พระอานนท์ถูกมารดลใจ มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัส๘เหตุแห่งแผ่นดินไหว

เมื่อท่านพระอานนท์หลีกไปแล้วไม่นาน มารผู้ลามกได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้พระผู้มีพระภาคจงเสด็จปรินิพพานเถิด ขอพระสุคตจงเสด็จปรินิพพานเถิด บัดนี้เป็นกาลปรินิพพานของพระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ http://winne.ws/n12375

5.9 พัน ผู้เข้าชม

มารดลใจพระอานนท์

พระอานนท์ถูกมารดลใจ มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัส๘เหตุแห่งแผ่นดินไหวแหล่งภาพจาก YouTube

พระอานนท์ถูกมารดลใจ (ปิดบังใจ) มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัส เหตุแห่งแผ่นดินไหว ๘ ประการ 

       สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ กูฏาคารศาลา ป่ามหาวัน ใกล้นครเวสาลี ครั้งนั้นแล เวลาเช้า พระผู้มีพระภาคทรงครองอันตรวาสกแล้ว ทรงถือบาตรและจีวร เสด็จเข้าไปบิณฑบาตยังนครเวสาลี ครั้นเที่ยวบิณฑบาตในนครเวสาลีแล้ว ในเวลาปัจฉาภัต เสด็จกลับจากบิณฑบาตแล้ว ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า 

       ดูกรอานนท์ จงถือผ้านิสีทนะ เราจะเข้าไปยังปาวาลเจดีย์เพื่อพักกลางวัน ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ถือผ้านิสีทนะตามพระผู้มีพระภาคไปข้างหลัง ฯครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคเสด็จเข้าไปยังปาวาลเจดีย์ ประทับนั่งบนอาสนะที่ปูไว้ แล้วตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า 

       ดูกรอานนท์ นครเวสาลีเป็นที่น่ารื่นรมย์ อุเทนเจดีย์ก็น่ารื่นรมย์ โคตมกเจดีย์ พหุปุตตกเจดีย์ สัตตัมพเจดีย์สารันททเจดีย์ ปาวาลเจดีย์ ล้วนน่ารื่นรมย์ 

       ดูกรอานนท์ ผู้ใดผู้หนึ่งเจริญทำให้มากซึ่งอิทธิบาท ๔ ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้มั่นคง สั่งสมปรารภดีแล้ว ผู้นั้นหวังอยู่ พึงดำรงอยู่ได้กัลปหนึ่ง หรือเกินกว่ากัลป 

       ดูกรอานนท์ตถาคตเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท ๔ ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้มั่นคง สั่งสม ปรารภดีแล้ว ตถาคตหวังอยู่ พึงดำรงอยู่ได้กัลปหนึ่งหรือเกินกว่ากัลป เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงกระทำนิมิตแจ้งชัด ทรงกระทำโอภาสแจ้งชัดแม้อย่างนี้ 

พระอานนท์ถูกมารเข้าดลใจ (บังใจ) ทำให้ไม่เข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าตรัสบอกเหตุการมีอายุยืนของพระพุทธองค์ที่สามารถอยู่ได้เป็นกัลป

        ท่านพระอานนท์ก็ไม่อาจจะรู้ทัน จึงไม่ทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคพึงทรงดำรงอยู่ตลอดกัลป ขอพระสุคตพึงทรงดำรงอยู่ตลอดกัลป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่อสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เพราะถูกมารเข้าดลใจ แม้ครั้งที่ ๒ แม้ครั้งที่ ๓ พระผู้มีพระภาคก็ตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า 

       ดูกรอานนท์ นครเวสาลีเป็นนครที่น่ารื่นรมย์อุเทนเจดีย์ก็น่ารื่นรมย์ โคตมกเจดีย์ พหุปุตตกเจดีย์ สัตตัมพเจดีย์ สารันททเจดีย์ปาวาลเจดีย์ ล้วนน่ารื่นรมย์ 

       ดูกรอานนท์ ผู้ใดผู้หนึ่งเจริญ กระทำให้มากซึ่งอิทธิบาท ๔ ทำให้เป็นดุจยาน ทำให้เป็นที่ตั้ง ให้มั่นคง สั่งสม ปรารภดีแล้ว ฯลฯตถาคตหวังอยู่ พึงดำรงอยู่ได้กัลปหนึ่งหรือเกินกว่ากัลป เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงกระทำนิมิตแจ้งชัด ทรงกระทำโอภาสแจ้งชัดแม้อย่างนี้ ท่านพระอานนท์ก็ไม่อาจจะรู้ทัน จึงไม่ทูลอาราธนาพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ขอพระผู้มีพระภาคพึงทรงดำรงอยู่ตลอดกัลป ขอพระสุคตพึงทรงดำรงอยู่ตลอดกัลป เพื่อประโยชน์เกื้อกูลแก่ชนหมู่มาก เพื่อสุขแก่ชนหมู่มาก เพื่ออนุเคราะห์โลก เพื่อประโยชน์ เพื่อเกื้อกูล เพื่อความสุข แก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เพราะถูกมารเข้าดลใจ 

       ครั้งนั้นแล พระผู้มีพระภาคตรัสกะท่านพระอานนท์ว่า ดูกรอานนท์เธอจงไปเถิด บัดนี้เธอย่อมสำคัญกาลที่สมควร ท่านพระอานนท์ทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว ลุกจากอาสนะ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาค กระทำประทักษิณแล้วไปนั่ง ณ โคนไม้แห่งหนึ่ง ในที่ไม่ไกลพระผู้มีพระภาค ฯครั้งนั้นแล 

มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน หลายครั้ง

พระอานนท์ถูกมารดลใจ มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัส๘เหตุแห่งแผ่นดินไหวแหล่งภาพจาก เว็บไซต์พุทธะ

มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน หลายครั้ง จนในที่สุดพระพุทธองค์ทรงปลงอายุสังขาร อีก ๓ เดือน พระพุทธองค์จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน

       เมื่อท่านพระอานนท์หลีกไปแล้วไม่นาน 

        มารผู้ลามกได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้พระผู้มีพระภาคจงเสด็จปรินิพพานเถิด ขอพระสุคตจงเสด็จปรินิพพานเถิด บัดนี้เป็นกาลปรินิพพานของพระผู้มีพระภาค ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ 

        ก็พระผู้มีพระภาคตรัสพระวาจานี้ไว้ว่าดูกรมารผู้ลามก เราจักยังไม่ปรินิพพาน ตราบเท่าที่พวกภิกษุสาวกของเรายังไม่ฉลาดไม่ได้รับแนะนำ ไม่แกล้วกล้า ยังไม่บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ยังไม่เป็นพหูสูต ไม่ทรงธรรม ไม่ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ยังไม่ปฏิบัติชอบ ยังไม่ประพฤติตามธรรม ไม่เรียนอาจาริยวาทของตนแล้วบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้งเปิดเผย จำแนก กระทำให้ง่าย ไม่แสดงธรรมมีปฏิหาริย์ย่ำยีด้วยดีซึ่งปรัปวาทที่เกิดขึ้นแล้วโดยชอบธรรม 

        (มาร) ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ ภิกษุสาวกของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ฉลาด ได้รับแนะนำ แกล้วกล้า บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะเป็นพหูสูต ทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรม เรียนอาจาริยวาทของตนแล้ว บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผยจำแนก กระทำให้ง่าย แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ย่ำยีด้วยดีซึ่งปรัปวาทที่เกิดขึ้นแล้วโดยชอบธรรม 

       (มาร) ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ขอพระผู้มีพระภาคจงเสด็จปรินิพพานเถิด ขอพระสุคตจงเสด็จปรินิพพานเถิด บัดนี้ เป็นกาลปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาค พระผู้มีพระภาคตรัสพระวาจานี้ไว้ว่า 

       (พระพุทธเจ้า) ดูกรมารผู้ลามก เราจักยังไม่ปรินิพพาน ตราบเท่าที่ภิกษุณีสาวิกาของเรา ฯลฯ อุบาสกสาวกของเรา ฯลฯอุบาสิกาสาวิกาของเรา ยังไม่ฉลาด ยังไม่ได้รับแนะนำ ยังไม่แกล้วกล้า ยังไม่บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ ยังไม่เป็นพหูสูต ยังทรงจำธรรมไม่ได้ ยังปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรมไม่ได้ ยังไม่ปฏิบัติชอบ ยังไม่ประพฤติตามธรรมไม่เรียนอาจาริยวาทของตนแล้ว บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนกกระทำให้ง่าย ไม่แสดงธรรมมีปฏิหาริย์ย่ำยีด้วยดีซึ่งปรัปวาทที่เกิดขึ้นแล้วโดยชอบธรรม 

       (มาร) ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ อุบาสิกาสาวิกาของพระผู้มีพระภาค เป็นผู้ฉลาด ได้รับแนะนำ แกล้วกล้า บรรลุธรรมอันเกษมจากโยคะ เป็นพหูสูตทรงธรรม ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ปฏิบัติชอบ ประพฤติตามธรรม เรียนอาจาริยวาทของตนแล้ว บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้ง่าย แสดงธรรมมีปาฏิหาริย์ย่ำยีด้วยดีซึ่งปรัปวาทที่เกิดขึ้นแล้วโดยชอบธรรม

       (มาร) ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ ขอพระผู้มีพระภาคจงเสด็จปรินิพพานเถิด ขอพระสุคตจงเสด็จปรินิพพานเถิด บัดนี้เป็นกาลปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาค ก็พระผู้มีพระภาคตรัสพระวาจานี้ไว้ว่า ดูกรมารผู้ลามก เราจักยังไม่ปรินิพพานตราบเท่าที่พรหมจรรย์ของเรานี้ยังไม่เจริญแพร่หลายกว้างขวาง ชนเป็นอันมาก ยังไม่รู้ทั่วยังไม่แน่นหนา เทวดาและมนุษย์ทั้งหลายยังไม่ประกาศดีแล้ว ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ บัดนี้ พรหมจรรย์ของพระผู้มีพระภาคเจริญแพร่หลายกว้างขวาง ชนเป็นอันมากรู้ทั่ว แน่นหนา เทวดาและมนุษย์ประกาศดีแล้ว 

       (มาร) ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญบัดนี้ ขอพระผู้มีพระภาคจงเสด็จปรินิพพานเถิด ขอพระสุคตจงเสด็จปรินิพพานเถิด บัดนี้ เป็นกาลปรินิพพานแห่งพระผู้มีพระภาค ฯพระผู้มีพระภาคตรัสว่า 

       (พระพุทธเจ้า) ดูกรมารผู้ลามก ท่านจงเป็นผู้ขวนขวายน้อยเถิดไม่นานนักตถาคตจักปรินิพพาน แต่นี้ล่วงไป ๓ เดือน ตถาคตจักปรินิพพานลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงมีสติสัมปชัญญะ ปลงอายุสังขาร ณ ปาวาลเจดีย์

        เมื่อพระผู้มีพระภาคทรงปลงอายุสังขารแล้ว แผ่นดินไหวใหญ่ น่าสะพึงกลัว โลมชาติชูชัน กลองทิพย์ก็บันลือลั่น พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนั้นแล้ว จึงทรงเปล่งพระอุทานในเวลานั้นว่ามุนีได้ปลงเครื่องปรุงแต่งภพ อันเป็นเหตุสมภพทั้งที่ชั่งได้ทั้งที่ชั่งไม่ได้ ยินดีในภายใน มีจิตตั้งมั่น ได้ทำลายกิเลสที่เกิดในตนเหมือนทหารทำลายเกราะ ฉะนั้น ฯ

พระอานนท์ทูลถามเหตุแผ่นดินไหวกับพระพุทธเจ้า

        ครั้งนั้นแล ท่านพระอานนท์ได้มีความคิดดังนี้ว่า แผ่นดินนี้ไหวใหญ่หนอแผ่นดินนี้ไหวใหญ่จริงหนอ น่าสะพึงกลัว โลมชาติชูชัน ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น อะไรหนอเป็นเหตุเป็นปัจจัยแห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ลำดับนั้นแลท่านพระอานนท์เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้ว ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคว่า 

       ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญแผ่นดินนี้ไหวใหญ่หนอ แผ่นดินนี้ไหวใหญ่จริงหนอ น่าสะพึงกลัว โลมชาติชูชัน ทั้งกลองทิพย์ก็บันลือลั่น อะไรหนอ เป็นเหตุเป็นปัจจัยแห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯพระผู้มีพระภาคตรัสว่า ..

ในที่สุดพระพุทธเจ้าทรงปลงอายุสังขาร อีก ๓ เดือนจะเสด็จปรินิพพาน

พระอานนท์ถูกมารดลใจ มารขอให้พระพุทธเจ้าเสด็จปรินิพพาน พระพุทธเจ้าตรัส๘เหตุแห่งแผ่นดินไหวแหล่งภาพจาก 14.ปัจฉิมกาล

  ดูกรอานนท์ เหตุปัจจัย ๘ ประการนี้แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ๘ ประการเป็นไฉน 

       ดูกรอานนท์ (๑)แผ่นดินใหญ่ตั้งอยู่บน น้ำ น้ำตั้งอยู่บนลม ลมตั้งอยู่บนอากาศ สมัยนั้นลมพายุพัดจัด ลมพายุพัดให้น้ำไหว น้ำไหวแล้วทำให้แผ่นดินไหว ดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๑ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

       (๒) อีกประการหนึ่ง สมณะหรือพราหมณ์ผู้มีฤทธิ์ บรรลุความชำนาญทางจิตหรือเทวดาผู้มีฤทธิ์มาก มีอานุภาพมาก เจริญปฐวีสัญญานิดหน่อย เจริญอาโปสัญญาหาประมาณมิได้ ย่อมยังแผ่นดินนี้ให้สะเทื้อนสะท้านหวั่นไหว ดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๒ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

        อีกประการหนึ่ง (๓) เมื่อใด พระโพธิสัตว์จุติจากชั้นดุสิต มีสติสัมปชัญญะลงสู่พระครรภ์พระมารดา เมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทื้อนสะท้านหวั่นไหวดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๓ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

        อีกประการหนึ่ง (๔) เมื่อใด พระโพธิสัตว์มีสติสัมปชัญญะ ประสูติจากพระครรภ์พระมารดา เมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทื้อนสะท้านหวั่นไหว ดูกรอานนท์นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๔ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

         อีกประการหนึ่ง (๕) เมื่อใด พระตถาคตตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทื้อนสะท้านหวั่นไหว ดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๕ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

          อีกประการหนึ่ง (๖) เมื่อใด พระตถาคตทรงประกาศอนุตรธรรมจักร เมื่อนั้นแผ่นดินนี้ย่อมสะเทื้อนสะท้านหวั่นไหว ดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๖ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

         อีกประการหนึ่ง (๗) เมื่อใด ตถาคตทรงมีสติสัมปชัญญะ ปลงอายุสังขารเมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทื้อนสะท้านหวั่นไหว ดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๗ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

         อีกประการหนึ่ง (๘) เมื่อใด ตถาคตปรินิพพานด้วยอนุปาทิเสสนิพพานธาตุเมื่อนั้น แผ่นดินนี้ย่อมสะเทื้อนสะท้านหวั่นไหว 

        ดูกรอานนท์ นี้เป็นเหตุเป็นปัจจัยประการที่ ๘ แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ดูกรอานนท์ เหตุปัจจัย๘ ประการนี้แล แห่งความปรากฏแผ่นดินไหวใหญ่ ฯ

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://sites.google.com/site/dhammatharn/home/hetu-haeng-phaen-din-hiw

แชร์