ทั้งนี้ระหว่างที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว นายบุญเชิด กิตติธรางกูร ผอ.สำนักเลขาธิการมหาเถรสมาคม ได้เข้ามาทำความเข้าใจ และนิมนต์ไปฉันเพลที่ฝั่งตรงข้ามคือโรงเรียนคลองสอง แต่กลุ่มพระสงฆ์ดังกล่าวยังขอยืนยันที่จะนั่งสวดมนต์ และนั่งสมาธิหน้าประตู 7 จนกว่าจะได้เข้าไปภายในรั้ววัดพระธรรมกาย 

        จนกระทั่งถึงเย็นวันนี้เจ้าหน้าที่รัฐหรือดีเอสไอได้ยืนยันคำเดิม คือไม่อนุญาตให้ใครเข้าในพื้นที่และยังคงตรึงกำลังอย่างหนาแน่น 

#ทีมข่าววินนิวส์

เมื่อเวลาประมาณ 10.00 น.หน้าประตู 7 วัดพระธรรมกายมีคณะสงฆ์หลายจังหวัด ทยอยเดินทางมา วัดพระธรรมกายเพื่อขอบิณฑบาต มาตรา44 และขอเข้าพื้นที่วัด พร้อมตั้งใจที่จะไปสวดมนต์ และฉันภัตตาหารเพล การเดินทางมาครั้งนี้ไม่เห็นด้วยในการเอาผิดกับพระธัมมชโย 

         โดยตัวแทนพระสงฆ์ ได้ให้เหตุผลว่า คำสอนของวัดพระธรรมกายเป็นเรื่องที่ถูกต้อง และการที่คณะสงฆ์รวมกันมาในครั้งนี้ เนื่องจากเห็นว่าพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ ที่เข้ามาปิดล้อมวัด และปิดการเข้าออกอาคารต่าง ๆ ทำให้พระภิกษุหลายท่าน เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่มีแผนที่จะมายึดวัด เพราะวัดมีศาสนสมบัติจำนวนมาก และมองว่าพระพุทธศาสนาถูกย่ำยีรังแกอย่างเห็นได้ชัด

         การที่กล่าวหาว่าพระธัมมชโยผิดแต่จะมาล้อมวัดยึดวัด ย่อมไม่ถูกต้อง การมาครั้งนี้ไม่มีเจตนาทำร้ายเจ้าหน้าที่ใด ๆ เพราะไม่มีอาวุธใด นอกจาก มือและย่ามพระ เท่านั้น 

        ของเพียงให้รัฐบาลคืนสิทธิมนุษยชนให้กับวัดและสาธุชนที่ลำบากในการประคองชีวิตอยู่เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนา วัดและพระสงฆ์ และได้แจ้งเจตน์จำนงค์ในการมาครั้งนี้เพื่อปกป้องพระพุทธศาสนาร่วมกัน อีกด้วย

        ถึงอย่างไร ? เจ้าหน้าที่รัฐก็ไปเปิดประตูวัดให้คณะพระภิกษุสงฆ์ดังกล่าวได้เข้าวัดแต่ประการใด พร้อมให้เหตุผลว่า เจ้านายไม่ให้เปิด

        คณะสงฆ์จำนวนมาก จึงพร้อมใจขอนั่งสมาธิตากแดด สวดมนต์ ที่หน้าประตู 7 อยู่ประมาณ 1.30 ช.ม. จนถึงเวลาฉันภัตตาหารเพล จึงได้เดินทางไปฉันภัตตาหารเพล ที่จุดรวมคณะศรัทธาญาติโยมที่ตลาดกลางคลองหลวง และพักผ่อนอยู่ที่นั่น