5 เสาหลัก ที่ค้ำจุนเถรวาทกว่า 2,600 ปี หากผิดพลาดย่อมกระทบ ถึงความดำรงอยู่ของพระพุทธศาสนา
ฝ่ายบ้านเมือง เวลาจะทำอะไร ก็คุ้นเคยแต่เรื่องการบังคับ ใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว ทำให้เมื่อมาทำงานเกี่ยวกับศาสนา ไม่ทันได้คิดถึงผลกระทบด้านอื่น ๆ ไปด้วย ขณะที่ฝ่ายพระเถระผู้ใหญ่ จะตัดสินใจทำอะไรแต่ละเรื่องต้องคำนึงผลกระทบถึง 5 เรื่อง http://winne.ws/n13527
ได้พบบทความในเฟสบุคโดยใช้นามว่า Ptreetep เข้ากับเหตุการณ์ปัจจุบันพอดีนำมาให้อ่านประดับสติปัญญา เพื่อเป็นข้อคิดสำหรับผู้ที่คิดง่ายๆ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ฝ่ายบ้านเมือง เวลาจะทำอะไร ก็คุ้นเคยแต่เรื่องการบังคับ ใช้กฎหมายเพียงอย่างเดียว ทำให้เมื่อมาทำงานเกี่ยวกับศาสนา ไม่ทันได้คิดถึงผลกระทบด้านอื่น ๆ ไปด้วย ขณะที่ฝ่ายพระเถระผู้ใหญ่ จะตัดสินใจทำอะไรแต่ละเรื่อง ต้องคำนึงผลกระทบถึง 5 เรื่อง คือ
1. ธรรมวินัย
2. กฎหมายบ้านเมือง
3. กฎหมายสงฆ์
4. ธรรมเนียมปฏิบัติ
5. เถระบัญญัติ
เพราะทั้ง 5 เรื่องนี้ คือเสาหลัก
ที่ค้ำจุนเถรวาทมา 2,600 ปี
หากผิดพลาดขึ้นมาย่อมกระทบกระเทือน
ถึงความดำรงอยู่ในระยะยาวของพระพุทธศาสนา
กรณีที่ฝ่ายบ้านเมืองตั้งข้อหาพระสงฆ์
จากการรับบริจาคว่าเป็นการฟอกเงินและรับของโจร
เรื่องแบบนี้ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์ชาติไทย
รวมทั้งในประวัติศาสตร์พระพุทธศาสนาทุกนิกายก็ไม่เคยมี
เมื่อเป็นคดีแรกในประวัติศาสตร์แบบนี้
สิ่งต่างๆ ที่ฝ่ายบ้านเมืองทำไว้ในวันนี้
มันจะกลายเป็นบรรทัดฐานให้คนรุ่นหลัง
ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติต่อพระสงฆ์ทั้งประเทศทันที
จริงอยู่ที่ฝ่ายบ้านเมืองจะใช้อำนาจรัฐ
เร่งรีบลัดขั้นตอนตามใจชอบยังไงก็ได้
แต่ฝ่ายพระสงฆ์จะเร่งรีบลัดขั้นตอน
โดยไม่คำนึงผลกระทบต่อพระพุทธศาสนา
และสังฆมณฑลโดยภาพรวมไม่ได้
เพราะหากมีความผิดพลาดเสียหายขึ้นมา
ปัญหาระยะยาวไม่ได้เกิดขึ้นกับฝ่ายบ้านเมือง
แต่เกิดขึ้นกับฝ่ายพระพุทธศาสนา
และยังเป็นแบบแผนให้สามารถใช้กฎหมายบ้านเมือง
ล้มเสาหลักทั้ง 5 ต้น ที่ค้ำจุนเถรวาท
ให้พังทลายลงมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายอีกด้วย
ลองคิดดูว่า ขนาดตอนนี้ผู้นำประเทศเป็นชาวพุทธ
พระพุทธศาสนายังได้รับผลกระทบกระเทือน
จากการตั้งข้อหาโดยไม่เป็นธรรมแบบนี้
หากวันหน้าผู้นำประเทศไม่ใช่ชาวพุทธขึ้นมา
พระพุทธศาสนามิแหลกลาญเพราะแนวทางปฏิบัติ
ที่เจ้าหน้าที่กฎหมายฝ่ายบ้านเมืองทำไว้
เป็นบรรทัดฐานในวันนี้หรอกหรือ ?
----------------------------------
๑๙ มิถุนายน ๒๕๕๙
FB:Ptreetep