กุ๊บกิ๊บเตือนสติ "อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน"

"กุ๊บกิ๊บ" สุมณทิพย์ เคลื่อนไหวไอจี คดีลุงวิศวะยิงเด็กวัยรุ่นเสียชีวิต หลังได้ดูคลิป แจงในฐานะคนเป็นแม่คุยกับสามี เตือนสติ อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน... http://winne.ws/n13132

981 ผู้เข้าชม
กุ๊บกิ๊บเตือนสติ "อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน"ขอบคุณภาพจากข่าวสด

"กุ๊บกิ๊บ" สุมณทิพย์ เคลื่อนไหวไอจี คดีลุงวิศวะยิงเด็กวัยรุ่นเสียชีวิต หลังได้ดูคลิป แจงในฐานะคนเป็นแม่คุยกับสามี เตือนสติ อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน...

 ".......เป็นพ่อแม่อย่ารังแกลูก......" พร้อมเขียนข้อความบรรยายใต้ภาพนี้ในฐานะคนที่เป็นแม่ว่า

         "*ได้นั่งดูข่าวๆ หนึ่งดูคลิปและทุกๆ อย่างที่เกี่ยวกับข่าวๆนี้....จากนั้นเรา 2 คนก็ได้แต่มองหน้ากันแล้วพูดเตือนสติว่า....เราสองคนต้องไม่ทำร้ายลูกแบบนี้นะ #จำไว้สอนใจ#ปลูกอะไรได้อย่างนั้น#รักวัวให้ผูกรักลูกให้ตีใช้ได้เสมอ #พ่อแม่รังแกฉัน...

อ่านข่าวต่อได้ที่: http://www.komchadluek.net/news/ent/259622

กุ๊บกิ๊บเตือนสติ "อย่าเป็นพ่อแม่รังแกฉัน"ขอบคุณภาพจากโพสต์ทูเดย์

ความรักที่มากไปน้อยไปล้วนเป็นอันตรายต่อเด็กทั้งสิ้น ความรักที่พอดีเป็นเรื่องที่ทำได้ยากแต่ก็ไม่ยากเกินไปสำหรับพ่อแม่ที่มีความรัก คู่ความรู้และความเข้าใจที่มีต่อบุตรหลาน

เด็กๆซึ่งเป็นสมาชิกใหม่ในสังคมจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพหรือจะมีพัฒนาการทางด้านร่างกาย   อารมณ์  สังคมและสติปัญญาที่แข็งแรงสมบรูณ์หรือไม่อย่างไรนั้นมีองค์ประกอบที่เกี่ยวข้องอยู่หลายประการด้วยกันไม่ว่าจะเป็นเรื่องของพันธุกรรม   สิ่งแวดล้อมและการเรียนรู้ 

แต่อย่างไรก็ตามทีดูเหมือนว่าพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ที่เกี่ยวข้องมีความรับผิดชอบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ในฐานะที่เป็นผู้ที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการหล่อหลอมความเป็นตัวตนหรือบุคลิกภาพของเด็กซึ่งจะส่งผลให้เห็นชัดเจนยิ่งขึ้นเมื่อเติบโตเป็นผู้ใหญ่ทั้งนี้โดยถือว่าช่วงเวลาตั้งแต่แรกเกิดจนถึง 6 ปีซึ่งถือว่าเป็น ช่วงปฐมวัยนั้นจะเป็นช่วงเวลาสำคัญยิ่งต่อการก่อร่างสร้างรากฐานให้เด็กเป็นผู้ที่มีบุคลิกภาพที่ดีต่อไป  

ทั้งนี้ท่านผู้รู้ได้ประมวลวิธีการเลี้ยงดูลูกของพ่อแม่และผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไว้อย่างน่าสนใจจึงนำมาเสนอเป็นข้อพิจารณาดังนี้

ถ้าเลี้ยงเด็กด้วยคำตำหนิติเตียน เขาจะเป็นคนล้มเหลว

ถ้าเลี้ยงเด็กด้วยความก้าวร้าวเขาจะเป็นคนกร้าวแข็ง

ถ้าเลี้ยงเด็กด้วยความเย้ยหยัน เขาจะเป็นคนขลาดอาย

ถ้าเลี้ยงเด็กด้วยความละอายเขาจะเป็นคนขี้ระแวง

ถ้าเลี้ยงลูกด้วยความมานะ  เขาจะเป็นคนอดทน

ถ้าเลี้ยงลูกด้วยความชื่นชม เขาจะเป็นคนซาบซึ้งในคุณค่า

ถ้าเลี้ยงลูกด้วยการยอมรับ เขาจะเป็นคนที่พอใจในตนเอง

ถ้าเลี้ยงลูกด้วยการให้กำลังใจเขาจะเป็นคนที่เชื่อมั่นในตนเอง

ถ้าเลี้ยงลูกด้วยความยุติธรรม เขาจะเป็นคนที่มีใจเป็นธรรม

ถ้าเลี้ยงเด็กด้วยความเป็นมิตรเขาจะมีความรักและเมตตาต่อเพื่อมนุษย์ 

ถ้าเลี้ยงเด็กด้วยความรักและความอบอุ่น  เขาจะเป็นคนมีศรัทธาในชีวิต

นอกจากนี้อาจารย์ณรงค์ศักดิ์  ตะละภัฏ   นักจิตวิทยาที่มีชื่อเสียงยังได้กล่าวถึงสิ่งแวดล้อมในการเลี้ยงดูเด็กและผลกระทบถึงเด็กไว้อย่างน่าฟังดังนี้

เด็กเติบโตท่ามกลางการดุด่า  จะเป็นคนหยาบคาย 

เด็กเติบโตท่ามกลางการติเตียน    จะเป็นคนไม่อยากทำความดี 

เด็กเติบโตท่ามกลางการมุ่งร้าย จะเป็นคนโหดเหี้ยม 

เด็กเติบโตท่ามกลางการสาปแช่ง    จะเป็นคนเลวร้าย 

เด็กเติบโตท่ามกลางการบีบคั้น   จะเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย 

เด็กเติบโตท่ามกลางการแก่งแย่ง   จะเป็นคนใจแคบ 

เด็กที่เกิดมาท่ามกลางการดิ้นรน   จะเป็นคนสู้โลก 

เด็กที่เติบโตท่ามกลางการกลั่นแกล้ง   จะเป็นคนขี้ระแวง 

เด็กเติบโตท่ามกลางการล้อเลียน   จะเป็นคนขี้อาย 

เด็กเติบโตท่ามกลางความกลัว  จะเป็นคนไม่มีเหตุผล 

เด็กเติบโตท่ามกลางการหลอกลวง จะเป็นคนตลบตะแลง 

เด็กเติบโตท่ามกลางการประคบประหงม จะเป็นคนหนักไม่เอาเบาไม่สู้ 

เด็กเติบโตท่ามกลางความอ่อนหวาน จะเป็นคนพูดจาไพเราะ 

เด็กเติบโตท่ามกลางความเป็นธรรม  จะเป็นคนยุติธรรม 

เด็กเติบโตท่ามกลางการให้อภัย  จะเป็นคนมีเมตตา 

เด็กเติบโตท่ามกลางความเป็นกันเอง  จะเป็นคนรักพวกพ้อง 

เด็กเติบโดท่ามกลางการให้กำลังใจ    จะเป็นคนมีความเชื่อมั่นในตนเอง 

เด็กเติบโตท่ามกลางการยกย่อง จะเป็นคนไม่ชอบทำชั่ว 

เด็กเติบโตท่ามกลางความรัก  จะเป็นคนมองโลกในแง่ดี

ท่านผู้อ่านลองพิจารณาดูนะคะว่าวิธีการเลี้ยงดูเด็กและผลกระทบที่เกิดขึ้นซึ่งจะหล่อหลอมให้กลายเป็นบุคลิกภาพพื้นฐานของบุตรหลานดังที่ท่านผู้รู้ประมวลไว้นั้นน่าจะเป็นข้อคิดสำหรับการดูแลบุตรหลานได้หรือไม่อย่างไรก็อย่าให้เด็กๆมาต่อว่าทีหลังก็แล้วกันว่า  “  พ่อแม่รังแกฉัน “

ขอขอบคุณบทความดีดี ที่ให้ข้อคิดต่อพ่อแม่ ผู้ปกครอง การเลี้ยงดูลูกให้ถูกทาง ใครที่เป็นพ่อแม่และไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร มีหลักธรรมเรียกว่า มงคล38ประการ ลองศึกษาดูน่าจะเป็นแนวทางได้ จะได้ลูกแก้ว ไม่เป็นลูกขวด 

ที่มา  : สรวงธร  นาวาผล     กลุ่ม wearehappy.

บันทึกนี้เขียนที่ GotoKnow โดย สรวงธร นาวาผล

https://www.gotoknow.org/posts/102292

 

แชร์