1.เป็นเนวิเกเตอร์ช่วยนำทาง

ขับรถไม่เป็นไม่ได้แปลว่าจะต้องดูแผนที่ไม่เป็นไปด้วย เพราะฉะนั้นวิธีทำตัวเป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีข้อแรกก็คือกางแผนที่แบบ old school หรือจะเปิด Google Maps ช่วยดูเส้นทางให้ ยิ่งถ้าปลายทางเป็นสถานที่ที่ไม่ค่อยคุ้น เนวิเกเตอร์ที่ไม่เอาแต่นั่งหลับ ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการเดินทางอย่างมาก

2.เป็นดีเจเฉพาะกิจ

     จะเพลงฟังชิลล์ๆ หรือเพลงจังหวะคึกคักที่สามารถเปิดหน้าต่างแล้วตะโกนร้องเพลงตามได้ก็ถือเป็นตัวสร้างความสุนทรีในการขับรถไกลๆ ได้ทั้งนั้น ดังนั้น คนนั่งข้างๆ อาจสวมบทบาทดีเจ สร้างเพลย์ลิสต์ที่เหมาะกับอารมณ์ในการเดินทาง ณ ขณะนั้น รับรองว่าเพลินทั้งคนขับและคนนั่งข้างๆ

3.เป็นช่างยามจำเป็น

สำหรับคนที่ขับรถเป็นอยู่แล้ว ต่อให้ทริปนั้นรับบทคนนั่งข้างๆ ก็คงพอจะรู้เรื่องรถยนต์อยู่บ้างเวลารถมีปัญหาเล็กๆ น้อยๆ แต่สำหรับคนที่ขับรถไม่เป็นก็ใช่ว่าจะไม่สามารถรับบทช่างยามจำเป็นได้ เพราะฉะนั้นถ้ารถเกิดปัญหาระหว่างทาง คนนั่งข้างๆ ที่ดีก็อย่าเอาแต่เอาใจช่วยโดยไม่ทำอะไร หยิบโทรศัพท์มาช่วยเสิร์ชหาข้อมูลไปเลย คิดซะว่าตัวเองเป็นผู้ช่วยช่างของคนขับ เพราะในอินเตอร์เน็ตจะมีฮาวทูในการซ่อมรถเบื้องต้นหลายอย่าง ไม่ว่าจะจัมป์แบตเตอรีรถ เติมน้ำกลั่น หรือเปลี่ยนล้อรถ ก็มีฮาวทูให้เรียนรู้ยามจำเป็น

4.เป็นยาแก้ง่วง

ถ้าไม่ได้สลับกันขับ สลับกันงีบ คนนั่งข้างๆ ที่ดีก็ไม่ควรจะเอาแต่ก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์ คุยแต่กับเพื่อนโลกโซเชียล ไม่คุยกับคนที่อยู่ข้างๆ กันในชีวิตจริง ปล่อยให้คนขับหาวแล้วหาวอีกอย่างนี้ก็คงไม่เหมาะ ทำตัวเป็นยาแก้ง่วง คอยชวนคุยไปตลอดทางและเป็นทีมเสบียงให้ตลอดทริปยังดีกว่า แต่ยังไงก็ดูจังหวะกันนิดนึงนะ ถ้าเส้นทางช่วงไหนขับยาก ต้องใช้สมาธิ ก็อย่าเพิ่งไปเซ้าซี้ เดี๋ยวจากยาแก้ง่วงจะกลายเป็นตัวน่ารำคาญแทน

ให้ความสำคัญกับเรื่องคนนั่งข้างๆ จะช่วยให้การเดินทางปลอดภัยและราบรื่นขึ้นได้

ขอบคุณที่มา drivedee.com และ sanook.com