IMF คลังกระตุ้น พบศก.ไทยสะดุด”คอขวด”

เจ้าหน้าที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ได้เดินทางมาไทย เมื่อเร็วๆ นี้เพื่อเข้ามาเก็บข้อมูลพื้นฐานทางเศรษฐกิจของไทย พร้อมหารือกับ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี http://winne.ws/n14061

649 ผู้เข้าชม
IMF คลังกระตุ้น พบศก.ไทยสะดุด”คอขวด”

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไอเอ็มเอฟรายงานว่าไทย จึงได้รับผลกระทบจากความเสี่ยงเศรษฐกิจเติบโตแบบ “News Normal” หรือการขยายตัวแบบไม่หวือหวา ซึ่งเผชิญเหมือนกันทุกประเทศทั่วโลก หลังเศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว

นอกจากนี้พบว่า จากปัญหาเศรษฐกิจ “คอขวด”ของไทยทั้งการจ้างงานไม่เต็มที่ รายได้แรงงานเกษตรกรไม่สูง โครงสร้างพื้นฐานไม่ได้ลงทุน ไอเอ็มเอฟจึงเสนอให้ไทยใช้นโยบายการเงิน การคลัง กระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อให้กำลังซื้อในประเทศเพิ่มระยะสั้น และควรเน้นนโยบายการเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ดึงอัตราเงินเฟ้อกลับไปสู่เป้าหมายของ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ร้อยละ 2.5 ในปี 2560 ส่วนนโยบายการคลัง มุ่งด้านการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานยกระดับศักยภาพระยะยาว เพราะการลงทุนภาครัฐเป็นปัจจัยการลงทุนสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“ไอเอ็มเอฟย้ำว่านโยบายการคลังไม่ควรนำมากระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น ไม่มีเป้าหมายชัดเจน และเสนอปฏิรูปเรื่องระบบชำนาญราชการ การปฏิรูปด้านประกันสังคมดูแลแรงงาน การดูแลผู้สูงอายุและมีส่วนใช้แรงงานจากผู้สูงอายุให้เกิดประโยชน์ ขณะที่อัตราดอกเบี้ยร้อยละ 1.5 เป็นระดับที่เหมาะสมกระตุ้นเศรษฐกิจ”

ขณะที่มี รายงานข่าวจากกระทรวงการคลัง แจ้งว่า ขณะนี้ กระทรวงการคลังได้ทำแผนปฏิบัติการประจำปีงบประมาณ 2560 เพื่อสนับสนุนการดำเนินการตามร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี ของรัฐบาล โดยมี 6 ยุทธศาสตร์ ที่สำคัญ ได้แก่

ยุทธศาสตร์ที่ 1 คือ การเสริมสร้างความมั่นคงทางการคลัง อาทิ การผลักดันร่างพระราชบัญญัติการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ..... ให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว ฯลฯ ขณะที่ ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ การสนับสนุนศักยภาพและความสามารถในการแข่งขัน ได้แก่ การใช้มาตรการด้านการคลัง การเงิน เพื่อส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจ ฯลฯ, ยุทธศาสตร์ที่ 3 คือการพัฒนาบุคลากรกระทรวงการคลัง และยุทธศาสตร์ที่ 4 คือ การลดความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและสังคมได้แก่ การผลักดันมาตรการการเงินการคลังเพื่อการถือครองทรัพย์สินที่เป็นธรรมและมีประสิทธิภาพ ซึ่งรวมถึงการผลักดัน พ.ร.บ. ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง การทำโครงการบ้านประชารัฐ ฯลฯ

นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ที่ 5 คือ การคลัง การเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งจะมีการส่งเสริมเศรษฐกิจสีเขียว โดยการใช้มาตรการการเก็บภาษีมลพิษทางน้ำหรือค่าธรรมเนียมการใช้น้ำ และยุทธศาสตร์ที่ 6 การเป็นองค์กรต้นแบบในการบริหารงาน
อย่างมีธรรมมาภิบาลและเป็นมืออาชีพ เช่น การทำโครงการกระทรวงการคลังคุณธรรม โปร่งใส ไร้ทุจริต โครงการกระทรวงคลัง
ดิจิทัล เป็นต้น

แชร์