ทายาทที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ และไม่ทรงสรรเสริญ เพราะเหตุใด ??

มหาชนได้ถวายสักการะลาภสักการะเป็นอันมากเแก่พระพุทธองค์ อันเป็นอานิสงส์ที่พระศาสดาได้ทรงสั่งสมทานบารมี ให้บริบูรณ์แล้ว ตั้ง 4 อสงไขย บรรดาพระภิกษุทั้งหลายก็พลอยได้รับลาภสักการะนั้นด้วย http://winne.ws/n14390

1.8 พัน ผู้เข้าชม
ทายาทที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ และไม่ทรงสรรเสริญ เพราะเหตุใด ??แหล่งภาพจาก wiki.stjohn.ac.th

ทายาทที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ และไม่ทรงสรรเสริญ เพราะเหตุใด ??

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสแก่ภิกษุทั้งหลายว่า 

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งหลายจงเป็นธรรมทายาท อย่าเป็นอามิสทายาท ของเราตถาคตเลย" 

จากนั้น พระสารีบุตรได้แจกแจงต่อจากพระศาสดาว่า 

ภิกษุผู้เป็นอามิสทายาท ย่อมถูกตำหนิด้วยเหตุ 3 ประการ คือ 

          1. ไม่ศึกษาความสงัดตามพระศาสดา 

          2. ไม่ละธรรมที่พระศาสดาตรัสให้ละ 

          3. มักมาก ย่อหย่อน ตกอยู่ในอำนาจนิวรณ์ 5 

ภิกษุผู้เป็นธรรมทายาทของพระศาสดา ได้รับสรรเสริญ 3 ประการ คือ 1. ศึกษาความสงัด ตามพระศาสดา 2.ละธรรมที่พระศาสดาตรัสให้ละ 3.ไม่มักมากในลาภ ไม่เป็นผู้ย่อหย่อน ไม่ตกอยู่ในอำนาจนิวรณ์ 5 

          1. ศึกษาความสงัด ตามพระศาสดา ภิกษุผู้เป็นธรรมทายาทของพระศาสดา ได้รับสรรเสริญ 3 ประการ คือ 

          2. ละธรรมที่พระศาสดาตรัสให้ละ 

          3. ไม่มักมาก ในลาภ ไม่เป็นผู้ย่อหย่อน ไม่ตกอยู่ในอำนาจนิวรณ์ 5 

(ธรรมทายาทสูตร) 17/207/14 

ธรรมอันลามกได้แก่ โลภะ โทสะ ผูกโกรธ ริษยา ตระหนี่ มายาโอ้อวด หัวดื้อ แข่งดี ถือตัว ดูหมิ่น มัวเมา เลินเล่อ ภิกษุอาศัยข้อปฏิบัติอันเป็นทางสายกลาง คือ อริยมรรคมีองค์ 8 เพื่อละธรรมอันลามกเหล่านั้น 

ทายาทที่พระพุทธเจ้าทรงสรรเสริญ และไม่ทรงสรรเสริญ เพราะเหตุใด ??แหล่งภาพจาก ทรงพระเจริญ | news-lifestyle.com

ปปัญจสูทนี อรรถกถามัชฌิมนิกาย ได้พรรณนาเหตุเกิดขึ้นของพระสูตรนี้ว่า มหาชนได้ถวายสักการะลาภสักการะเป็นอันมากเแก่พระพุทธองค์ อันเป็นอานิสงส์ที่พระศาสดาได้ทรงสั่งสมทานบารมี ให้บริบูรณ์แล้ว ตั้ง 4 อสงไขย บรรดาพระภิกษุทั้งหลายก็พลอยได้รับลาภสักการะนั้นด้วย 

อย่างไรก็ตาม เมื่อภิกษุบางประเภทได้รับอานิสงส์จากการที่มหาชนถวายสักการะพระศาสดา จนกลายเป็นผู้ติดในปัจจัย แต่โดยที่พระตถาคตไม่สามารถจะบัญญัติสิกขาบท ห้ามว่าปัจจัยเป็นของไม่สมควร จึงทรงแสดงธรรมทายาทปฏิปทา ซึ่งจักเป็นเหมือนการบัญญัติสิกขาบทแห่งกุลบุตรทั้งหลายผู้ใคร่ต่อการศึกษา 

โดยตรัสยกตัวอย่างว่า พระองค์ฉันพระกระยาหารเหลือ ภิกษุ ๒ รูป หิวเป็นกำลังมาเฝ้าพระองค์ก็ทรงอนุญาตว่า ถ้าจะฉันก็ฉันได้ ถ้าไม่ฉันก็จะทรงเททิ้ง พรภิกษุรูปหนึ่งทนหิว ไม่ฉัน ด้วยระลึกถึงพระพุทธพจน์ที่ให้รับมรดกธรรม ไม่รับมรดกอามิส แต่อีกรูปหนึ่งฉันอาหารที่เหลือนั้น พระบรมศาสดาจึงตรัสว่า ทรงสรรเสริญภิกษุที่ยอมหิวมากกว่า

ที่มา : https://th.wikipedia.org/wiki/ธรรมทายาทสูตร

แชร์