สุขุมคัมภีรภาพ... จากผู้ดีอังกฤษถึงรัฐบาลไทย ขอให้ใช้ “ Peace, Love and Care ”กับวัดพระธรรมกาย
จอน เดวี่ส์ ให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษ"สันติภาพ ความรัก และความห่วงใย เอาชนะทุกอย่างได้ จากตัวอย่างประวัติศาสตร์คนอเมริกัน ที่เคยขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ จอห์น เอฟ แคเนดี้ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้ แต่ไม่ได้เอาชนะด้วยการต่อสู้ แต่ใช้ความรัก..." http://winne.ws/n13854
คุณจอน เดวี่ส์ นักธุรกิจเจ้าของหนังสือพิมพ์และอดีตประธานสโมสรฟุตบอลของเมืองโวคกิ้ง ประเทศอังกฤษ ให้สัมภาษณ์สื่ออังกฤษเรื่องการศึกษาพุทธศาสนา การนั่งสมาธิ และกรณีวัดพระธรรมกาย
วีดีโอสัมภาษณ์สื่ออังกฤษของคุณจอน เดวี่ส์
นักข่าว: ขอให้ช่วยบอกเหตุผลหน่อยค่ะว่าทำไมคุณถึงมาเข้าวัดนี้?
คุณจอน: ครั้งแรกที่ผมมาที่นี่ คือผมเป็นเจ้าของหนังสือพิมพ์ท้องถิ่นและนักข่าวในสังกัดของผมมาบอกผมว่า เขาจะไปร่วมงานOpen Day ของวัดพุทธ....น่าจะเมื่อ 4 ปีที่แล้ว ผมก็มาร่วมงานด้วย ผมเลยได้มาพบกับคนดีๆที่นี่ แต่เขาไม่ได้คุยอะไรกับผมเลย ผมเห็นแต่ว่าเขาคอยพูดเชิญชวนให้คนมานั่งสมาธิ ให้มาเรียนวิธีการนั่งสมาธิ ผมก็เลยมา ตอนนี้ผมมานั่งสมาธิวันอังคารและวันพฤหัสและวันอื่นๆ กับพระอาจารย์ การทำสมาธิช่วยเปลี่ยนชีวิตผม
นักข่าว: คุณบอกว่าการนั่งสมาธิเปลี่ยนชีวิตคุณใช่ไหมคะ?
คุณจอน: ใช่ครับ
นักข่าว: ช่วยเล่าให้ฟังได้มั้ยคะว่า การนั่งสมาธิเปลี่ยนชีวิตคุณอย่างไร
คุณจอน: การนั่งสมาธิทำให้ผมเป็นคนมีเหตุมีผลมากขึ้น ทำให้พบค้นพบตัวเอง ทำให้ผมเป็นคนมีเมตตามากขึ้น นึกถึงใจเขาใจเรา และทำให้พบเห็นว่ายังมีอีกหลายสิ่งบนโลกใบนี้ที่ยิ่งใหญ่กว่าความรวยหรือการหาทรัพย์ นั่นคือ ความร่ำรวยภายในจิตใจ ที่คุณสามารถแบ่งปันให้กับเพื่อนร่วมโลกได้
นักข่าว : คุณได้ยินข่าวที่เกิดขึ้นกับวัดพระธรรมกาย ที่ จ. ปทุมธานี ประเทศไทยหรือไม่?
คุณจอน: ผมได้อ่านข่าวมาบ้างจากอินเตอร์เน็ต แต่ว่าผมก็ยังไม่สามารถสรุปเหตุการณ์ได้ทั้งหมด เพราะผมไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ แต่ถ้าผมอยู่ในเหตุการณ์ด้วย ผมคงจะเข้าใจและสรุปเหตุการณ์ได้ชัดเจนขึ้น
นักข่าว: แล้วมุมมองของคุณจากการที่ได้อ่านข่าว คุณรู้สึกอย่างไร?
คุณจอน: ผมรู้สึกเสียใจกับข่าวนี้ เพราะว่าข่าวนี้ทำให้คนที่ผมรู้จักหลายคนรู้สึกเสียใจรวมทั้งผมด้วย ผมรู้สึกอย่างนี้นะครับ
นักข่าว:แล้วคุณคิดว่าเหตุการณ์ในเมืองไทยจะจบอย่างไร?
คุณจอน: เรื่องนี้ต้องใช้เวลา ผมเชื่อว่าสักวันหนึ่ง เรื่องนี้คงจะต้องยุติแต่ผมคงบอกไม่ได้ว่าเรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
นักข่าว: ในฐานะที่คุณเองก็ได้มาปฏิบัติตามหลักของพระพุทธศาสนาคุณอยากจะฝากอะไรไปถึงรัฐบาลไทยมั้ยคะ?
คุณจอน: สันติภาพ ความรัก และ ความห่วงใย 3อย่างนี้จะเอาชนะทุกอย่างได้ ถ้าคุณได้ศึกษาประวัติศาสตร์คุณจะเห็นตัวอย่างของคนอเมริกัน ที่เคยขัดแย้งเรื่องเชื้อชาติ จอห์น เอฟ แคเนดี้ ได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงเรื่องพวกนี้แต่ไม่ได้เอาชนะด้วยการต่อสู้แต่ใช้ความรัก เป็นการแสดงให้เห็นว่าความรักชนะทุกสิ่ง การมานั่งคุยกันจะช่วยแก้ปัญหาได้
นักข่าว: เข้าใจว่าคุณอาศัยอยู่ในบริเวณใกล้วัดอยากจะถามว่าคนแถวนี้เข้ามีมุมมองกับพระพุทธศาสนาอย่างไร?
คุณจอน: ผมว่าตอนนี้มีคนให้ความสนใจเรียนวิธีการนั่งสมาธิมากขึ้น คนที่มาวัดนี้ส่วนใหญ่ก็พยายามจะช่วยเหลือสังคม ผมเห็นว่าพวกเขาไปช่วยกิจกรรมสังคมด้วย ช่วยทั้งเรื่องยารักษาโรค เรื่องอาหาร...ผมว่าพระพุทธศาสนาได้กลายเป็นส่วนสำคัญไปแล้ว ซึ่งก็คล้ายกับศาสนาคริสต์หรืออิสลามหรือไม่ว่าคุณจะนับถือคริสต์นิกายใดก็ตาม
นักข่าว: คุณมองว่าพระพุทธศาสนามีความน่าสนใจในแง่ใด เมื่อเทียบกับศาสนาอื่น?
คุณจอน: สำหรับผม ผมว่าน่าสนใจ เพราะเมื่อหลายปีมาแล้วมีคนเคยพูดกับผมว่าคนอื่นๆอาจจะบอกเรื่องราวต่างๆกับคุณได้ แต่คุณต้องเป็นคนหาคำตอบด้วยตัวคุณเองและผมว่าสิ่งนี้แหละที่ทำให้ผมสนใจพระพุทธศาสนา ตอนที่ผมมาที่นี่ไม่มีใครขออะไรจากผมเลยแม้แต่นิดเดียว ไม่เคยขอเงิน ไม่เคยขออะไรเลยขอเพียงอย่างเดียวว่าให้มา ผมก็เลยมา นี่แหละที่ทำให้ผมรักพระพุทธศาสนา
นักข่าว: แล้ววัดพระธรรมกายต่างกับวัดอื่นๆในประเทศไทยหรือเปล่าคะ?
คุณจอน: ผมไม่เห็นความแตกต่างเลยนะ พระพุทธศาสนาก็คือพระพุทธศาสนาเราเป็นเหมือนครอบครัวเดียวกัน
นักข่าว: แต่ว่าคุณชอบมาวัดนี้ใช่ไหมคะ?
คุณจอน: เหตุผลที่ผมชอบมาวัดนี้ส่วนหนึ่งคือบ้านผมอยู่ห่างจากที่นี่5 นาที และอีกเหตุผลหนึ่งคือผมรักทุกคนที่นี่ ง่ายมากเลยครับ
นักข่าว: แล้วคุณอยากจะฝากอะไรถึงคนที่นี่ไหมคะ คนที่ยังไม่เคยมานั่งสมาธิ?
คุณจอน: ถ้าคุณอยากค้นพบตัวเองให้มาเรียนสมาธิ แล้วถ้าคุณอยากยิ้มได้ทุกวัน ให้นั่งสมาธิ ถ้าคุณปล่อยวางได้ชีวิตคุณจะเปลี่ยนได้ นี่คือสิ่งที่ผมได้ค้นพบ ผมเองพยายามจะชวนคนมาให้มากที่สุดคุณสามารถชวนคนมาได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ขึ้นอยู่กับพวกเขาจะตัดสินใจเองว่าจะมาหรือไม่มา
Cr. ผู้แปล Ms. Jo
ขอขอบคุณข้อมูลจาก:
https://www.youtube.com/watch?v=hU4E3uJBHQ0&feature=youtu.be