กว่าจะซึ้ง( ในศาสนา )ก็สายเสียแล้ว คำพูดสะกิดจากคุณยายที่เหมือนไม้ใกล้ฝั่ง
บทความดี ๆที่แสนประทับใจจากคุณยายท่านหนึ่ง คือคำพูดประโยคหนึ่งของคุณยายที่ว่า "กว่าจะซึ้ง (ในศาสนา) ก็สายเสียแล้ว" ไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ดี เหมือนกับคนหนุ่มสาวเพราะเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว!! http://winne.ws/n13053
เห็นภาพนี้แล้วทำให้นึกถึง คุณยายสำอางค์ขึ้นมาซึ่งคุณยายได้เสียชีวิตหลายปีแล้ว เล่าให้ฟังว่า....
"ยายเป็นคนลูกดก มีลูกครบโหลพอดี ตอนที่พ่อเด็กเสีย ลูกหลายคนก็ยังไม่โต ยายเป็นห่วงอนาคตเขามากกลัวว่าเขาจะเกเรจะสอนเขาไม่ได้ ยายก็เลยพาเขาไปบวชเณรทุกครั้ง ที่ปิดเทอม
ยายไม่คิดว่าหญิงหม้ายอย่างยายจะสามารถเลี้ยงลูกให้ดีได้ โตขึ้นมาลูกคนนั้นคนนี้ ก็อยากจะให้ไปอยู่ด้วยบางทีก็ไปนอนค้างบ้านลูกคนนั้นคนนี้ 3 วันบ้าง 7 วันบ้าง
ยายเป็นหนี้บุญคุณศาสนามาก ชาตินี้ก็ตอบแทนไม่หมด
ถ้าไม่ได้พระศาสนาช่วยอบรมสั่งสอน ไม่รู้ลูกหญิงหม้ายคนนี้จะเป็นอย่างไร"
คุณยายจบคำพูด แบบภูมิใจในตัวลูกทั้ง 12 คน และซึ้งในบุญคุณพระศาสนา
คุณยายเป็นคนฉลาดมีปัญญาจึงนำลูกมาฝากให้ศาสนาอบรมเลี้ยงดูคุณยายจึงรู้สึกว่าตัวเอง โชคดีเหมือนได้ลูกเทวดามาเกิดทุกคน
ซึ่งตรงข้ามกับพ่อแม่อีกหลายคนไม่ฉลาดในการเลี้ยงลูกให้เติบโตแบบมีคุณธรรมที่สุดในบั้นปลาย บางคนก็ถูกลูกทำร้ายถึงแก่ชีวิตก็มีที่เบาหน่อยก็ถูกทอดทิ้งไม่มีใครเหลียวแลจนต้องตกเป็นภาระของสังคมก็มาก
เพียงอยากสะกิดคนมีลูก จะมีลูกกี่คนก็ตามถ้าไม่แน่ใจว่าตัวเอง จะสามารถอบรมสั่งสอนเขา ให้เป็นคนดีมีความกตัญญูได้ จะนำเอาวิธีของคุณยายที่เรียกตัวเองว่า"หญิงหม้าย" ไปใช้ก็ได้
#แต่ที่ประทับใจคุณยายแบบไม่มีวันลืมคือคำพูดประโยคหนึ่งของคุณยายที่ว่า "กว่าจะซึ้ง (ในศาสนา) ก็สายเสียแล้ว" ไม่สามารถปฏิบัติธรรมได้ดี เหมือนกับคนหนุ่มสาวเพราะเป็นไม้ใกล้ฝั่งแล้ว!!
Cr. ฝุ่นผงในรอยพระพุทธบาท
ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก