มังกรสอนใจ ตอน เจิงซานฆ่าคน : ข่าวลือทำให้เขว....!!!
ในยุคข้อมูลข่าวสารปัจจุบัน กระแสข่าวเป็นเรื่องที่มีพลังมากจนน่ากลัว ลองสำรวจดูเถิดว่าแต่ละวันเราได้หลงเชื่อคล้อยตามข่าวลือ หรือความเห็นของบุคคลทั้งหลายที่เผยแพร่พูดต่อๆกันมาโดย http://winne.ws/n12998
เจิงซานเป็นศิษย์คนหนึ่งของขงจื้อ และมีชื่อเสียงมากในความเป็นคนกตัญญูต่อพ่อแม่
เจิงซาน เป็นผู้ที่รอบคอบสุขุมมาก ไม่ว่าจะในการพูดจาหรือการทำกิจการงานต่างๆ
มารดาของเจิงซานจึงมีความเชื่อถือไว้วางใจเจิงซานมาก
อยู่มาวันหนึ่ง.... ขณะที่มารดาของเจิงซานกำลังนั่งทอผ้าอยู่ในบ้าน มีเพื่อนบ้านคนหนึ่ง
วิ่งกระหึดกระหอบมาบอกว่า “ เจิงซานฆ่าคนแล้ว"
” แต่มารดาของเจิงซานได้ยินแล้ว กลับไม่
ตระหนกตกใจอะไรเลย ยังคงนั่งก้มศีรษะทอผ้าไปตามปกติ พูดไปอย่างเยือกเย็นว่า
“ไม่มีเรื่องอย่างนี้โดยเด็ดขาด เธอต้องฟังมาผิดแน่ เจิงซานลูกฉันไม่มีทางไปฆ่าใคร”
เพื่อนบ้านคนนั้นเห็นท่าทีของมารดาเจิงซานสงบนิ่งไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ไม่เชื่อถือคำ
พูดของเขาโดยสิ้นเชิง ก็จนปัญญาได้แต่เดินคอตกกลับบ้านไป
เวลาผ่านไปได้สักครู่หนึ่ง ก็มีอีกคนวิ่งมาที่บ้านของมารดาเจิงซาน แจ้งจ่าวเรื่องเจิงซาน
ฆ่าคนคนๆนี้เป็นเพื่อนสนิทของมารดาเจิงซาน และมีตำแหน่งในสังคมสูงมาก คำพูดของเขา
โดยส่วนใหญ่ล้วนเชื่อถือได้ แต่ทว่ามารดาของเจิงซานมีความเชื่อถือในบุตรชายของตน
มากกว่า ยังคงไม่เชื่อข่าวนี้ นั่งทอผ้าต่อไปตามเดิม
เพื่อนคนนั้นเดินจากไปไม่นาน ก็มีอีกคนหนึ่งวิ่งเข้ามาเหงื่อท่วมตัว ลำล่ำละลักบอก
มารดาของเจิงซานว่า “เจิงซานลูกของคุณ ขณะนี้ถูกจับได้แล้ว”
มารดาของเจิงซานได้ยินคำพูดนี้แล้ว ความเชื่อมั่นที่มีต่อบุตรชองตนได้สั่นคลอนแล้ว
เธอตกใจจนหน้าซีดเผือด รีบลุกจากเครื่องทอผ้ามา คนๆนั้นแนะนำมารดาของเจิงซานให้
รีบหนีไปโดยเร็ว เพราะกฎหมายในสมัยนั้น ครอบครัวของฆาตกรที่ฆ่าคนจะต้องรับโทษ
เช่นเดียวกับฆาตกร
ในเวลานั้นเอง เจิงซานก็ได้เดินทางกลับมาถึงบ้านพอดี เขาได้บอกมารดาว่า “ตอนผมเพิ่งเลิกเรียน ระหว่างเดินกลับบ้านได้ยินคนเขาพูดกันว่า ฆาตกรที่ฆ่าคนนั้น มีชื่อและนามสกุลเหมือนผม
ชื่อว่าเจิงซานเหมือนกัน คนอื่นๆอาจเข้าใจผิดคิดว่าเป็นผมไปแล้ว ข่าวลือนี่ช่างน่ากลัวเสียจริงๆ”
ท่านสาธุชนทั้งหลาย......
ในยุคข้อมูลข่าวสารปัจจุบัน กระแสข่าวเป็นเรื่องที่มีพลังมากจนน่ากลัว ลองสำรวจดูเถิดว่า
แต่ละวันเราได้หลงเชื่อคล้อยตามข่าวลือ หรือความเห็นของบุคคลทั้งหลายที่เผยแพร่พูดต่อๆกันมาโดย
ไม่มีหลักฐานชัดเจนไปบ้างแล้วหรือไม่ มากน้อยเพียงใด แม้คนที่หนักแน่นเรื่องที่เห็นๆ อยู่ว่าเป็นไปไม่ได้ ก็ยังอาจสั่นคลอนได้ ด้วยกระแสข่าว
ดูเอาจากเรื่องนี้เถิด ขนาดความเชื่อถือของแม่ที่มีต่อลูกที่ประพฤตตัวดีมาตลอดชีวิต ยังสั่นคลอน
ได้ด้วยการพูดซ้ำๆของคน 3 คน แล้วถ้าหากกระแสข่าวที่เกิดจากแหล่งข่าวเดียวกันที่เป็นเท็จ แต่ออก
ผ่านสื่อมวลชนหลากหลายสาขาซ้ำๆกัน เราเสพข่าวนั้นแล้วจะเข้าใจผิดหลงเชื่อคล้อยตามหรือไม่
ดังนั้น ขอให้ดูคนที่การกระทำ คุณธรรมที่เขาแสดงออกมาชั่วชีวิต ซึ่งเชื่อถือได้มากกว่ากระแสข่าวที่
พูดต่อๆกันมา ยึดหลักว่า
“บัณฑิตย่อมใคร่ครวญอย่างรอบคอบโดยเหตุและผล จนชัดเจนดีแล้วจึงเชื่อ”
ขอบคุณข้อมูลและภาพจากhttp://dragonteach1.blogspot.jp/2017/02/blog-post.html?m=1