ผู้ประกอบการรอบวัดพระธรรมกาย แจงหากการตัดสัญญาณและปิดถนนยืดเยื้อ พวกเขาระบุว่า จะมีผลกระทบต่อลูกค้าและซัพพลายเออร์ของผู้ประกอบการแน่นอน แม้ว่าตอนนี้ยังไม่ได้รับผลกระทบชัดเจนก็ตาม

หลังจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ แจ้งมายัง กสทช.ให้ควบคุมสัญญาณอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือทุกเครือข่ายรอบวัดพระธรรมกาย จากนั้นรัฐบาลได้แจ้งคำสั่งโดยอาศัยอำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ(ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 สั่งให้ กสทช. และผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ทุกราย ระงับการให้บริการอินเตอร์เน็ตบริเวณวัดพระธรรมกายวานนี้ (24 ก.พ.60) 
 

ทีมข่าววอยซ์ทีวีได้ลงพื้นที่สำรวจพื้นที่รอบวัด  บริเวณถนนคลองหลวง  พบว่า สัญญาณอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือ 3 เครือข่าย ทั้งเอไอเอส ทรู และดีแทค ก่อนจะถึงวัดประมาณ 1 กิโลเมตร สัญญาณเริ่มอ่อนลง และเมื่อเคลื่อนที่เข้าใกล้วัดมากยิ่งขึ้น จนถึงบริเวณหน้าวัดพระธรรมกายประตูใหญ่ พบว่าสัญญาณอินเทอร์เน็ตของโอเปอเรเตอร์ทั้ง 3 ค่าย อ่อนลง จาก 4จี เป็น 3 จี และบางค่ายเปลี่ยนเป็นสัญญาณเอจ และเมื่อขับรถผ่านวัดในบางช่วง สัญญาณอินเทอร์เน็ตถูกตัด จนกลายเป็น "ไม่มีการให้บริการ" 

ทั้งนี้ สัญญาณอินเทอร์เน็ตค่อนข้างเปลี่ยนแปลงสลับไปมา โดยส่วนใหญ่เป็นสัญญาณ 3 จี ในระดับสัญญาณอ่อนมาก แต่การใช้งานเสียงโทรออก-รับสาย ยังใช้งานได้ตามปกติ 
 

เจ้าของร้านไฮ้ทวีทรัพย์ อลูมีเนียม ร้านติดตั้งกระจก-อลูมีเนียม บริเวณด้านหน้าใกล้วัดธรรมกาย ระบุว่า สัญญาณอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือที่ถูกตัดตั้งแต่วานนี้ ทำให้การใช้งานอินเทอร์เน็ตทั่วไปผ่านโทรศัพท์มือถือทำได้ช้าลง โดยเฉพาะการดาวน์โหลด แม้ยังไม่กระทบกับการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าและซัพพลายเออร์ในตอนนี้ แต่หากภาครัฐยังคงตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตต่อไปไม่มีกำหนด จะกระทบกับการติดต่อกับลูกค้าในการรับงานใหม่ และติดตามงานที่ทางร้านได้ให้บริการลูกค้าไว้ก่อนหน้านี้แน่นอน ซึ่งที่ผ่านมานับตั้งแต่มีการดำเนินการตรวจค้นวัดพระธรรมกายกว่า 10 วัน ทำให้ผู้ประกอบการโดยรอบได้รับความเดือดร้อน แทบไม่มียอดขายอยู่แล้ว 

และหลังจากมีการตัดสัญญาณอินเทอร์เน็ตโทรศัพท์มือถือ  มีการเผยแพร่แอปพลิเคชั่นที่ใช้ส่งข้อความถึงกัน  คล้ายแอพพลิเคชั่นไลน์ ชื่อว่า  "ไฟร์แชต"  ที่ไม่ต้องใช้สัญญาณอินเทอร์เน็ตในโทรศัพท์มือถือ   แต่เชื่อมกับสัญญาณโทรศัพท์มือถือเครื่องอื่น โดยภายในแอปพลิเคชั่นนี้ ได้มีการตั้งกลุ่มแชตสาธารณะ  ในชื่อ  "แฮชแทค ดีเอ็มซี 072"  ซึ่งมีทั้งสมาชิกวัดพระธรรมกายและบุคคลภายนอกเข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก  เช่น   เตือนสมาชิกวัดพระธรรมกาย ห้ามหยิบอาวุธที่ตกพื้นคืนเจ้าของ  เนื่องจากมีผู้คอยถ่ายภาพไว้   หรือ การถกเถียงกันของผู้ที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยกับแนวทางของวัดพระธรรมกาย เป็นต้น  

ทั้งนี้  การพูดคุยผ่านแฮชแทคดังกล่าว   เป็นการพูดคุยแบบสาธารณะ  ซึ่งสมาชิกวัด  ได้มีการตั้งกลุ่มลับ  ซึ่งจะไม่เปิดเผยให้กับบุคคลทั่วไปได้รับรู้หรือเข้ามาภายในกลุ่ม ​ 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/business/465156.html