รัฐคุกคามหนัก!!...ร่วมป้องนักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก

แอมเนสตี้ฯเผยรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ประจำปี 2559-2560 จากการรวบรวมสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนตลอดปี 59 ชี้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลกยังคงถูกคุกคามอย่างหนัก จากการทำงานเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน ร้องรัฐบาลไทยให้ยุติการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก http://winne.ws/n13493

582 ผู้เข้าชม

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เผยรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ประจำปี 2559-2560 จากการรวบรวมสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนตลอดปี 59 ชี้นักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลกยังคงถูกคุกคามอย่างหนัก จากการทำงานเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน

เมื่อ 23 ก.พ. 60 แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เปิดเผยรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชน ประจำปี 2559/2560 ซึ่งรวบรวมสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนตลอดปี 2559 โดยให้ภาพรวม 5 ภูมิภาค และข้อมูลของแต่ละประเทศทั้งหมด 159 ประเทศ รายงานนี้ชี้ให้เห็นว่าการเรียกร้องสิทธิมนุษยชนยังดำเนินต่อไปอย่างเข้มแข็งในทุกมุมโลก

สำหรับงานแถลงข่าวเปิดตัวรายงานสถานการณ์สิทธิมนุษยชนประจำปี 2559/2560 จัดขึ้นพร้อมกันทั่วโลกในวันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ 2560 สำหรับประเทศไทย นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เป็นตัวแทนมอบรายงานพร้อมทั้งข้อเรียกร้องถึงทางการไทย โดยมีนายณัฐภาณุ นพคุณ ผู้อำนวยการกองการสังคม กรมองค์การระหว่างประเทศ กระทรวงการต่างประเทศ เป็นตัวแทนรัฐบาลไทยรับมอบรายงานฉบับดังกล่าว

นางปิยนุช โคตรสาร ผู้อำนวยการ แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย เปิดเผย รายงานฉบับนี้ที่ชี้ให้เห็นว่า นักปกป้องสิทธิมนุษยชนทั่วโลกยังคงถูกคุกคามอย่างหนักจากการทำงานเพื่อปกป้องสิทธิมนุษยชน ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก โดยนักปกป้องสิทธิมนุษยชนยังคงถูกข่มขู่ทั้งในกัมพูชา พม่า มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และประเทศอื่นๆ รวมทั้งมีการใช้กฎหมายใหม่ และกฎหมายที่มีอยู่เพื่อเอาผิดทางอาญากับการแสดงออกอย่างสงบ

“รัฐบาลพุ่งเป้าโจมตีนักกิจกรรมด้านสิทธิมนุษยชนและภาคประชาสังคม เป็นการส่งสัญญาณเตือนไม่ให้คนแสดงความคิดเห็นต่าง ประชาชนทั้งในมาเลเซีย พม่า ไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ถูกคุกคาม ถูกจับกุมและดำเนินคดีเพียงเพราะการใช้สิทธิที่จะมีเสรีภาพในการแสดงออก และการชุมนุมอย่างสงบ”

สำหรับประเทศไทย ในรายงานระบุถึงการปราบปรามอย่างต่อเนื่องต่อการแสดงความเห็นต่างอย่างสงบยังดำเนินต่อไป ภายหลังรัฐประหารปี 2557 ทำให้เกิดสภาพที่ประชาชนส่วนใหญ่ไม่กล้าวิพากษ์วิจารณ์ทางการอย่างเปิดเผย นักปกป้องสิทธิมนุษยชนถูกตั้งข้อหาหมิ่นประมาททางอาญา เนื่องจากการเปิดเผยรายงานเกี่ยวกับการละเมิดสิทธิ หรือเนื่องจากการทำงานสนับสนุนบุคคลและชุมชนที่ถูกละเมิดสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐาน รัฐบาลยังคงสั่งห้ามการอภิปรายก่อนจะมีการออกเสียงประชามติเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ เช่น กรณีที่มีประชาชน 10 กว่าคนที่แสดงความเห็นต่อร่างรัฐธรรมนูญทางเฟซบุ๊ก เป็นเหตุให้พวกเขาถูกควบคุมตัวหรือถูกตั้งข้อหา และอาจได้รับโทษจำคุกถึง 10 ปีตามคำสั่งฉบับใหม่ของรัฐบาล

แอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เรียกร้องรัฐบาลไทยให้ยุติการโจมตีการทำงานของนักปกป้องสิทธิมนุษยชน เพราะถือเป็นการคุกคามสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก และเรียกร้องเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายหยุดใช้กระบวนการทางอาญา เพื่อปราบปรามบุคคลที่ใช้สิทธิและเสรีภาพในการแสดงออก การสมาคม และการชุมนุมอย่างสงบโดยทันที

“รัฐไทยต้องให้สัตยาบันรับรองต่ออนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้สูญหาย (International Convention for the Protection of All Persons from Enforced Disappearance) และสนับสนุนให้เกิดบรรยากาศที่ปลอดภัยและหนุนเสริมนักปกป้องสิทธิมนุษยชนและบุคคลอื่นๆ ในภาคประชาสังคม” ปิยนุช กล่าวทิ้งท้าย

รัฐคุกคามหนัก!!...ร่วมป้องนักสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
แชร์