​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน

​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายห้ามนายจ้างบังคับพนักงานใส่ส้นสูง โดยให้เหตุผลว่า อังกฤษมีกฎหมายความเท่าเทียมทางเพศ ไม่ให้มีการเหยียดเพศในที่ทำงานอยู่แล้ว http://winne.ws/n15062

563 ผู้เข้าชม
​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน

            รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธฏีกาที่เรียกร้องให้มีการออกกฎหมายห้ามนายจ้างบังคับพนักงานใส่ส้นสูงในที่ทำงาน โดยรัฐบาลอังกฤษยืนยันว่า กฎหมายความเท่าเทียมทางเพศในที่ทำงานฉบับปี 2010 ได้ห้ามไม่ให้มีการเหยียดเพศหญิงในที่ทำงานอยู่แล้ว

              เฮเลน โจนส์ ส.ส.พรรคแรงงานของอังกฤษและประธานคณะกรรมาธิการด้านผู้หญิงและความเท่าเทียม ของสภาอังกฤษ ซึ่งสนับสนุนให้รัฐสภาอังกฤษโหวตรับรองกฎหมายแบนการบังคับใส่ส้นสูง ระบุว่า ฏีกานี้ที่มีคนร่วมลงชื่อกว่า 150,000 คน รวมถึงการตรวจสอบข้อเท็จจริงของคณะกรรมาธิการเกี่ยวกับกฎเกณฑ์การแต่งตัวของบริษัทต่างๆ ประสบความสำเร็จอย่างมากในการสร้างความตระหนักแก่สาธารณชน และเป็นเรื่องยินดีที่รัฐบาลยอมรับข้อแนะนำว่า ควรมีการทำความเข้าใจเรื่องนี้กับนายจ้างและพนักงานให้มากกว่านี้ เพื่อป้องกันระเบียบกฎเกณฑ์ที่เหยียดเพศในที่ทำงาน และหวังว่า รัฐบาลอังกฤษชุดใหม่จะปฏิบัติเช่นนี้ด้วย

               ฏีกาฉบับนี้เกิดขึ้นหลัง นิโคลา ธอร์พ หญิงสาวชาวอังกฤษไปทำงานเป็นพนักงานต้อนรับของบริษัทพอร์ทิโกด้วยรองเท้าไม่มีส้น แต่ถูกสั่งให้กลับไปเปลี่ยนรองเท้าส้นสูงไม่ต่ำกว่า 2 นิ้วเมื่อปี 2015 ทำให้เธอตัดสินใจเปิดล่ารายชื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษสั่งห้ามการบังคับ ใส่ส้นสูงไปทำงาน เพราะธอร์พมองว่า กฎการแต่งกายนี้เป็นกฎที่ล้าสมัยและเหยียดเพศ ทำให้บริษัทพอร์ทิโกเปลี่ยนกฎการแต่งกายทันทีที่เรื่องนี้โด่งดังขึ้นมา

​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน
​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน
​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน
​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน
​รัฐบาลอังกฤษปฏิเสธข้อเรียกร้องให้ออกกฎหมายบังคับใส่ส้นสูงในที่ทำงาน

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก http://news.voicetv.co.th

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/world/483597.html

แชร์