You Are What You Eat... สุขภาพเรา เราปรุงเอง

“You are what you eat.” เป็นประโยคคลาสสิคที่มักใช้เตือนใจให้ผู้คนใส่ใจดูแลสุขภาพ ถ้าแปลเป็นภาษาไทยตรงๆ ก็คือ “กินอะไรไป คุณก็ได้อย่างนั้น” http://winne.ws/n14595

4.8 พัน ผู้เข้าชม

“You are whatyou eat.” เป็นประโยคคลาสสิคที่มักใช้เตือนใจให้ผู้คนใส่ใจดูแลสุขภาพถ้าแปลเป็นภาษาไทยตรงๆ ก็คือ “กินอะไรไป คุณก็ได้อย่างนั้น”ซึ่งหมายความว่า ถ้าเรารู้จักรับประทานอาหารที่ดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย เราก็จะสุขภาพดีตามไปด้วย ทั้งร่างกายสมดุล ปราศจากโรคภัยไม่อ้วนหรือผอมจนเกินไป แต่หากเราไม่รู้จักเลือกรับประทานนอกจากอาจทำให้น้ำหนักเกินแล้วที่ร้ายไปกว่านั้นยังเป็นโรคภัยไข้เจ็บที่จะตามมารังควานเราในอนาคตอีกด้วย

หลายครั้งที่เราอาจจะอยากเริ่มหันมารับประทานอาหารเพื่อสุขภาพแต่อีกใจเราก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องยุ่งยาก ไม่อยากเปลี่ยนแปลงการกินอาหารอร่อยๆหลากหลายรสชาติ มากินอาหารรสคลีนๆ จืดๆ  แต่ความจริงแล้วสุขภาพที่ดีสามารถเริ่มได้ทีละเล็กละน้อยจนไปสู่ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ได้โดยเริ่มต้นง่ายๆ จากการปรุงอาหาร ลองนึกตามดูว่าถ้าน้ำมันที่เป็นส่วนประกอบในอาหารแทบทุกมื้อของเรามีคุณค่าทางอาหารที่มากกว่าเดิมจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงแก่สุขภาพเราได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียวโดยน้ำมันมะกอกถือเป็นน้ำมันสกัดธรรมชาติจากผลมะกอกอันเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการปรุงอาหารเพื่อสุขภาพและยังช่วยให้เรายังสามารถตามใจปาก รับประทานอาหารจานโปรดแบบผัดๆ ทอดๆตามเดิมได้โดยไม่รู้สึกผิด แถมยังเป็นการเสริมสุขภาพให้ดีได้อีกด้วย

เปลี่ยนมาปรุงอาหารด้วยน้ำมันมะกอกเท่านั้นเองโดยเบอร์ทอลลี่จะพาไปรู้จักกับประโยชน์ดี ๆ 4 ข้อหลัก ของน้ำมันมะกอกที่มีต่อสุขภาพรับรองได้ว่าพอรู้แล้ว คุณต้องอยากแทนที่น้ำมันขวดเก่าด้วยน้ำมันมะกอกแน่นอน

1. น้ำมันมะกอกช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลน้ำมันมะกอกไม่มีส่วนประกอบของเกลือ แถมยังปราศจากคอเลสเตอรอลและอุดมไปด้วยไขมันชนิดไม่อิ่มตัวถึง 77% โดยเฉพาะกรดโอเลอิกหรือกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยว

“สิ่งที่น่าสนใจ คือ น้ำมันมะกอกนั้นมีส่วนประกอบของกรดโอเลอิกถึง 80%ซึ่งการบริโภคไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวหรือกรดโอเลอิกที่ว่านี้ในปริมาณที่สมดุลและพอเหมาะสามารถช่วยรักษาระดับคอเลสเตอรอลให้คงที่และยังช่วยลดความเสี่ยงจากโรคต่างๆที่ตามมาจากการมีระดับคอเลสเตอรอลสูงได้อีกด้วย” นายพศิษฐ์ คณาศิริชัยนนท์นักกำหนดอาหารวิชาชีพและวิทยากรด้านอาหารและสุขภาพจากเพจเฟสบุ๊คชื่อดังด้านอาหารและโภชนาการ ‘เมื่อวานป้าทานอะไร?’กล่าว

2. น้ำมันมะกอกอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งไม่พบในน้ำมันชนิดอื่นๆ และยังอุดมไปด้วย

วิตามินอีน้ำมันมะกอกเพียงหนึ่งช้อนโต๊ะมีวิตามินอีมากถึง 8%ของปริมาณวิตามินอีที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน ในน้ำมันมะกอกยังประกอบด้วยสารต้านอนุมูลอิสระตามธรรมชาติ และสารโพลิฟีนอล ที่ไม่พบในน้ำมันชนิดอื่นๆนอกจากนี้ ยังไม่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ หลอดเลือด และโรคเบาหวาน

3. น้ำมันมะกอกป้องกันการเกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดน้ำมันมะกอกมีปริมาณของกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวสูงกว่าน้ำมันพืชชนิดอื่นๆเช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันเมล็ดทานตะวัน

“คนที่ได้รับกรดไขมันไม่อิ่มตัวเชิงเดี่ยวจากน้ำมันมะกอกเป็นประจำนั้นจะมีระดับของคอเลสเตอรอลในเลือดชนิด LDL ต่ำ ซึ่ง LDLนี้เองที่เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญอันก่อให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือดนั่นเอง”  นายพศิษฐ์ คณาศิริชัยนนท์ กล่าวเสริม

นอกจากนี้น้ำมันมะกอกยังช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเกี่ยวกับเส้นเลือดลดภาวะเกล็ดเลือดจับตัวเป็นลิ่ม ช่วยให้เส้นเลือดแข็งแรงขึ้นและยังช่วยป้องกันโรคอัลไซเมอร์อีกด้วย

4. น้ำมะกอกช่วยลดเบาหวานได้หลายวิธี ตามที่กล่าวไปข้างต้นว่าน้ำมันมะกอกนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ซึ่งสารต้านอนุมูลอิสระนี้สามารถช่วยลดความเสียหายจากสภาวะเครียดออกซิเดชัน (oxidative stress) อันเป็นผลมาจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงได้จึงช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดสภาวะแทรกซ้อนจากโรคเบาหวานได้เป็นอย่างดีรวมทั้งอาการที่เกิดขึ้นจากเส้นประสาทชนิดต่างๆ ถูกทำลายโดยโรคเบาหวาน (diabeticneuropathy) ภาวะความเสียหายของประสาทในเรตินา (retinalneuropathy) ภาวะความดันเลือดสูง และโรคหัวใจ

น้ำมันมะกอกยังสามารถช่วยต้านการอักเสบซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆได้อีกด้วยโดยน้ำมันมะกอกจะช่วยลดการอักเสบและผลข้างเคียงจากการอักเสบในระยะยาวได้ เช่นในโรคเบาหวาน และสภาวะแทรกซ้อนจากการเป็นโรคเบาหวาน

ด้วยคุณสมบัติต่างๆที่มีในน้ำมันมะกอก รวมถึงสามารถทนความร้อนได้สูงจึงเหมาะกับการปรุงเมนูอาหารไทยได้อย่างหลากหลาย ตั้งแต่เมนูอบ ย่าง ไปจนถึง ผัดทอด ช่วยให้เราสามารถรักษาสุขภาพไปพร้อมๆกับความเอร็ดอร่อยในการรับประทานอาหารจานโปรดจานเดิมได้โดยไม่ต้องปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์

สุขภาพที่ดีสร้างได้ด้วยตัวเราเองไม่ใช่ใครที่ไหน เพราะว่า “คุณกินอะไรไป คุณก็ได้อย่างนั้น”มาอร่อยและสุขภาพดีไปด้วยกันกับน้ำมันมะกอกเถอะ!

 

อ่านเพิ่มเติมได้ที่  https://www.facebook.com/BertolliTH/  https://www.facebook.com/whatdidsheeat/

You Are What You Eat... สุขภาพเรา เราปรุงเอง
You Are What You Eat... สุขภาพเรา เราปรุงเอง
You Are What You Eat... สุขภาพเรา เราปรุงเอง
แชร์