เสียงสะท้อน !ความแตกต่างระหว่าง ประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา

เสียงสะท้อนจากคนไทย คนหนึ่งเพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย ความแตกต่างระหว่าง ประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา ไม่ได้อยู่ที่การไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร http://winne.ws/n14812

1.6 พัน ผู้เข้าชม
เสียงสะท้อน !ความแตกต่างระหว่าง  ประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา

เสียงสะท้อน

จากคนไทย คนหนึ่ง

 เพื่อก่อให้เกิดการปฏิรูปประเทศไทย

ความแตกต่างระหว่าง

ประเทศที่พัฒนาแล้วกับประเทศด้อยพัฒนา

*ไม่ได้อยู่ที่

การไม่เคยเสียเอกราชให้ใคร

*สามารถดูได้จากประเทศ ญี่ปุ่น เยอรมัน

  แม้จะแพ้สงครามโลก

แต่ก็กลับมายิ่งใหญ่ในเศรษฐกิจโลก

*ไม่ได้อยู่ที่

ความเก่าแก่ของอารยธรรมของประเทศนั้นๆ

สามารถดูได้จากประเทศ อินเดีย อียิปต์

    ซึ่งมีอารยธรรม มานานกว่า 3,000 ปี

แต่คนส่วนใหญ่ก็ยังยากจน

   ในขณะที่ประเทศเกิดใหม่ เช่น

สิงคโปร์ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์

   

ที่เป็นประเทศเล็กๆ ไม่มีศักยภาพอะไรเลย เมื่อ 100 ปีที่แล้ว

   แต่วันนี้กลับพัฒนาจนกลายเป็นประเทศพัฒนาแล้ว ที่ร่ำรวยได้

*และความแตกต่างระหว่างประเทศที่พัฒนาแล้ว กับประเทศด้อยพัฒนา

ก็ไม่ได้อยู่ที่ทรัพยากรของประเทศอีกนั่นล่ะ

   ญี่ปุ่น ที่มีพื้นที่เกษตรกรรมน้อยมาก 80% ของพื้นที่เป็นภูเขา ไม่เหมาะในการทำเกษตรกรรม

                                                                     แต่ญี่ปุ่นกลับเป็นประเทศที่ส่งออกอาหาร และ สินค้าเกษตรที่สำคัญของโลก

สวิสเซอร์แลนด์ อากาศหนาวจัดจนใน 1 ปี ทำการเกษตรได้เพียง 4 เดือนและ ไม่มีการทำไร่โกโก้เลย 

แต่กลับทำช็อคโกแลตส่งออกรายใหญ่ของโลก

และยังนำเอาความซื่อสัตย์ ความตรงเวลา

ความมีระเบียบของคน มาใช้ประโยชน์

จนได้รับการยอมรับให้เป็นธนาคารของโล

   สีผิว และ เผ่าพันธุ์ก็ไม่ใช่เหตุผลอีกแหละ 

เพราะเมื่อแรงงานที่เคยขี้เกียจในประเทศของตน

ย้ายไปอยู่และหากินในประเทศที่เจริญแล้ว

กลับกลายเป็นแรงงานที่ขยันด้วยซ้ำไป

แล้วอะไร

ที่ทำให้แตกต่าง ?

สิ่งที่แตกต่าง คือ ทัศนคติ ที่ฝังรากลึกมานานปี

ผ่านระบบการศึกษา และ

การอบรมปลูกฝัง

   จากการวิเคราะห์พฤติกรรมของคนในประเทศที่พัฒนาแล้ว 

พบว่าคนส่วนใหญ่ดำเนินชีวิตอยู่บนหลักปรัชญา ได้แก่

1.ใช้จริยธรรมนำทางชีวิต (Ethics as the basic principle)

2.ความซื่อสัตย์ (Integrity)

3.ความรักในงาน (Work Loving)

4.ความรับผิดชอบในหน้าที่ (Responsibility)

5.จิตใจมุ่งมั่น สู่ความเป็นที่หนึ่ง ( Will of super action)

6.การเคารพต่อกฏระเบียบ (Respect to the law and rules)

7.การเคารพต่อสิทธิของผู้อื่น (Respect to the rights of other citizens)

8.การตรงต่อเวลา (Punctuality)

9.การออมและความสนใจในการลงทุน (Strive for saving and investment)

แต่น่าเสียดายที่

ในประเทศด้อยพัฒนา

มีคนเพียงจำนวนน้อยที่ใช้หลักปรัชญาเหล่านี้ในการดำเนินชีวิต

   ประเทศไทยของเรายังเป็นประเทศด้อยพัฒนา ไม่ใช่เพราะเราขาดทรัพยากร หรือมีภัยธรรมชาติเป็นปัญหา

   แต่เพราะเราขาดทัศนคติ และแรงผลักดันที่สอดคล้องไปตามหลักปรัชญาการดำเนินชีวิตที่กล่าวมา

ปรมาจารย์ ขงจื๊อ 

(551-479 ปีก่อนปีคริสตกาล)

สอนไว้ว่า

•หากเจ้าวางแผนไว้ 1 ปี

   .............. จงปลูกข้าว

–หากเจ้าวางแผนไว้ 10 ปี

   .............. จงปลูกต้นไม้

•หากเจ้าวางแผนไว้ 100 ปี

   ............... จงให้ความรู้ แก่บุตรหลาน


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=1307800212637058&id=100002212767907

แชร์