ซีพีCPทุ่มเงิน 75 ล้านดอลลาร์ ซื้อบริษัทเซเว่น อีเลฟเว่นที่อินโดนีเซีย หวังสู้ร้านสะดวกซื้อท้องถิ่น

ปัจจุบัน โมเดิร์น เซเวลเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั้งหมด 175 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงจาการ์ตา โดยร้านเซเว่นและร้านสะดวกซื้อของต่างชาติในอินโดนีเซียต่างกำลังประสบวิกฤต อย่างหนักในการแข่งขันกับร้านอาหารริมทาง http://winne.ws/n15022

938 ผู้เข้าชม
ซีพีCPทุ่มเงิน 75 ล้านดอลลาร์ ซื้อบริษัทเซเว่น อีเลฟเว่นที่อินโดนีเซีย หวังสู้ร้านสะดวกซื้อท้องถิ่นแหล่งภาพจาก ไทยรัฐ

ซีพีทุ่มเงิน 75 ล้านดอลลาร์ ซื้อบริษัทเซเว่น อีเลฟเว่นที่อินโดนีเซีย หวังสู้ร้านสะดวกซื้อท้องถิ่น ฟื้นกำไรเซเว่นที่อินโดนีเซีย

บริษัท ซีพี อินโดนีเซีย ทุ่มเงิน 1 ล้านล้านรูเปีย หรือประมาณ 25,800 ล้านบาทในข้อตกลงซื้อกิจการบริษัทโมเดิร์น เซเวล อินโดนีเซีย ที่ดำเนินการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น อินโดนีเซีย โดยคาดว่ากระบวนการทางกฎหมายและการรับรองจากผู้ถือหุ้นของโมเดิร์น เซเวล อินโดนีเซียจะแล้วเสร็จในเดือนมิถุนายนนี้ ซึ่งบริษัทโมเดิร์น อินเทอร์เนชันนัล บริษัทแม่ของโมเดิร์น อินโดนีเซียออกแถลงการณ์อธิบายเหตุผลในการขายหุ้นว่า บริษัทขาดทุนมาหลายปีจากการแข่งขันที่ดุเดือด และการพัฒนาธุรกิจก็ต้องการเงินทุนจำนวนมหาศาล

ปัจจุบัน โมเดิร์น เซเวลเปิดร้านเซเว่น อีเลฟเว่นทั้งหมด 175 สาขา ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในกรุงจาการ์ตา โดยร้านเซเว่นและร้านสะดวกซื้อของต่างชาติในอินโดนีเซียต่างกำลังประสบวิกฤต อย่างหนักในการแข่งขันกับร้านอาหารริมทาง รวมถึงร้านสะดวกซื้อท้องถิ่นยักษ์ใหญ่ 2 เจ้าได้แก่ อัลฟามาร์ท และอินโดมาเรทที่มีร้านสะดวกซื้อรวมกันมากถึง 14,000 สาขาทั่วประเทศ

นอกจากนี้ เมื่อปี 2015 อินโดนีเซียประกาศแบนการขายแอลกอฮอลในร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ซึ่งส่งผลให้ร้านเซเว่นขาดทุนอย่างหนักอย่างมาก จนโมเดิร์น เซเวลต้องปิดร้านไปถึง 25 สาขาในปี 2016 ที่ผ่านมา

ในปี 2016 บริษัท ซีพี อินโดนีเซีย ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารประเภทสัตว์ปีกยักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซีย มีรายไทยมากถึง 38.25 ล้านล้านรูเปียหรือเกือบ 1 แสนล้านบาท และได้ขยายกิจการไปผลิตเครื่องดื่มในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังนั้น นักวิเคราะห์จึงมองว่า การซื้อกิจการเซเว่น อีเลฟเว่น อินโดนีเซียครั้งนี้จะเป็นการรองรับสินค้าของซีพีเอง

เครือเจริญโภคภัณฑ์ดำเนินกิจการร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่นในไทยมากกว่า 9,500 สาขาทั่วประเทศ ซึ่งใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 2 ของโลก ตามหลังเพียงญี่ปุ่นเท่านั้น

ที่มา: http://news.voicetv.co.th/world/483321.html

แชร์