เว็บไซต์ ฟอร์จูน สื่อวิเคราะห์เศรษฐกิจของสหรัฐฯ รายงานว่า นายแจ็ค หม่า ประธานบริหารและผู้ก่อตั้งอาลีบาบา ธุรกิจอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน แถลงสนับสนุนแนวทางของสหประชาชาติ ซึ่งเรียกร้องให้ใช้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจและต่อสู้ความยากจนทั่วโลก และนายหม่ายังระบุด้วยว่า "อินเทอร์เน็ตควรเป็นสาธารณูปโภคสำหรับทั่วโลก"

            "อินเทอร์เน็ตควรเป็นเครื่องมือที่คนทั่วโลกได้ใช้ประโยชน์ ในฐานะที่เป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการพัฒนาโลก และทุกอย่างควรอยู่ในโลกออนไลน์ และสิ่งที่อยู่ในโลกออนไลน์จะต้องมีข้อมูล และข้อมูลเหล่านี้จะเป็นพลังขับเคลื่อนสำหรับนวัตกรรมต่างๆ" นายหม่ากล่าว

              ขณะที่ นายมูคิซา คิตูยี เลขาธิการการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการค้าและการพัฒนา (UNCTAD) ระบุว่าเขาและนายหม่าจะประชุมกันที่กรุงคิกาลีของรวันดาในวันที่ 10 กรกฎาคมนี้ด้วย และจะพบกับประธานาธิบดีจาก 10 ประเทศในแอฟริกา และพบกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่ที่มีเป้าหมายในการเรียกร้องความรับผิดชอบจากนักการเมืองให้ช่วยเหลือประชากรรุ่นเยาว์ได้ตระหนักถึงศักยภาพของตัวเอง

                แจ็ค หม่า ระบุด้วยว่าการเดินทางไปยังแอฟริกาของเขาจะเน้นการพูดคุยเพื่อให้เกิดการพัฒนาระบบจ่ายเงินออนไลน์อี-เพย์เมนท์ เพื่อรองรับการพัฒนาที่ครอบคลุมมากขึ้น รวมถึงการพัฒนาการศึกษาและการปกป้องสิ่งแวดล้อม และในฐานะที่เขาเป็นพลเมืองของจีน เขาจะชักชวนให้กลุ่มธุรกิจชั้นนำของจีนมาสำรวจโอกาสในการเป็นหุ้นส่วนธุรกิจร่วมกับผู้ประกอบการในแอฟริกา

              ที่ผ่านมา อาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิงส์ ช่วยสร้างงานในจีนมากกว่า 33 ล้านตำแหน่ง ซึ่งนายหม่าประเมินว่าธุรกิจออนไลน์ขนาดเล็กแต่ละแห่งต้องจ้างงานคนอย่างน้อย 3 คน นอกจากนี้ เขายังได้พบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และเขากล่าวว่าบริษัทจะสร้างงานอีกราวหนึ่งล้านตำแหน่งในสหรัฐฯ เช่นกัน

            ก่อนหน้านี้ กลุ่มประเทศกำลังพัฒนาได้ร่วมกันออกแบบโรดแมปในการใช้ธุรกิจอีคอมเมิร์ซเป็น ตัวขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ และลดช่องว่างที่เกี่ยวกับดิจิทัล รวมถึงช่วยประเทศยากจนให้ได้รับการพัฒนา

            ขณะที่ซูซานนา มัลคอร์รา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศแห่งอาร์เจนตินา กล่าวเสริมว่าเธอคาดหวังให้องค์การการค้าโลกพิจารณาเห็นชอบกับแนวทางปฏิบัติใหม่ที่เกี่ยวกับธุรกิจอีคอมเมิร์ซ ซึ่งจะหารือกันในการประชุมที่กรุงบัวโนสไอเรสของอาร์เจนตินาในเดือนธันวาคม

              ส่วนคูร์รัม ดาสท์กีร์ ข่าน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ปากีสถาน ระบุว่าประชากรโลกครึ่งหนึ่งจะเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ภายในสิ้นปีนี้ โดย 40 เปอร์เซ็นต์จะเป็นประชากรในประเทศกำลังพัฒนา และอีก 15 เปอร์เซ็นต์จะเป็นประชากรในประเทศยากจน ส่วนประชากรที่ยังอยู่ในโลกออฟไลน์ซึ่งไม่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ส่วนใหญ่จะอยู่ในกลุ่มคนยากจน ผู้หญิง ผู้สูงอายุ ผู้ด้อยโอกาสทางการศึกษา และผู้ที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ชนบทห่างไกล

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก http://news.voicetv.co.th

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/world/484410.html