ว้าว!!! 6 Tips อยากเรียนเมืองนอกเพื่อสอบวัดผล

การสอบวัดผลทางภาษาอังกฤษอย่าง IELTS ต้องรู้จักตัวเอง (Know Yourself) ต้องการคะแนน IELTS ไปเพื่ออะไร? และประเมิณทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของเรานั้นอยู่ที่ระดับไหน ต้องใช้เวลาประมาณเท่าไรจึงจะสามารถไปถึงคะแนนที่เราต้องการ http://winne.ws/n12412

1.1 พัน ผู้เข้าชม
ว้าว!!! 6 Tips อยากเรียนเมืองนอกเพื่อสอบวัดผล

 

หลายคนคงเคยได้ยินการสอบวัดผลทางภาษาอังกฤษอย่าง IELTS หรือ International English Language Testing System โดยเฉพาะผู้ที่ต้องการไปศึกษาต่อในประเทศฝั่งยุโรป อาทิ อังกฤษ เยอรมัน ฝรั่งเศส นิวซีแลนด์ หรือออสเตรเลีย ที่ต้องการผลทักษะภาษาอังกฤษทั้งการฟัง พูด อ่าน และเขียน เพื่อประกอบการตัดสินใจให้เข้าศึกษาต่อ "มีก้า" (MIECA : MAC International Education Consultant Agency) ศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ แนะเคล็ดลับ 6 เคล็ดลับการสอบ IELTS ให้กับน้อง เพื่อนำมาปรับใช้ก่อนลงสนามสอบอย่างมั่นใจ     

 

นายธรรศ มดิศร ผู้อำนวยการศูนย์แนะแนวการศึกษาต่อต่างประเทศ "มีก้า"  แนะนำว่า ต้องรู้จักตัวเอง (Know Yourself) โดยก่อนที่จะไปสอบ IELTSนั้น ควรจะเช็คลิสต์กันก่อนว่าเราต้องการคะแนน  IELTS ไปเพื่ออะไร? เพื่อใช้ในการทำงานหรือการศึกษาต่อใช่หรือไม่ หากใช่ก็ต้องดูว่าเราจะจะไปเรียนต่อที่ประเทศไหนและมหาวิทยาลัยอะไร เพราะแต่ละมหาวิทยาลัยนั้นต่างก็ต้องการคะแนน IELTS ที่ต่างกันไป นอกจากนี้เราก็ต้องมาดูด้วยว่าทักษะในการใช้ภาษาอังกฤษของเรานั้นอยู่ที่ระดับไหน ต้องใช้เวลาประมาณเท่าไรจึงจะสามารถไปถึงคะแนนที่เราต้องการ

 

รู้จักข้อสอบ IELTS (Know IELTS) โดยข้อสอบ IELTS นั้นจะเน้นการสอบทั้ง 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยจะเริ่มสอบจากการฟังที่ใช้เวลาประมาณ 30 นาที หลังจากนั้นจะเป็นข้อสอบการอ่าน 60 นาที ข้อสอบการเขียนอีก 60 นาที และจะพักเบรก 1 ชม. ก่อนที่จะกลับมาเข้าสอบการพูดอีกประมาณ 11-14 นาที

 

รู้จักลักษณะโจทย์ของ IELTS (Know IELTS Task Types) ผู้สอบจะต้องเจอกับโจทย์ IELTS ในหลากหลายรูปแบบ อาทิ โจทย์แบบให้เติมคำลงในช่องว่าง โจทย์แบบตัวเลือก A) B) C) โจทย์แบบจับคู่ หรือโจทย์แบบ Yes/No/True/False/Not Given ซึ่งสิ่งที่สำคัญมากๆ ในการทำข้อสอบ IELTS ก็คือ "ต้องอ่านโจทย์ให้ละเอียด" เพราะสิ่งที่เราจะเจอคือโจทย์อาจจะระบุว่า "Write NO MORE THAN TWO WORDS OR A NUMBER" ซึ่งหมายความว่าห้ามเขียนเพลินเกิน 2 คำเด็ดขาด หรือโจทย์ว่า "Write the correct number i-viii, in boxes 1-4 on your answer sheet." คือโจทย์สั่งให้เขียนเป็นเลขโรมัน เพราะฉะนั้นเวลาทำข้อสอบ IELTSต้องอ่านโจทย์ให้ละเอียดเพื่อป้องกันความผิดพลาด

 

ด้าน ดร.จอห์น  เบทแมน หัวหน้าผู้สอน IELTS สถาบันสอนภาษาวอลล์สตรีทอิงลิช (Wall Street English) ยังได้แนะเพิ่มเติมอีกว่า ผู้สอบควรจะต้องหาข้อมูลมาด้วยว่าเกณฑ์ในการให้คะแนนของอาจารย์ผู้ตรวจข้อสอบ หรือที่เราเรียกกันว่า Examiner นั้นคืออะไรบ้าง เพื่อที่จะได้ตอบข้อสอบโดนใจผู้ตรวจ อาทิ สำหรับทักษะการพูดนั้น เกณฑ์ในการให้คะแนนหลักๆ มีอยู่ 4 ข้อ คือ ความคล่องแคล่ว (Fluency) การออกเสียง (Pronunciation) คำศัพท์ (Vocabulary) และไวยากรณ์ (Grammar) น้องๆ ก็จะต้องแสดงให้เห็นถึงทักษะเหล่านี้ เป็นต้น

 

Be Around English พยายามทำให้ภาษาอังกฤษเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราให้มากที่สุด ผ่านการใช้ชีวิตประจำวันแบบง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็นการแบ่งเวลาช่วงเช้าสัก 10-15 นาทีเพื่อฟังข่าวภาษาอังกฤษ ฟังเพลงภาษาอังกฤษในระหว่างการเดินทางไปเรียนหรือไปทำงานเพื่อให้เกิดความคุ้นเคย เมื่อถึงช่วงค่ำๆ ก่อนนอนก็อาจจะหาหนังสือภาษาอังกฤษที่สนใจมาอ่านวันละ 4-5 หน้า เพื่อเป็นการฝึกทักษะการอ่าน รวมทั้งได้เป็นการเรียนรู้คำศัพท์ใหม่ๆ ด้วย

 

และ Practice! หมั่นฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ สำหรับทักษะการฟัง พูด อ่าน นั้นเราอาจจะฝึกด้วยตัวเอง หรือฝึกกับเพื่อนๆ ก็ได้แต่ในส่วนของการเขียนนั้น การฝึกเขียนด้วยตัวเองอาจจะยังไม่พอ เพราะจำเป็นต้องรู้ผลของงานเขียนของเราด้วย อาจจะต้องหาผู้ที่มีความรู้ ความสามารถด้านการเขียนมาช่วยตรวจและแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับงานเขียนของเราด้วย

แชร์