พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

สรุปพฤติกรรมเสี่ยงทำลายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านโดยไม่รู้ตัวถ้าไม่อยากให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเสียหายและมีอายุการใช้งานสั้นเกินกว่ากำหนดเช็กแล้วเลี่ยงไว้ก่อนเลยดีกว่า http://winne.ws/n14032

2.0 พัน ผู้เข้าชม
พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็วe-vocab.blogspot.com

พฤติกรรมเสี่ยงทำลายเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านโดยไม่รู้ตัวถ้าไม่อยากให้เครื่องใช้ไฟฟ้าต้องเสียหายและมีอายุการใช้งานสั้นเกินกว่ากำหนดเช็กแล้วเลี่ยงไว้ก่อนเลยดีกว่า  ลองนึกย้อนกลับไปในวันที่ตัดสินใจซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าเข้าบ้านดูสิคะมันเป็นเรื่องยากมากเลยใช่ไหมล่ะเพราะด้วยราคาและฟังก์ชั่นการใช้งานที่มีมูลค่ามากมายฉะนั้นถ้ายังปล่อยปละละเลยและทำพฤติกรรมผิด ๆ เหล่านี้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าต่อไปรับรองได้เลยว่าไม่ถอยเครื่องใหม่ก็ต้องเสียเงินซ่อมกันไปอีกนานแน่นอนถ้าไม่อยากตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นก็ต้องไปดูกันดีกว่าว่ามีพฤติกรรมไหนบ้างที่ไม่ควรทำ

พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

เครื่องซักผ้า 

1.วางของหนัก ๆ บนเครื่องซักผ้า แม้เครื่องซักผ้าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีขนาดใหญ่แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะรองรับสิ่งของที่มีน้ำหนักมากได้เสมอไปหรอกนะคะควรจะยกออกไปวางที่อื่นดีกว่าแต่ถ้าจำเป็นที่จะต้องวางก็ให้วางแต่ของที่มีน้ำหนักเบารวมไปถึงสายชิลทั้งหลายที่ชอบปีนขึ้นไปนั่งบนเครื่องซักผ้าขณะเครื่องกำลังทำงานลงไปนั่งรอที่อื่นดีกว่า ไม่งั้นเครื่องพังแน่ ๆ

2.ลืมเช็กของในกระเป๋าก่อนซัก อย่ามองข้ามสิ่งของเล็กๆ น้อย ๆ ที่อยู่ตามกระเป๋าเสื้อและกางเกงไปเด็ดขาดเพราะถ้าหากมันหลุดออกมาจากกระเป๋าแล้วเข้าไปขัดกลไกของเครื่องซักผ้าเข้าละก็อาจต้องเตรียมเงินไว้ซ่อมเครื่องกันยาว ๆ ฉะนั้นก่อนซักเสื้อผ้าทุกครั้งควรเช็กกระเป๋าเสื้อและกางเกงก่อนว่ามีสิ่งของอยู่ไหมถ้ามีก็หยิบออกมาซะ

3.ไม่ทำความสะอาดขอบยาง หลังจากตากผ้าที่ซักเสร็จเรียบแล้วควรทำความสะอาดขอบยางฝาเครื่องซักผ้าให้สะอาดและแห้งสนิทไร้เชื้อราฝังญาติมิตรที่ขอบยางด้วย โดยการใช้ผ้าชุบน้ำส้มสายชูเช็ดให้ทั่วแล้วเช็ดออกด้วยผ้าแห้งซ้ำอีกครั้ง เปิดฝาทิ้งไว้ให้อากาศถ่ายเทเพียงเท่านี้ก็จะไม่มีเชื้อรามากวนใจนอกจากนี้หากเครื่องซักผ้าไม่มีระบบทำความสะอาดเครื่อง  ให้เปิดเครื่องทำงานด้วยระบบน้ำร้อนและเทน้ำส้มสายชูลงไปประมาณเดือนละ 1 ครั้ง

4.ปล่อยผ้าแห้งคาเครื่อง ถ้าไม่อยากให้ตัวถังและสายพานของเครื่องซักผ้าต้องรับน้ำหนักผ้าเปียกเอาไว้นานๆ จนพังเสียหาย ควรรีบนำผ้าออกจากเครื่องทันทีที่ซักเสร็จเรียบร้อยมิเช่นนั้นการแช่ผ้าไว้ในเครื่องนาน ๆอาจจะทำให้คุณเสียทรัพย์ไปกับการซ่อมแซมโดยไม่รู้ตัว

พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

ตู้เย็น

5.ขนย้ายตู้เย็นเป็นแนวนอน ช่างยกของจะรู้กันดีว่าไม่ควรยกตู้เย็นเป็นแนวราบเพราะจะทำให้น้ำยาคอมเพรสเซอร์ตู้เย็นไหลออกมา ทำความเสียหายให้กับระบบภายในแถมยังทำให้อายุการใช้งานสั้นลงหากจะเคลื่อนย้ายตำแหน่งตู้เย็นควรขยับในแนวตั้งหรือเอียงได้ไม่เกิน 40 องศา เซลเซียล

6.ใช้งานตู้เย็นทันทีหลังย้ายเสร็จ ไม่ต้องตื่นเต้นกับเครื่องใช้ไฟฟ้าชิ้นใหม่จนต้องรีบเปิดระบบทำความเย็นของตู้เย็นทันทีเพราะจะทำให้น้ำยาคอมเพรสเซอร์รั่วไหลออกจนทำระบบภายในเสียหายไปด้วยควรรอสักประมาณ 4 ชั่วโมง หรือ 15 ชั่วโมงหลังขนย้ายเพื่อให้น้ำยาเข้าที่ค่อยเสียบปลั๊กใช้งานดีกว่า

7.แช่อาหารร้อนจัดในตู้เย็น ใจเย็นๆ ก็ได้…ไม่ต้องรีบแช่อาหารจานร้อนหรืออาหารที่เพิ่งปรุงเสร็จใหม่ ๆในตู้เย็นทันที มันไม่เน่าบูดเร็วขนาดนั้นหรอก ทิ้งไว้ข้างนอกสัก 30 นาทีรอให้อาหารเย็นลงแล้วค่อยนำไปแช่จะดีกว่าตู้เย็นจะได้ไม่ต้องเผชิญกับอุณหภูมิแปรปรวนเสี่ยงต่อการพังเสียหาย

8.ไม่ทำความสะอาดตู้เย็น ไม่ใช่แค่ระบบภายในเพียงอย่างเดียวที่เราจะต้องดูแลรักษาความสะอาดอยู่บ่อยๆ เพราะฝุ่นควันที่เกาะอยู่ตามหลังตู้เย็นเหล่านี้มีผลทำให้ตู้เย็นเสียหายเหมือนกันหมั่นใช้ผ้าหรือเครื่องดูดฝุ่นกำจัดสิ่งสกปรกบ้างก็ดี

พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

หม้อหุงข้าว

9.หุงข้าวทั้ง ๆ ที่ยังไม่เช็ดก้นหม้อ ต่อให้งานบ้านจะเยอะแยะและต้องทำเวลารีบเร่งขนาดไหนไม่ควรลืมเช็ดก้นหม้อหุงข้าวให้แห้งสนิทซะก่อน เพราะถ้าใส่ลงไปหุงทั้ง ๆที่ก้นหม้อยังเปียกอยู่ อาจจะทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้นะ

10.ใช้ฝอยขัดหม้อล้างหม้อหุงข้าว การล้างทำความสะอาดหม้อหุงข้าวไม่จำเป็นต้องใช้แรงขัดถูอะไรให้มากมายเพราะถ้ามีเศษข้าวแห้งกรังติดอยู่ให้แช่น้ำทิ้งไว้แล้วค่อยล้างทำความสะอาดด้วยฟองน้ำล้างจานก็พอไม่ต้องถึงขั้นใช้ฝอยขัดหม้อขัดจนเกิดรอยขีดข่วน

พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

ไมโครเวฟ

11.วางของบนไมโครเวฟ แนะนำให้วางของไว้ที่อื่นดีกว่าเพราะการวางของบนไมโครเวฟจะไปบังช่องระบายอากาศและเมื่อไมโครเวฟไม่สามารถระบายความร้อนออกมาได้ก็จะทำให้เครื่องร้อนและพังในที่สุดหรืออาจทำให้เกิดประกายไฟตามมา  

12.อบอาหารน้ำหนักเกิน ก่อนจะอบหรืออุ่นอาหารในไมโครเวฟเช็กกันดีแล้วหรือยังว่าอาหารนั้นมีน้ำหนักเกินกว่าที่เครื่องกำหนดไว้หรือเปล่าเพราะไมโครเวฟไม่สามารถรองรับน้ำหนักมาก ๆ ได้เหมือนเตาอบขนาดใหญ่ทางที่ดีควรอ่านคู่มือให้ละเอียดก่อนใช้ เพื่อเช็กน้ำหนักให้แน่นอน  

13.อบอาหารด้วยภาชนะทั่วไป ข้อนี้ถือว่าสำคัญมากเลยทีเดียวเพราะการอบอาหารด้วยภาชนะที่ไม่ได้ระบุว่าสามารถใช้กับไมโครเวฟได้นอกจากจะทำให้ไมโครเวฟเสียหายแล้วอาจทำให้เกิดการระเบิดภายในขณะกำลังใช้งานและกลายเป็นไฟไหม้บ้านได้

พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

เครื่องปิ้งขนมปัง

14.วางในที่เสี่ยง ถึงเครื่องปิ้งขนมปังจะไม่ได้มีระบบการทำงานที่ซับซ้อนอะไรมากมายแต่ก็ควรจะวางเครื่องปิ้งขนมปังเอาไว้ในที่ที่ปลอดภัย ไม่โดนน้ำกระเด็นใส่  ไม่ตั้งไว้ใกล้กับวัตถุไวไฟ อย่างเช่นผ้าม่านหรือผ้าขี้ริ้ว เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่จะตามมา

15.ไม่ทำความสะอาดเครื่องปิ้งขนมปัง การใช้เครื่องปิ้งขนมปังแทบทุกวันแล้วไม่ยอมทำความสะอาดเลยจะทำให้เครื่องพังง่ายขึ้น อายุการใช้งานสั้นลงทางที่ดีควรจะทำความสะอาดทุกวันหลังจากใช้งานเสร็จเพื่อไม่ให้มีเศษขนมปังไปอุดตันระบบด้านใน

16.ปิ้งขนมปังสารพัดชนิด แม้จะขึ้นชื่อว่าเป็น “เครื่องปิ้งขนมปัง”แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปิ้งขนมปังได้ทุกชนิดเสมอไปเครื่องปิ้งขนมปังควรนำมาใช้กับขนมปังแผ่นหรือขนมปังแห้ง ๆเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนขนมปังอย่าง สโคนทาเนย ไม่ควรนำมาปิ้งเด็ดขาด

พฤติกรรมทำเครื่องใช้ไฟฟ้าพังเร็ว

เครื่องปั่น

17.ปั่นอาหารร้อน แม้ว่าอาหารบางชนิดที่จะนำเข้าเครื่องปั่นต้องผ่านการต้มน้ำร้อนๆ มาก่อน แต่ก็ไม่จำเป็นต้องนำลงไปปั่นเลยทันที ควรตั้งทิ้งไว้ให้อาหารเย็นตัวก่อนสักประมาณ 70-80 องศาเซลเซียส แล้วค่อยนำไปปั่นที่สำคัญต้องตรวจสอบให้ดีก่อนใช้ว่าโถกับฐานเครื่องปั่นปิดสนิทแล้วจริง ๆ  

18.ปั่นติดกันนานเกินไป หัวปั่นอาหารเป็นอีกหนึ่งเครื่องไฟฟ้าที่เราต้องดูแลรักษาเป็นอย่างดีโดยการไม่เปิดระบบการใช้งานปั่นอาหารนานเกินไปเพราะอาจจะทำให้มอเตอร์ทำงานหนักจนร้อนและเกิดความเสียหายตามมา

เมื่อรู้อย่างนี้แล้วก็ควรหลีกเลี่ยงพฤติกรรมผิดๆ เหล่านี้ไปเลย เพราะนอกจากจะไม่ทำให้เกิดผลดีแล้วยังสร้างความเสียหายทำลายอายุการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าให้สั้นลงอีกต่างหากเราควรจะรักษาคุณภาพของมันเอาไว้ให้อยู่ใช้งานได้นาน ๆจะไม่ต้องเสียเงินซื้อหรือซ่อมแซมบ่อยยังไงล่ะ

ขอขอบคุณข้อมูลและภาพประกอบจาก Brightside และ 5-Minute Crafts และ kapook.com

แชร์