ปกป้องไต ใส่ใจวิตามินดี

การได้รับวิตามินดีที่เพียงพอจะทำให้ไตแข็งแรง http://winne.ws/n14100

644 ผู้เข้าชม
ปกป้องไต ใส่ใจวิตามินดีthaihealth.or.th

วิตามินดีช่วยเสริมสร้างกระดูก ช่วยสะสมแคลเซียมและฟอสฟอรัสในกระดูกและช่วยกระตุ้นให้มีการหลั่งแคลเซียมออกจากผิวกระดูกไปยังกระแสเลือด

นอกจากนี้ยังช่วยคุมสมดุลปริมาณการใช้แคลเซียมและฟอสฟอรัสในร่างกายเพราะเป็นสารสำคัญในการหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์ซึ่งช่วยดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสในลำไส้เข้าสู่กระแสเลือด

ภาวะขาดวิตามินดีสามารถส่งผลต่อชีวิตเนื่องจากวิตามินดีจะทำให้แคลเซียมในกระแสเลือดลดลงและกระตุ้นให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมนพาราไทรอยด์เพิ่มขึ้น เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำงานมากเกินไปและมีแคลเซียมในเลือดสูงขึ้นมากซึ่งจะส่งผลต่อการควบคุมความดันโลหิต จนเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวตามมาได้

ปกติเราจะได้รับวิตามินดีจากการรับประทานน้ำมันตับปลาค็อด ปลาที่มีไขมันสูง อาทิ ปลาแซลมอน ปลาทูฝรั่ง (Mackerel) และจากแสงแดดที่มีรังสีอุลตราไวโอเล็ตชนิดบี(UVB) ซึ่งได้รับการสังเคราะห์ผ่านกระบวนการของผิวหนังทั้งนี้ วิตามินดีจากทุกแหล่งที่อยู่ในร่างกายจะถูกเปลี่ยนให้อยู่ในรูปที่ออกฤทธิ์ได้ที่บริเวณไต

พ.ท.นพ.บัญชาสถิระพจน์ แผนกโรคไต กองอายุรกรรม โรงพยาบาลและวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้ากล่าวว่า ประเทศไทยเป็นเมืองร้อนที่มีแดดออกตลอดปีแต่กลับพบว่าคนไทยมีภาวะพร่องวิตามินดีในเลือดเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพฯ สาเหตุหลักเพราะคนไทยไม่ค่อยออกแดดคนกรุงเทพฯทำงานในออฟฟิศ ไม่ค่อยได้เจอแดด เวลาออกไปข้างนอกก็ต้องทาครีมกันแดดสวมหมวก กางร่ม

สาเหตุที่ต้องมีการรณรงค์ให้คนไทยหันมาใส่ใจเรื่องวิตามินดีเนื่องในวันไตโลกเพราะไตและวิตามินดี มีความสัมพันธ์และมีความสำคัญต่อกันเป็นอย่างยิ่งไตเป็นอวัยวะที่สร้างวิตามินดีในรูปพร้อมใช้ (active form) เมื่อไตเสื่อมประสิทธิภาพในการแปลงสภาพวิตามินดีจากแสงแดดไปใช้ประโยชน์ก็ลดลงการสร้างวิตามินดีในร่างกายน้อยส่งผลให้การดูดซึมแคลเซียมจากอาหารลดลงแคลเซียมในเลือดก็ต่ำลง

ในขณะเดียวกันวิตามินดีที่ลดลง ส่งผลให้ฟอสเฟสในเลือดสูงขึ้นเนื่องจากมีการผลิตพาราไทรอยด์ฮอร์โมนเพิ่มขึ้น นำไปสู่ภาวะกระดูกบางอาจทำให้กระดูกหักง่าย และแคลเซียมสะสมอยู่ในผนังเส้นเลือดและมีความเสี่ยงนำไปสู่โรคหัวใจและหลอดเลือด (Cardiovascular disease) ตามมาซึ่งทำให้มีอัตราการตายที่เพิ่มสูงขึ้น

ปกป้องไต ใส่ใจวิตามินดีthailovehealth.com

คนไทยที่ป่วยเป็นโรคไตเรื้อรังมีภาวะพร่องวิตามินดีในระดับที่น่าเป็นห่วงมีข้อมูลจากงานวิจัยเปิดเผยว่า คนไทยกว่า 45% มีระดับวิตามินดีที่ไม่เพียงพอโดยเฉพาะอย่างยิ่งชาวกรุงเทพฯมากกว่า 60%ได้รับวิตามินดีในระดับที่ไม่เพียงพอที่จะทำให้มีสุขภาพกระดูกและสุขภาพทั่วไปเป็นปกติ

สถิติเกี่ยวกับระยะของโรคไตเรื้อรังที่สัมพันธ์กับภาวะพร่องวิตามินดีจากการวิจัยในคนไข้โรคไตเรื้อรังระยะต่างๆ จำนวน 2,895 คน ในโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า พบว่า คนไข้โรคไตเรื้อรังตั้งแต่ระยะที่ 3 พบว่ามีภาวะพร่องวิตามินดีสูงถึง66.6% และมีแนวโน้มพบภาวะพร่องวิตามินดีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเมื่อความรุนแรงของโรคเพิ่มขึ้น โดยพบว่าในคนไข้โรคไตระยะสุดท้ายมีภาวะพร่องวิตามินดีสูงถึง84.7%

ขณะที่ทั่วโลกก็มีประชากรกว่าหนึ่งพันล้านคนได้รับวิตามินดีไม่เพียงพอเช่นกันแสดงให้เห็นว่าคนเรามองข้ามความสำคัญของการตากแดดและพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดมากจนเกินไป

"วิตามินดีมีผลกับทุกอวัยวะการขาดวิตามินดีอาจทำให้หลอดเลือดแข็งตัว ความดันขึ้น กล้ามเนื้ออ่อนแรง กระดูกบางกระดูกพรุน ข้อเข่าเสื่อม กระดูกผิดรูป รูมาตอยด์ โรคเบาหวาน แก่กว่าวัยและยังสัมพันธ์กับโรคมะเร็งปอด มะเร็งลำไส้ และมะเร็งต่อมลูกหมากด้วยการตรวจเลือดในห้องปฏิบัติการเป็นวิธีเดียวที่จะทำให้ทราบว่าเป็นภาวะพร่องวิตามินดีหรือไม่หากตรวจ พบภาวะพร่องวิตามินดี วิธีที่ดีที่สุดคือออกแดดให้เยอะขึ้นแต่ถ้าไม่สามารถออกแดดได้ก็สามารถรับประทานวิตามินดีเสริมได้แต่ต้องให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญวินิจฉัยเพราะการได้รับวิตามินดีมากเกินไปก็เป็นผลเสียเช่นกัน" พ.ท.นพ.บัญชาสถิระพจน์ กล่าวสรุป

ขอบคุณข้อมูล จาก saowalak pisitpaiboon และ สสส.

www.thaihealth.or.th/Content/35881-ปกป้องไต%20ใส่ใจวิตามินดี.html

แชร์