ความรู้อสังหาฯกับความยั่งยืน ครูฉลบชลัยย์ ครูรุจีสมร และครูพร้อมพรรณ

เมื่อวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2560ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th)ไปงานเผาศพครูฉลบชลัยย์ ..... http://winne.ws/n15172

696 ผู้เข้าชม

ความรู้อสังหาฯกับความยั่งยืน ครูฉลบชลัยย์ ครูรุจีสมร และครูพร้อมพรรณ

           เมื่อวันจันทร์ที่ 17 เมษายน 2560ดร.โสภณ พรโชคชัย ประธานศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย (www.area.co.th)ไปงานเผาศพครูฉลบชลัยย์ พลางกูร ที่วัดมหาธาตุบางเขนเห็นครูทำโรงเรียนดรุโณทยาน แถวถนนพญาไทแล้วย้ายไปคลองประปาแต่ต่อมาก็ปิดไปเสียแล้ว ทำให้นึกถึงโรงเรียนบรรณวิทย์ที่ม.ร.ว.รุจีสมร สุขสวัสดิ์ ทำที่ซอยสุขุมวิท 12 และหากท่านเสียชีวิตในอนาคตก็คงอาจปิดเช่นกัน จะทำอย่างไรให้ยั่งยืน ดร.โสภณมีตัวอย่างให้ดูที่โรงเรียนพร้อมพรรณวิทยาที่ดร.โสภณเคยเรียน
          โรงเรียนดรุณโทยานของครูฉลบชลัยย์ตั้งอยู่เยื้องโรงแรมเอเซียซึ่งต่อมาพัฒนาเป็นฮอลลีวูดสตรีท และกลายเป็นอาคารชุดพักอาศัยไปในที่สุดโรงเรียนต้องย้ายไปอยู่คลองประปา นี่ถ้ามีการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์ไว้แต่แรกซึ่งขณะเมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่2 มีราคาถูก ก็คงไม่ต้องย้าย หรือถ้าย้ายก็คงยังเหลือทุนในการพัฒนาการศึกษาต่อได้อีกมากเราสามารถทำให้โรงเรียนเอกชนที่อุทิศเพื่อสังคมให้มีความยั่งยืนได้
           อีกตัวอย่างหนึ่งคือม.ร.ว.รุจีสมร สุขสวัสดิ์ ท่านผู้อำนวยการและผู้จัดการโรงเรียนวรรณวิทย์ (http://bit.ly/2jeYNn0) ท่านเคยบอกว่าที่ดินแปลงนี้มีขนาด 3 ไร่มีผู้มาขอซื้อเป็นเงิน 1,000 ล้านบาท ท่านก็ไม่ขาย (http://bit.ly/2j0SWE7)ตั้งใจจะทำเป็นโรงเรียนเช่นนี้ตลอดไป ท่านบอกว่า ถ้าท่านไม่อยู่แล้ว ก็ยังมีคนดำเนินการต่อไปดร.โสภณในฐานะผู้ประเมินค่าทรัพย์สินประมาณการในเบื้องต้นว่าราคาที่ดินแปลงนี้น่าจะมีราคาตารางวาละ1.2 ล้านบาท หรือเป็นเงินรวม 1,440 ล้านบาท ตามคำบอกเล่าของ ม.ร.ว.รุจีสมรที่ดินแปลงนี้ตกเป็นกรรมสิทธิ์ของหลานแล้ว (http://bit.ly/2i3Wm75)
           ท่านให้เหตุผลที่ไม่ขายเพราะเด็กๆจะไม่มีที่เรียนหนังสือ แต่การที่เด็กนักเรียนลดลงจำนวนนับพันๆ คนเหลือเพียง 500คนนั้น แสดงว่า ความต้องการสถานศึกษาน้อยลงในบริเวณที่ตั้งของโรงเรียนก็เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยราคาแพงของผู้มีรายได้สูงที่คงไม่ส่งบุตรหลานมาเรียนที่นี่และในบริเวณใกล้เคียงก็ยังมีโรงเรียนเอกชนในเชิงอุดมการณ์แห่งอื่นๆที่คิดค่าเล่าเรียนถูกๆ เช่นเดียวกับโรงเรียนวรรณวิทย์หรือหลายแห่งก็ไม่เสียเลยค่าเทอมเลยเพราะเป็นโรงเรียนของรัฐบาลและอยู่ใกล้ย่านชุมชนของเขาเอง โดยไม่ต้องเดินทางมาถึงโรงเรียนวรรณวิทย์
          อย่างไรก็ตามเพื่อตอบสนองปณิธานของท่านครู ม.ร.ว.รุจีสมรโรงเรียนก็อาจคงสภาพเช่นนี้ไว้จนตลอดชั่วอายุของท่านซึ่งคงนานพอสมควรเพราะท่านก็ยังมีสุขภาพแข็งแรงดี ดร.โสภณอาจ 'ไปก่อน' ก็ได้!?! แต่ในอนาคตแม้ทางราชการจะช่วยซ่อมแซมโรงเรียนให้หรือกระทั่งสร้างใหม่ ก็ถือว่าใช้เงินไม่คุ้มค่าและยังมีทรัพยากรจัดการศึกษาไม่เพียงพอและหากทางโรงเรียนต้องการส่งเสริมการศึกษาแก่สังคมอย่างมีนัยสำคัญก็ควรดำเนินการคือการพัฒนาที่ดินโรงเรียนแห่งนี้ใหม่
          ทางเลือกหนึ่งก็คือการก่อสร้างอาคารใหม่ โดย
           1. ที่ดินแปลงนี้มีขนาด 3 ไร่(ตามข่าว) หรือ 4,800 ตารางเมตร
           2.หากพื้นที่ก่อสร้างคลุมดิน (Building Coverage Ratio) เป็น75% หรือ 3,600 ตารางเมตร และในบริเวณนั้นสามารถก่อสร้างได้ไม่เกิน 23 เมตรหรือาคาร 8 ชั้น ก็จะสามารถสร้างอาคารได้ 28,800 ตารางเมตร
           3. หากมีค่าก่อสร้างตารางเมตรละ20,000 บาท (http://bit.ly/1NYCpdF) ค่าก่อสร้างก็รวมเป็นเงิน576 ล้านบาท
           4. ในการแบ่งพื้นที่พื้นที่ชั้น 7-8 สามารถใช้เพื่อการศึกษา ดาดฟ้าก็ใช้ดั่งลานกิจกรรมของนักเรียนพื้นที่ส่วนที่เหลือ ชั้น 3-6ก็ปล่อยเช่าชดเชยค่าก่อสร้างอาคารและยังมีรายได้เข้ามาบำรุงการศึกษาหรือไปบำเพ็ญประโยชน์ในพื้นที่อื่นส่วนชั้น 1-2 อาจเป็นที่จอดรถหรือบริการอื่น
           หากดำเนินการตามนี้ก็จะสามารถบริหารทางการเงินให้กิจการโรงเรียนดำรงต่อไปอย่างยั่งยืนโรงเรียนก็จะมีอิสรภาพทางการเงินและหากในอนาคตจำนวนนักเรียนยังลดลงต่อเนื่องจนไม่มีนักเรียนเพียงพอแล้วก็อาจเปลี่ยนเป็นการให้เช่าอาคาร เพื่อนำรายได้ไปจัดการศึกษาในแหล่งชุมชนยากจนหรือในชนบทในนามมูลนิธิของท่านม.ร.ว.รุจีสมร เพื่อเชิดชูเกียรติคุณของท่านด้วยทรัพยากรที่ท่านรักษาไว้นั่นเองทำแบบนี้จะทำให้ท่าน ม.ร.ว.รุจีสมร เป็นอมตะในการสนับสนุนการศึกษาไทยแก่เด็กๆผู้ยากไร้
           ยังมีโรงเรียนแห่งหนึ่งชื่อโรงเรียน(สตรี) พร้อมพรรณวิทยา ดร.โสภณเรียนตั้งแต่ชั้นเตรียมประถมจนจบประถมศึกษาปีที่ 7(ปี 2514) เจ้าของโรงเรียนคือครูพร้อมพรรณ ศิริพัฒน์ ซึ่งปัจจุบันมีอายุ 90 ปีในสมัย ดร.โสภณเรียนมี "พร้อมพรรณ" อยู่ 2 ฝั่งถนนดินแดง มีฝั่งชายและฝั่งหญิงแต่ปัจจุบันไม่มีฝั่งชายแล้วเพราะโรงเรียนเอกชนคงสู้ไม่ไหว เหลือแต่ฝั่งหญิงซึ่งท่านทำได้อย่างดี ปรับตัวมีหลักสูตร 2 ภาษา รักษาบุคลากรคุณภาพไว้ครูก็มีความรอบรู้ในการลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์จึงสามารถยืนหยัดทำโรงเรียนได้อย่างไม่ย่อท้อ และการที่มีความสุขกับการทำโรงเรียนนี้เองจึงเป็นเสมือนโอสถที่ทำให้ครูพร้อมพรรณ ครูรุจีสมร และครูฉลบชลัยย์มีอายุคราว 100ปีได้
           จะทำอะไรให้ยั่งยืนจึงต้องมีความรู้ด้านอสังหาริมทรัพย์นั่นเอง
ที่มา: http://www.area.co.th/thai/area_announce/area_press.php?strquey=press_announcement1927.htm

แชร์