7 อารมณ์โกรธทำร้ายสุขภาพ อันตรายกว่าที่คุณคิด

การระเบิดอารมณ์โกรธทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น ผู้อำนวยการศูนย์บำบัดด้านอารมณ์แห่งนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ในช่วง 2 ชั่วโมงแรก ของการระเบิดอารมณ์โกรธ คุณมีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว http://winne.ws/n13347

758 ผู้เข้าชม
7 อารมณ์โกรธทำร้ายสุขภาพ อันตรายกว่าที่คุณคิด

         รู้หรือไม่ว่าเจ้า “อารมณ์โกรธ” โมโห เหวี่ยงวีน ไม่เพียงทำให้คุณหมดสุข แต่ยังนำพาคุณสู่ 7 เส้นทางอันตรายที่ทำร้ายสุขภาพคุณอย่างสาหัสอีกด้วย

 1. การระเบิดอารมณ์โกรธทำให้เสี่ยงเป็นโรคหัวใจเพิ่มขึ้น ผู้อำนวยการศูนย์บำบัดด้านอารมณ์แห่งนอร์ทแคโรไลนา สหรัฐอเมริกา อธิบายว่า ในช่วง 2 ชั่วโมงแรก ของการระเบิดอารมณ์โกรธ คุณมีความเสี่ยงต่อการป่วยเป็นโรคหัวใจ และหลอดเลือดเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว

 2. โกรธเมื่อใด เสี่ยงเกิดลิ่มเลือดอุดตันสมองเมื่อนั้น เพราะ 2 ชั่วโมงที่เดือดดาลนี้ อาจเกิดลิ่มเลือดขึ้นไปอุดตันสมองได้ อีกทั้งยังเสี่ยงเกิดเส้นเลือดในสมองแตกได้มากกว่าเวลาปกติถึง 6 เท่า

 3. ความโกรธทำให้ร่างกายอ่อนแอ มีงานวิจัยที่ชี้ชัดแล้วว่า แม้แต่คนที่มีสุขภาพดี ถ้าชอบเอาเรื่องเสียอารมณ์มาคิดซ้ำๆ จะส่งผลให้ระบบภูมิต้านทานในร่างกายทำงานต่ำลง จนป้องกันการติดเชื้อต่างๆ ไม่ได้

 4. ยิ่งขี้โมโห ยิ่งป่วยเป็นโรควิตกกังวล จากงานวิจัยที่ตีพิมพ์ใน วารสาร Cognitive Behavior Therapy กล่าวถึงความโกรธว่า ทำให้เสี่ยงต่อการเป็นโรควิตกกังวล (Generalized Anxiety Disorder – GAD) มากขึ้น

 5. นิสัยขี้โมโหต่อสายตรงสู่ปัญหาความเครียด จากคำยืนยันของคุณหมอเอเคนที่ว่า เมื่อลองได้โกรธใคร ไม่ว่าจะระเบิดอารมณ์โกรธหรือหมกมุ่นอยู่เงียบๆ ก็ล้วนส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มขึ้นของความเครียด แต่คนที่ชอบเก็บกดความโกรธไว้ ไม่เอื้อนเอ่ยกับใคร ความเครียดจะยิ่งพุ่งสูงเร็วกว่า

 6. ความคิดร้ายๆ (ต่อคนอื่น) ทำลายปอด เพราะแม้คุณไม่ใช่นักสูบ แต่จากสถิติการเก็บตัวอย่างในผู้ชาย 670 คนต่อเนื่องนาน 8 ปีของฮาวาร์ดชี้ว่า คนที่มีแนวโน้มขี้โมโหและคิดร้ายต่อคนอื่นเป็นนิจ จะทำให้การทำงานของปอดแย่ลง และเสี่ยงต่อการมีปัญหาติดเชื้อในระบบทางเดินหายใจได้ง่าย

 7. ความโกรธทำให้อายุสั้นลง จากผลการวิจัยของมหาวิทยาลัยมิชิแกนที่ศึกษาคู่ชีวิตหลายคู่นานกว่า 17 ปี พบว่าคู่ที่ในชีวิตเต็มไปด้วย การถือโกรธต่อกันจะมีอายุสั้นกว่าคู่ที่ไม่ค่อยมีปากเสี่ยง

        อ่านจบแล้ว คิดว่าคงถึงเวลาที่ใครหลายคนต้องมองหาวิธีการบำบัดอารมณ์โมโหร้ายกันเสียที

แชร์