ขอยืมแล้วจะเอาไปคืนทีหลัง..แล้วลืม เรียกว่าลักทรัพย์มั้ย?..อย่างไรเรียกผิดศีลข้อสอง

องค์ประกอบการลักทรัพย์ การลักทรัพย์(อทินนาทานา)และผลกรรมแห่งการลักทรัพย์ http://winne.ws/n14581

2.8 พัน ผู้เข้าชม
ขอยืมแล้วจะเอาไปคืนทีหลัง..แล้วลืม เรียกว่าลักทรัพย์มั้ย?..อย่างไรเรียกผิดศีลข้อสองpostjung.com

อทินนาทานา/การลักทรัพย์และผลกรรมแห่งการลักทรัพย์

“ อทินนาทานา” หมายถึงการลักทรัพย์ โดยการกระทำที่มีเจตนา

ประเภทอทินนาทานา

1. โจรกรรม

โจรกรรมหมายถึงกิริยาถือเอาทรัพย์สินที่เจ้าของไม่ยินยอมให้ด้วยอาการเป็นโจร 14 ลักษณะ ดังนี้

1) ลัก คือการถือเอาทรัพย์ผู้อื่นเมื่อลับหลังที่เจ้าของไม่อยู่

2) ฉก คือการถือเอาทรัพย์ต่อหน้าเจ้าของทรัพย์ที่เจ้าของไม่ยินยอม

3) กรรโชก คือ การขู่ด้วยวาจาหรือใช้กำลังให้เจ้าของทรัพย์กลัวเพื่อมอบทรัพย์ให้

4) ปล้น คือการใช้อาวุธหรือเครื่องประหารทำให้เจ้าของทรัพย์กลัว เพื่อมอบทรัพย์ให้ทั้งกระทำเพียงคนเดียวหรือกระทำเป็นหมู่คณะ

5) ตู่ คือการกล่าวอ้างว่าทรัพย์ของคนอื่นเป็นของตน

6) ฉ้อ คือ การใช้อุบายเป็นขั้นตอนที่ทำให้เจ้าทรัพย์ตามไม่ทันเพื่อมอบทรัพย์ให้

7) หลอก คือการแต่งเรื่องที่ไม่ใช่ความจริงจนเจ้าของทรัพย์หลงเชื่อเพื่อมอบทรัพย์ให้

8) ลวง คือการใช้ทรัพย์หรือสิ่งของที่มีค่าน้อยกว่าในการแลกเปลี่ยนกับทรัพย์ของผู้อื่นที่มีค่ามากกว่าด้วยการหลอกให้เชื่อว่าทรัพย์นั้นมีค่าเท่ากันหรือมากกว่า

9) ปลอม คือการใช้ทรัพย์หรือสิ่งของที่ไม่ใช่ของแท้ในการแลกเปลี่ยนการจำหน่ายจนได้ทรัพย์ที่มีค่ามากกว่าให้แก่ตน

10) ตระบัด คือการไม่รักษาคำมั่นสัญญาเพื่อให้ทรัพย์ผู้อื่นอยู่กับตนเอง

11) เบียดบัง คือการปิดบังทรัพย์ของผู้อื่น จนเจ้าของหมดอาลัยแล้วถือเอาทรัพย์นั้นเป็นของตนเอง

12) สับเปลี่ยน คือการนำทรัพย์หรือสิ่งของที่มีค่าน้อยกว่าสับเปลี่ยนกับทรัพย์ผู้อื่นที่มีค่ามากกว่าหรือเพียงเพื่อต้องการทรัพย์นั้นมาเพราะความคล้ายคลึงกัน

13) ลักลอบ คือการทำให้เกิดทรัพย์เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตน ด้วยการหลีกเลี่ยงข้อห้ามหรือกฎระเบียบเช่น การนำเข้าสินค้าหนีภาษี

14) ยักยอก คือการนำทรัพย์สินส่วนรวมมาเป็นทรัพย์ของตนเอง ด้วยการใช้อำนาจหรือใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตน

 ทั้งนี้การกระทำเพียงข้อใดข้อหนึ่งจากทั้ง 14 ข้อ ถือเป็นโจรกรรมที่ลุซึ่งอทินนาทานา(ขาดศีลข้ออทินนา)ได้โดยง่าย 

2. อนุโลมโจรกรรม

อนุโลมโจรกรรม หมายถึง การกระทำที่ส่งเสริมโจรกรรมอันผิดต่อศีลธรรมอันดีงามแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ

1) สมโจร คือการส่งเสริมให้คนอื่นลักทรัพย์เพื่อตนจะได้ทรัพย์นั้นหรือได้รับประโยชน์จากทรัพย์นั้นด้วยการขอหรือซื้อต่อ

2) ปอกลอก คือ การคบหาหรือตีสนิทเพื่อหวังในทรัพย์ของผู้อื่นโดยไม่จริงใจ

3) รับสินบน คือการรับเอาทรัพย์สินจากคนอื่น เพราะเขามอบให้เพื่อเป็นค่าตอบแทนที่ช่วยเหลือเขา

ขอยืมแล้วจะเอาไปคืนทีหลัง..แล้วลืม เรียกว่าลักทรัพย์มั้ย?..อย่างไรเรียกผิดศีลข้อสองthaihealthlife.com

3. ฉายาโจรกรรม

ฉายาโจรกรรมหมายถึง การกระทำเพื่อทำทรัพย์สินของผู้อื่นเสื่อม โดยหวังเพื่อให้ตกเป็นของตนเองและการหยิบเอาทรัพย์สินของคนอื่นเพียงเพราะนึกไปเพียงฝ่ายเดียวว่าเจ้าของจะไม่ว่าอะไร แบ่งเป็น

1) ผลาญ คือการทำให้ทรัพย์ผู้อื่นเสื่อมหรือสูญหาย เพื่อหวังให้ตกมาเป็นของตน

2) หยิบฉวย คือ การถือเอาทรัพย์ของผู้อื่นโดยนึกว่าเจ้าของทรัพย์จะไม่ว่าอะไร


การกระทำเพื่อให้ลุแก่อทินนาทานาประกอบด้วยองค์ 5 ประการ คือ

1. ปรปริคคหิตัง คือทรัพย์สินหรือสิ่งของนั้นมีเจ้าของ

2. ปรปริคหิต สญฺญิตา คือรู้ว่าวัตถุสิ่งของนั้นมีเจ้าของ

3. เถย ยจิตตัง คือ มีเจตนาที่จะลักทรัพย์

4. ปโยโค คือมีความพยายามที่จะลักทรัพย์นั้น

5. อวหาโร คือได้ทรัพย์นั้นมาแล้วด้วยความเพียรนั้น

 องค์แห่งการลุซึ่งอทินนาทานาหากครบทั้ง 5 องค์ แล้วถือว่าได้ลุซึ่งอทินนาทานาแล้ว แต่หากขาดองค์ใดองค์หนึ่ง ย่อมไม่เป็นการลุซึ่งอทินนาทานา 

ความพยายามของอทินนาทานา

1. สาหัตถิกะ หมายถึงการลักทรัพย์ด้วยตนเอง

2. อาณัตติกะ หมายถึงการจ้างวานคนอื่นลักทรัพย์ให้

3. นิสสัคคิย หมายถึงการวางทรัพย์หรือแกล้งวางทรัพย์ไว้เพื่อให้พวกพ้องถือเอาอันตนจะได้ทรัพย์นั้นหรือได้ประโยชน์ทรัพย์นั้นจากพวกพ้อง

4. ถาวระ หมายถึง สั่งสมัครพรรคพวกไว้ได้โอกาสให้พยายามลักทรัพย์นั้นมา

5. วิชชามยะ หมายถึงการลักทรัพย์ด้วยการร่ายมนต์คาถาเพื่อให้เจ้าของทรัพย์หลงใหลหรือไม่มีสติแล้วมอบทรัพย์ให้แก่ตน หรือร่ายคาถาให้หลับ แล้วหยิบเอาทรัพย์นั้นมา

6.อิมธิมยะ หมายถึง การใช้อิทธิฤทธิ์ต่างๆเพื่อให้ได้ทรัพย์นั้นมา

 

น้ำหนักปาปแห่งอทินนาทานา

1. มูลค่า และความสำคัญของทรัพย์ : ทรัพย์ที่มีมูลค่าหรือมีคุณมากย่อมปากมาก ทรัพย์ที่มีมูลค่าหรือคุณค่าน้อย ย่อมปาปน้อยลงมา

2. คุณธรรมของเจ้าของทรัพย์ : เจ้าของทรัพย์เป็นผู้มีคุณธรรมประพฤติแต่ในหลักศีลธรรมอันงาม การลักทรัพย์จากผู้นั้น ย่อมมีปากมากแต่หากเจ้าของทรัพย์เป็นผู้ไม่มีศีลธรรม เป็นคนไม่ดีในสังคม ย่อมได้รับปาปลดลงมา

3. ที่มาของทรัพย์ : ทรัพย์นั้นได้มาด้วยความสุจริตย่อมได้รับปาปตามสภาพทรัพย์ และเจ้าของทรัพย์ ส่วนทรัพย์ที่ได้มาจากการโจรกรรมย่อมได้รับปาปลดน้อยลง

4. เจตนาในการลักทรัพย์ :ผู้ลักทรัพย์มีเจตนาอันแรงกล้าที่จะกระทำ ย่อมได้รับปาปมากแต่หากไม่มีเจตนาหรือมีเหตุบังคับในเบื้องหลัง ย่อมได้รับปาปลดน้อยลง 

ผลกรรมแห่งอทินนาทานา

1. เกิดชาติหน้ามักเป็นคนจน มีทรัพย์น้อย

2. มักเป็นคนอดอยาก

3. มักไม่มีโชคลาภ

4. ทรัพย์สินมักถูกลักขโมย

5. ทรัพย์สินมักเสื่อ สูญหายหรือเกิดภัยพิบัติ

6. เสื่อมเสียชื่อเสียง

7. ผู้คนดูถูก

8. ไม่มีใครไว้วางใจ

9. ถูกกักขัง จองจำ

– ฯลฯ

ที่มา : thaihealthlife.com

ขอยืมแล้วจะเอาไปคืนทีหลัง..แล้วลืม เรียกว่าลักทรัพย์มั้ย?..อย่างไรเรียกผิดศีลข้อสองmanager.co.th
แชร์