"ฉุดคะแนนวูบ" เมื่อรัฐบาลงานเข้า การปฏิบัติที่สุดโต่งกับขั้วต่างทางการเมือง นี่คือจุดชี้อนาคตของคสช.

เหตุที่รัฐบาลยอมใส่เกียร์ถอยอย่างรวดเร็วในกรณีโรงไฟฟ้ากระบี่ จะเห็นว่าจากจุดอ่อนทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ล้วนมีผลต่อการชี้ขาดอนาคตของคสช.ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะลงจากหลังเสือในสภาพอย่างไร ล่าสุดกับกรณีธรรมกาย http://winne.ws/n13569

1.9 พัน ผู้เข้าชม
"ฉุดคะแนนวูบ" เมื่อรัฐบาลงานเข้า การปฏิบัติที่สุดโต่งกับขั้วต่างทางการเมือง นี่คือจุดชี้อนาคตของคสช.

ถึงวันนี้มีสัญญาณหลายอย่างบ่งชี้ถึงสถานการณ์ของรัฐบาลพล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในการบริหารประเทศ

       เห็นได้จากการสำรวจความคิดเห็นประชาชนของกรุงเทพโพลล์ หัวข้อประเมินผลงาน 2 ปี 6 เดือนรัฐบาล พบว่าคะแนนลดลงทุกด้านทั้งด้านความมั่นคงของประเทศ การบริหารจัดการและการบังคับใช้กฎหมาย สังคมและคุณภาพชีวิต การต่างประเทศ และเศรษฐกิจ

       สรุปเป็นคะแนนเฉลี่ย 5.83 เต็ม 10 ขณะที่ปัญหาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศ ยังคงเป็นเรื่องที่ประชาชนต้องการให้รัฐบาลแก้ไขปรับปรุงเร่งด่วนมากที่สุด ตามด้วยราคาผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ สินค้าแพง ค่าครองชีพสูง คนมีรายได้น้อย และปัญหา คอร์รัปชั่นในวงราชการเจาะจงลงไปยังคะแนนเฉพาะตัวพล.อ.ประยุทธ์ 

       ถึงยังอยู่ในระดับเฉลี่ย 7.40 คะแนน แต่ก็ลดลงเช่นกันในทุกเรื่องความซื่อสัตย์สุจริต, การรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ, ความสามารถในการบริหารจัดการตามอำนาจหน้าที่ และความสามารถสร้างสรรค์ผลงาน 

       โครงการใหม่ ๆ มีคะแนนความขยันทุ่มเทในการทำงานเพื่อแก้ปัญหาของประเทศเท่านั้นที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อย 0.01 คะแนนในจังหวะนี้เองที่รัฐบาลเกิดปัญหาแทรกซ้อน ซ้ำเติมสถานการณ์ไม่ว่าเรื่องม็อบต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน จ.กระบี่ 

       หรือกรณีพระธัมมชโยและวัดพระธรรมกาย อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี ที่ทำท่าว่าจะเป็นหนังม้วนยาวท่ามกลางมรสุมรุมขนาบ รัฐบาลคสช.เลือกที่จะถอดสลักระเบิดโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ด้วยการออกมติครม.สั่ง?เซ็ตซีโร่?รายงานศึกษาผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) และจัดทำผลประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ (อีเอชไอเอ) ใหม่หมดทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงยอมสลายตัวจากหน้าทำเนียบรัฐบาล กลับภูมิลำเนาบ้านใครบ้านมัน 

       แม้จะยังไม่แน่ใจว่าการถอยของรัฐบาลครั้งนี้ถอยจริงหรือแค่ถอยตั้งหลักรอทีเผลอ

       การที่พล.อ.ประยุทธ์หันมาเฉ่งพล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกรัฐบาลและอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ว่าชี้แจงการก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ “ไม่ได้เรื่อง ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง” 

       รวมถึงในรายของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. ที่พลอยโดนหางเลขไปด้วย เพราะดันไปเสนอตัวว่ากกต.พร้อมจัดทำประชามติ ให้ประชาชนตัดสินว่าจะเอาหรือไม่เอาโรงไฟฟ้าถ่านหินในกรณีของ? โฆษกไก่อู? และ? กกต.สมชัย? สะท้อนให้เห็นว่า กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่น่าจะสร้างความกระอักกระอ่วนให้กับพล.อ.ประยุทธ์ไม่น้อย 

       เพราะที่ผ่านมา รัฐบาลคสช. เหมือนกันว่าเหตุที่รัฐบาลยอมใส่เกียร์ถอยอย่างรวดเร็วในกรณีโรงไฟฟ้ากระบี่ นอกจากเป็นเพราะข้อมูลการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของโครงการมีจุดอ่อนยังอาจเกี่ยวกับการที่แกนนำผู้ชุมนุมบางคน เป็นพวกเดียวกับเครือข่ายกองเชียร์ ที่เคยร่วมเคลื่อนไหวเป่านกหวีดก่อนเหตุการณ์รัฐประหาร 22 พฤษภาฯ 2557 อีกด้วย

        ซึ่งนำมาสู่ข้อสงสัยถึงมาตรฐานรัฐบาลในการปฏิบัติกับม็อบต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัดกับการปฏิบัติต่อพรรคและกลุ่มการเมืองขั้วตรงข้าม ตลอดจนกลุ่มนักสิทธิมนุษยชน กลุ่มนิสิต-นักศึกษาที่ออกมาเคลื่อนไหวในห้วงเวลา 2 ปีกว่าที่ผ่านมา

       รวมทั้งล่าสุดต่อกรณีวัดพระธรรมกายในกรณีวัดพระธรรมกายนั้น ไม่เพียงองค์กรปกครองสงฆ์สูงสุดอย่างมหาเถรสมาคม และสมเด็จพระสังฆราชพระองค์ใหม่ จะทรงมีความห่วงใย อยากให้ยุติปัญหาด้วยความสงบ ไม่รุนแรงในแง่พุทธบริษัทและประชาชนทั่วไปหลายคนก็เศร้าใจ

       จากคดีพระธัมมชโย ตกเป็นผู้ถูกกล่าวหาว่ารับของโจร และรุกป่า ได้ขยายให้เป็นเรื่องความมั่นคงทางการเมือง จากการที่พล.อ.ประยุทธ์ สั่งใช้มาตรา 44 เข้าควบคุมพื้นที่บริเวณวัดกว่า 2,000 ไร่

       ทุ่มสรรพกำลังเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง จำนวน 26 กองร้อย เกือบ 5,000 นาย เข้าปฏิบัติการปิดล้อมพื้นที่มานานกว่า 11 วัน ซึ่งต้องใช้งบประมาณค่าใช้จ่ายกว่า 55,000,000 บาทที่ทุ่มจากกระทรวงยุติธรรมลงไปที่ดีเอสไอ ซึ่งคิดแล้วขณะนี้ 11 วันแล้ว นั่นคืองบที่ใช้ไปเพื่อ จับคนคนเดียวที่มีอายุความถึง 15 ปี ทำไม ต้องเร่งขนาดนี้

        นี่ยังไม่รวมค่าใช้จ่ายที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องออกพื้นที่เพื่อสกัดรถพระ และสาธุชนที่จะเดินทางไปวัดพระธรรมกายอีกทั่วประเทศอีกด้วย 

       พล.อ.ประยุทธ์และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ยืนยันตรงกันว่า จะไม่ยกเลิกการใช้มาตรา 44 เด็ดขาด ตราบใดที่ยังจับกุมพระธัมมชโยไม่ได้การที่รัฐบาลคสช.ทุ่มเททรัพยากรเจ้าหน้าที่ และงบปฏิบัติการลงไปเป็นจำนวนมาก ประกอบกับการใช้มาตรา 44 โดยมีเป้าหมายเพื่อจับกุมผู้ต้องหาเพียงคนเดียว ที่เป็นสิทธิที่ผู้ถูกกล่าวหาจะเลือกมอบตัวหรือหนีคดี ก็ย่อมมีสิทธิ์ เพราะมีผู้ต้องหา มากมายที่หนีคดีอยู่ 

       นายกไม่ไปเร่งตามหา ทำให้ถูกมองว่าเป็นการขี่ช้างจับตั๊กแตน ได้ไม่คุ้มเสีย เว้นเสียแต่ว่ารัฐบาลคสช.มีเป้าหมายอื่นแอบแฝงอยู่เบื้องหลังการจับกุมพระธัมมชโยเพียงอย่างเดียว การปิดล้อมตรวจค้นวัดพระธรรมกาย จะไม่มีทางยืดเยื้อนานเป็นปี ๆ เหมือนที่แกนนำรัฐบาลคสช.พูดไว้แน่นอน วันละ 5 ล้าน แค่เดือนเดียวงบประมาณก็ถูกผลาญจนหมดแล้ว หรือคิดว่า งานนี้ถ้ายึดวัดได้ มันคุ้มเกินคุ้มหรือเปล่า ? หรือว่าวัดพระธรรมกายเป็นแค่ประเดิมวัดแรก ยังเหลืออีกหลายหมื่นวัดหรือเปล่า? จึงกล้าลงทุน แบบที่ไม่ต้องควักเนื้อตัวเองเลย ก็แค่ผลาญภาษีประชาชนชาวพุทธซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ไปวัน ๆ เท่านั้นเอง 

       จากแค่ 11 วันที่ผ่านมา ก็เริ่มมีการปะทะถึงขั้นเลือดตกยางออก เสียชีวิตกันแล้ว ทำให้สร้างความเสียหายต่อภาพลักษณ์ทางฝ่ายรัฐบาล ที่มีกลยุทธ์ ที่หลากหลาย มิใช่น้อยมาตรการกดดันด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะตัดน้ำ ตัดไฟฟ้า ตัดสัญญาณการสื่อสารทางอินเตอร์เน็ต ตัดเสบียงกรัง ด้วยวิธีการที่สกปรก ข่มขู่ด้วยเสียงและคำพูดต่าง ๆ นานาฯลฯ รัฐบาลคสช.และเจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติก็น่าจะต้องคิดให้รอบคอบ และระมัดระวัง ว่ามาตรการใดก็แล้วแต่ที่งัดมาใช้ จะต้องมีผลกระทบไปถึงประชาชนผู้บริสุทธิ์คนอื่น ๆ อย่างแน่นอน โดยเฉพาะประชาชนในเขตวัดและรอบวัดในเขตอ.คลองหลวง ที่รัฐบาลใช้อำนาจม. 44 กับพวกเขา

       ไม่เช่นนั้นรัฐบาลก็มีสิทธิ์ต้องแพ้ภัยตัวเอง อย่างง่ายดาย เป็นเรื่องยากที่จะคาดเดาว่าสุดท้ายแล้วมหากาพย์วัดพระธรรมกายจะลงเอยอย่างไร กรณีโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ ถือเป็นความกล้าของประชาชนในการท้าทายอำนาจรัฐเช่นกัน เพียงแต่บังเอิญเป็นม็อบคนกันเอง เลยได้รับการเคลียร์กันแบบนุ่มนวล

       ประกอบกับผลสำรวจกรุงเทพโพลล์ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่า เมื่อครบ 3 ปี หรือ 3 ปี 6 เดือน ไปจนถึงระยะเวลาของการสิ้นสุดโรดแม็ปในปี 2561 รัฐบาลคสช.จะทำคะแนนผลงานกระเตื้องขึ้นได้หรือไม่โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจระดับปากท้องชาวบ้าน ซึ่งถือเป็นตัวแปรสำคัญทุกสิ่งทุกอย่างในตอนนี้ล้วนมีผลต่อการชี้ขาดอนาคตของคสช.ภายหลังการเลือกตั้งครั้งหน้าว่าจะลงจากหลังเสือในสภาพอย่างไร


อ้างอิงข้อมูลและภาพจาก ข่าวสดออนไลน์ 26ก.พ.2560

แชร์