เบื่อมั้ยกับอาการร้อนใน(ในช่องปาก)
สรุป อาการ สาเหตุ และวิธีการแก้ไขอาการร้อนใน http://winne.ws/n14829
เชื่อว่าหลายๆคนคงจะเบื่อมากกับอาการร้อนในแต่!! เดี๋ยวก่อน? อาการร้อนในนั้นเกิดจากหลายสาเหตุด้วยกันก่อนอื่นเรามาทราบสาเหตุกันก่อนดีกว่า...
ร้อนในคืออะไร??
ร้อนในหรือแผลร้อนใน (Apthousulcer) คือแผลเปิดภายในช่องปากเกิดจากการแตกของเยื่อเมือกเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย โดยทางการแพทย์ปัจจุบันยังไม่สามารถระบุสาเหตุอย่างชัดเจนแต่มีหลายปัจจัยที่มักจะก่อให้เกิดอาการร้อนในขึ้นเช่น
- การนอนดึก อดนอนเป็นประจำขาดการพักผ่อนที่เพียงพอ ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย
- ความเครียด ความเหนื่อยล้า
- การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน เช่นผู้หญิงในช่วงก่อนประจำเดือนมา หรือผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์มักมีอาการร้อนในเกิดขึ้น
- การแพ้อาหารบางชนิด
- การขาดวิตามินบี 12 ธาตุเหล็ก และกรดโฟลิก
- การสูบบุหรี่
แต่สำหรับทางการแพทย์แผนจีนจะมองว่าอาการร้อนในเกิดจาก “หยินหยาง” ในร่างกายไม่สมดุลกัน หากใครมี “หยิน”พร่อง เมื่อได้รับปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกาย ก็จะเป็นร้อนในได้ง่ายซึ่งปัจจัยที่ก่อให้เกิดความร้อนในร่างกายก็อย่างเช่น ทานของมัน ของทอด อากาศร้อนพักผ่อนน้อย
อาการร้อนในเป็นอย่างไร??
คนที่เป็นแผลร้อนในเริ่มแรกจะมีแผล หรือตุ่มแดงเล็ก ๆ ขึ้นมาในริมฝีปากด้านใน หรือกระพุ้งแก้มหรือบริเวณลิ้น จากนั้นตุ่มแดง ๆ จะกลายเป็นเม็ดสีขาวมีขอบสีแดงนูนออกมามีอาการบวม และกลายเป็นแผลที่มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 3 มม. ทำให้เรารู้สึกเจ็บ
แม้ว่าโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะไม่ทำอันตรายต่อสุขภาพแต่ก็ทำให้คนที่เป็น เจ็บปวดและรำคาญไม่น้อยเลย ซึ่งโดยปกติแล้วแผลร้อนในจะเป็นอยู่ประมาณ 1-2สัปดาห์
แบบเจ้ากระทู้ที่เจอในหน้าร้อนพอเวลาเจอแดดแรงๆตกเย็นหรือช่วงดึกจะมีอาการตัวร้อน(แต่ไม่ได้เป็นไข้)ลมหายใจร้อนเหมือนร่างกายต้องการแผ่ความร้อนที่สะสมออกมาประมาณนั้นค่ะแล้วจะตามมาด้วยอาการอื่นๆ เช่น ริมฝีปากบวมบ้างขึ้นแผลร้อนในบ้างเจ็บปวดมากมายจนตั้งมาตั้งกระทู้ให้อ่านกันซะเลย...
วิธีแก้มีอะไรบ้าง??
วิธีแก้ถ้าจะให้ดีเรามาเริ่มตัดที่ต้นเหตุดีกว่าค่ะเช่น การควบคุมพฤติกรรมของตนเอง การรับประทานอาหาร การพักผ่อนให้เพียงพอ
ลดปัจจัยที่ก่อให้เกิดร้อนในดังนี้
-หลีกเลี่ยงอาหารจำพวกของทอด ของมัน ขนมน้ำตาล ทุเรียน ลำไย ข้าวเหนียวมะม่วง ฯลฯ
- หลีกเลี่ยงอาหารที่มีรสเผ็ดร้อน เช่นกระเทียม หอม ขิง ฯลฯ แต่สามารถทานพริกได้
- รักษาความสะอาดในช่องปากให้ดีแปรงฟันทุกครั้งหลังจากรับประทานอาหารไปแล้วอย่างน้อย 30 นาทีถ้าเป็นไปได้ควรใช้ไหมขัดฟันทุกครั้งหลังอาหารด้วย
- รับประทานผัก ผลไม้ให้มาก ๆเพื่อให้ร่างกายได้รับแร่ธาตุ วิตามิน อย่างครบถ้วน และจะได้ป้องกันอาการท้องผูกเพราะร้อนในมักเป็นร่วมกับท้องผูก
- ดื่มน้ำให้มาก ๆ ในแต่ละวัน(อันนี้สำคัญมากๆ)
- ลดความเครียดลงเพราะความเครียดเป็นสาเหตุหนึ่งที่สำคัญมากที่ทำให้เกิดร้อนใน
- หมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้เกิดการหลั่งสารเอ็นดอร์ฟินออกมาช่วยลดความเครียด(ปัจจัยที่ช่วยลดความเครียด)
- หลีกเลี่ยงการตากแดดจัด ๆเพราะจะทำให้อุณหภูมิของร่างกายสูงขึ้น
(หลักที่สำคัญที่ควรทำเลย)ดื่มน้ำและพักผ่อนให้เพียงพอ/ลดความเครียด
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์ต่อผู้ที่ประสบปัญหาเดียวกันดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะคะ
ขอบคุณที่มา:http://sukkapab.com/โรคร้อนใน-มีแผลในปาก.html และ Postjung.com