'กระทรวงพาณิชย์' ดันโอทอป ขายขึ้นห้างฯ-สนามบิน หวังเพิ่มช่องทางจำหน่าย
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดันสินค้าโอทอป-สุดยอดเอสเอ็มอี กว่า 750 ราย ขายผ่านห้างสรรพสินค้า ช็อปปิ้งออนไลน์ สนามบิน หวังเพิ่มช่องทางจำหน่าย เผย ล่าสุดต่อสัญญาคิงเพาเวอร์ คงพื้นที่จำหน่ายโอทอปในสุวรรณภูมิอีก 3 ปี ตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 100 ล้าน http://winne.ws/n1353
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ดันสินค้าโอทอป-สุดยอดเอสเอ็มอี กว่า 750 ราย ขายผ่านห้างสรรพสินค้า ช็อปปิ้งออนไลน์ สนามบิน หวังเพิ่มช่องทางจำหน่าย เผย ล่าสุดต่อสัญญาคิงเพาเวอร์ คงพื้นที่จำหน่ายโอทอปในสุวรรณภูมิอีก 3 ปี ตั้งเป้ายอดขายปีนี้แตะ 100 ล้าน ...
เมื่อวันที่ 31 มี.ค. 59 นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เชิญห้างค้าปลีกค้าส่งสมัยใหม่ ห้างสรรพสินค้า เช่น เทสโก้ โลตัส, เซ็นทรัล ซุปเปอร์มาร์เก็ต, ช็อปปิ้งออนไลน์, ช็อปแชนแนลชื่อดัง ทั้งของไทย ญี่ปุ่น เกาหลี เช่น ทีวีไดเรกต์, ผู้ประกอบการไทย เช่น คิงเพาเวอร์ และไทยแลนด์ มอลล์ ซึ่งนำสินค้าไปจำหน่ายบนเครื่องบิน (โอทอป ออน บอร์ด) และผู้ประกอบการจากต่างประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี กว่า 40 ราย มาร่วมคัดเลือกสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (โอทอป) และผลิตภัณฑ์สุดยอดเอสเอ็มอีจังหวัด ที่กรมฯ คัดเลือกมาจากทุกจังหวัดทั่วประเทศกว่า 750 รายการ เพื่อให้ผู้ซื้อได้คัดเลือกสินค้าไปจำหน่าย ซึ่งจะช่วยเพิ่มช่องทางการจำหน่ายให้กับสินค้าโอทอป และสินค้าเอสเอ็มอีได้เพิ่มขึ้น
สำหรับการเจรจากับ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้รับสัมปทานเช่าพื้นที่ในสนามบินสุวรรณภูมิ เพื่อให้คงพื้นที่จำหน่ายสินค้าโอทอปในสนามบินสุวรรณภูมิไว้ตามเดิมนั้น ล่าสุด ได้ตกลงกันได้แล้ว โดยจะต่อสัญญาพื้นที่เดิมให้อีก 3 ปี สิ้นสุดปี 62 ภายใต้เงื่อนไขเดิม คือ คิงเพาเวอร์ต้องซื้อขาดสินค้าโอทอปจากผู้ผลิต และสามารถบวกกำไรเพิ่มได้ 20-30% เพื่อไม่ให้สินค้าแพงเกินไป และยังพร้อมที่จะปรับเปลี่ยนหมุนเวียนสินค้าโอทอปจากผู้ผลิตรายใหม่ๆ เข้าไปวางจำหน่ายด้วย
thairath.co.th"ปี 58 ศาลาไทยที่จำหน่ายสินค้าโอทอปในสุวรรณภูมิ ทำยอดขายได้กว่า 70 ล้านบาท และตั้งเป้าว่ายอดขายจะเพิ่มขึ้นได้ถึงปีละ 25-30% โดยปีนี้ ยอดขายน่าจะได้ 100 ล้านบาท และจะทะลุ 100 ล้านบาทในปีหน้าแน่นอน สำหรับสินค้าที่ขายดี ส่วนใหญ่จะเป็นเสื้อผ้า เครื่องแต่งกายจากผ้าทอ ยาหม่องสเลดพังผอน อาหาร โดยนักท่องเที่ยวที่ซื้อมากที่สุดคือ จีน รองลงมาคือ ญี่ปุ่น รวมถึงไทย"
อย่างไรก็ตาม กรมฯ ยังได้เจรจากับผู้รับสัมปทานพื้นที่เช่าในท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งกลุ่มคิงเพาเวอร์ และเดอะมอลล์กรุ๊ป และเจรจากับการบริษัท ท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. เพื่อเปิดร้านจำหน่ายสินค้าโอทอปในสนามบินนานาชาติเพิ่มขึ้นด้วย โดยที่สนามบินดอนเมือง และภูเก็ต จะเปิดได้ในเร็วๆ นี้ ส่วนที่เชียงใหม่ อยู่ระหว่างการเจรจาประสานงาน
สำหรับช่องทางการจำหน่ายสินค้าโอทอปช่องทางอื่นนั้น กรมฯ จะผลักดันให้ผู้ผลิตนำสินค้าเข้าไปขายผ่านออนไลน์ โดยมีเว็บไซต์ที่กรมฯ ดูแล คือ www.thaicommercestore.com ซึ่งเหมือนเป็นเว็บไซต์ให้พวกฝึกหัดค้าขายได้นำสินค้าเข้าไปจำหน่าย หากมีความเข้มแข็ง จะผลักดันให้นำไปขายผ่านเว็บไซต์ www.thaitrade.com ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่ค้าขายออกสู่ตลาดต่างประเทศ รวมถึงผลักดันให้เข้าไปค้าขายในเว็บไซต์ต่างประเทศอื่นๆ เช่น alibaba.com และ amazon.com ที่กรมฯ มีความร่วมมืออยู่
ขอบคุณแหล่งข่าว www.thairath.co.th