี่ยวข้องของแต่ละประเทศว่ามีเงื่อนไขในการนำเข้าสินค้าเหล่านี้อย่างไร เพราะบางประเทศอาจมีกฎระเบียบที่เข้มงวด รวมถึงการขออนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หากทราบข้อมูลแล้ว จะทำให้ผู้ประกอบการไทยวางแผนในการส่งออกได้ง่ายขึ้น “แม้ตลาดต่างประเทศมีความต้องการสมุนไพรและผลิตภัณฑ์จากสมุนไพรไทย แต่ไม่ได้หมายความว่าจะส่งออกไปได้เลย เพราะสินค้าที่ใช้บริโภค หรือสัมผัสกับผิว ต้องผ่านการตรวจสอบรับรอง และได้รับอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในแต่ละประเทศก่อนว่าไม่เป็นอันตรายต่อการบริโภค ซึ่งผู้ประกอบการไทยต้องศึกษาข้อมูลให้ดี และต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบให้ถูกต้องด้วย”

นางอภิรดีกล่าวต่อว่า จากการสำรวจเบื้องต้น พบว่าการทำตลาดสมุนไพรและผลิตภัณฑ์ ในตลาดเอเชียและตลาดซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ทำได้ง่ายกว่าตลาดยุโรป สหรัฐฯ หรือญี่ปุ่น เพราะกฎระเบียบยังไม่ยุ่งยาก และระยะทางใกล้กว่า ไม่เป็นภาระด้านการขนส่ง โดยล่าสุด ฮ่องกงให้ความสำคัญกับสมุนไพรไทย เช่น ดอกอัญชัน เพราะมีสรรพคุณช่วยบำรุงเส้นผม ทำให้นอนหลับสบาย และได้รับความนิยมในหมู่วัยรุ่น เพื่อใช้เป็นเครื่องดื่ม โดยมีชื่อเรียกว่า Blue Magic Water และยังได้รับการยอมรับจากนักโภชนาการว่าเป็นสมุนไพรที่ช่วยในการหมุนเวียนโลหิต บำรุงสายตา ลดความอ้วน ลดการสะสมของไขมัน เพราะมีสาร Anthocyanidin มากกว่าพืชชนิดอื่นๆ ถึง 10 เท่า แต่ไม่ได้หมายความว่า ตลาดยุโรป สหรัฐฯ หรือญี่ปุ่นไม่มีโอกาส ยังคงเป็นตลาดที่มีโอกาส หากผู้ประกอบการไทยปฏิบัติตามเงื่อนไขได้ ทั้งนี้ ปัจจุบันไทยส่งออกสมุนไพรเป็นมูลค่ากว่า 500 ล้านบาท สารสกัดจากสมุนไพรกว่า 270 ล้านบาท และผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง เช่น สบู่ แชมพู และผลิตภัณฑ์รักษาผิว ที่ใช้สมุนไพรเป็นส่วนผสม อีกกว่า 71,000 ล้านบาท.

แชร์