มีของดีแต่ไม่เห็นค่า!!! ก็คงจะเหมือนลิงได้แก้ว กระมัง
“พระพุทธศาสนาบริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระและเป็นประโยชน์ในทุกรูปแบบ แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้” http://winne.ws/n12373
“พระพุทธศาสนาบริบูรณ์ด้วยสัจธรรมที่เป็นสาระและเป็นประโยชน์ในทุกรูปแบบ แต่จะต้องศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจ และปฏิบัติให้เหมาะสมแก่ภาวะปัจจุบัน ด้วยศรัทธาและปัญญาที่ถูกต้อง จึงจะเกิดเป็นประโยชน์ขึ้นได้”
ความตอนหนึ่งในพระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 พระราชทานเพื่อเชิญไปอ่านในการเปิดประชุมใหญ่ สมาคมพุทธศาสนาทั่วราชอาณาจักร ณ จังหวัดกาฬสินธุ์ วันที่ 17 ธันวาคม 2512
จากพระบรมราโชวาทดังกล่าวข้างต้นจะเห็นได้ว่าพระองค์ทรงสื่อให้เห็นว่าพระพุทธศาสนาจะเป็นประโยชน์ได้ต้องศึกษาและปฏิบัติให้อยู่ในแนวทางที่ถูก เป็นแบบอย่างที่ดี ยึดถือปฏิบัติให้เหมาะกับยุคสมัย ด้วยพลังแห่งปัญญาและศรัทธา
นั่นหมายความว่าทุกคนจะต้องสืบทอดพระพุทธศาสนาตามหลักคำสอนของพระพุทธเจ้า
เป็นที่น่าห่วงใยที่ในปัจจุบันภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่มักสร้างเรื่องราวให้มีพระภิกษุเป็นตัวแสดงเดินเรื่องให้เกิดความตลกขบขัน หรือเนื้อหาส่อในทางเรื่องของชู้สาว ซึ่งขัดต่อหลักของพระพุทธศาสนา ไม่เพียงการแต่งกายเลียนแบบพระภิกษุ แต่ยังมีการนำเสนอพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม ในสื่อภาพยนตร์ที่มีการฉายเผยแพร่เป็นการทั่วไป ถึงแม้จะมีการจัดระดับอายุของคนดูแล้วก็ตาม ผู้บริโภคสื่อจะรับสื่อที่ดีและไม่ดีไปพร้อมกัน
ถ้าผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์คำนึงถึงความสำคัญของชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ พยายามไม่ไปสร้างภาพยนตร์ที่มีทั้งสามสถาบันนี้ในทางเสื่อมเสียจะเป็นการดีที่สุด ทุกศาสนาย่อมรักและหวงแหน คงไม่มีใครที่อยากเห็นศาสนาตนเองถูกลบหลู่ ประเทศไทยมีผู้นับถือศาสนาพุทธเป็นจำนวนมาก
ดังนั้น เมื่อสื่อภาพยนตร์ที่นำเสนอในทางลบเกี่ยวกับศาสนาพุทธ ก็ย่อมกระทบต่อจิตใจของคนที่นับถือศาสนาพุทธ
ทั้งนี้ ผู้สร้างภาพยนตร์ควรคำนึงถึงเนื้อหา ภาพที่จะสื่อให้ผู้ดูเกิดความเข้าใจในทางที่สร้างสรรค์ ไม่ควรนำแง่มุมในทางลบออกเผยแพร่ ถึงแม้เรื่องนั้นๆ จะเป็นเรื่องจริง ควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างถ่องแท้ และไม่กระทบกับสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน หากไม่จำเป็นจริงๆ ไม่ควรนำเรื่องศาสนามาเป็นเนื้อหาตลกขบขันในภาพยนตร์
ความบันเทิงของภาพยนตร์ไม่ได้อยู่ที่นำพระสงฆ์มาแสดงเป็นตัวตลก หรือการใช้ภาษาที่ไม่สุภาพมาเป็นเรื่องเฮฮา ควรให้ภาพลักษณ์ของพระภิกษุสงฆ์เป็นที่เคารพบูชาเพราะพระภิกษุถือเป็นผู้สืบทอดพุทธศาสนา อย่าให้ภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ที่ดีต้องเสื่อมเสีย และชนชาวพุทธต้องเสื่อมศรัทธา
มาร่วมกันสืบสานพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ที่ทรงเห็นความสำคัญของพระพุทธศาสนา
ขอขอบคุณบทความดีดีจาก คุณกฤษณา พันธุ์วานิช http://www.matichon.co.th/news/422591
ได้อ่านบทความนี้รู้สึกเห็นด้วยกับคุณกฤษณาอย่างยิ่ง การนำสิ่งที่สูงค่านำมาสร้างภาพยนต์ทำให้ภาพลักษณ์ของพระสงฆ์ต้องเสื่อมเสีย ทำให้เห็นว่า ผู้คิด "คิดแต่ได้ ไม่คิดเสีย" ถ้าคิดสักนิด จะเห็นว่า จริง ๆ แล้ว เสียมากกว่าได้ สิ่งที่เสียนั้นประเมินค่าไม่ได้ คือทำให้จิตใจของคนในชาติเสื่อมจากสิ่งดีงาม
แม้ในโลกออนไลน์ ก็ไม่ได้คำนึงถึงคำที่ใช้กับพระภิกษุ เหมาะสมหรือไม่ แม้ท่านจะเป็นพระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัวฯ ข่าวต่างๆ มีผลกำไรเป็นเป้าหมายเท่านั้น น่าสงสารประเทศไทย มีของดีแต่ไม่เห็นค่า!!! ก็คงจะเหมือนลิงได้แก้ว กระมัง