คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่ มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

การไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับคนส่วนใหญ่ และเป็นการยับยั้งเราให้มีชีวิตชีวาในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายด้วยประโยชน์มากมายของเทคโนโลยี สมาร์ทโฟนจึงไม่ใช่ศัตรู แต่สิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยน คือวิธีการที่เราจะใช้สมาร์ทโฟน http://winne.ws/n15219

541 ผู้เข้าชม

     คุณติดหนึบอยู่กับสมาร์ทโฟนของคุณหรือไม่? แล้วทำอย่างไรเราถึงจะเอาชนะการเสพติดสมาร์ทโฟนไปได้? 

     โฮเทลส์ ดอทคอม เผยคนไทยติดมือถืออันดับ 1 จากกลุ่มตัวอย่างนักท่องเที่ยวจาก 28 ประเทศ ที่พกมือถือตลอดเวลาแม้แต่ไปพักร้อน คนไทย โดย 6 ใน 10 ใช้เวลาไปกับการเช็กอีเมล์บนมือถือ และ 100% ใช้เพื่อเชื่อมต่อกับโลกโซเชียล

     ผลสำรวจพฤติกรรมการใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อการสื่อสาร ของ โฮเทลส์ ดอทคอม ที่สำรวจพฤติกรรมการใช้โทรศัพท์มือถือระหว่างเวลาเดินทางท่องเที่ยว ในวันหยุดพักผ่อน โดยสำรวจนักท่องเที่ยวจาก 28 ประเทศทั่วโลก เผยคนเอเชียติดโทรศัพท์มือถือมากกว่าชาติอื่นๆ ในรายงานระบุว่า คนไทยเป็นชาติอันดับ 1 ที่ไม่ต้องการอยู่ห่างจากมือถือแม้ในเวลาท่องเที่ยวในวันหยุดพักผ่อน (ข้อมูลเมื่อปี 2558 อ่านเพิ่มเติมที่ )

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

มันไม่ใช่สิ่งที่เทคโนโลยีทำต่อเรา แต่มันอยู่ที่สิ่งที่เราทำต่อเทคโนโลยีการใช้อย่างมืออาชีพ มันสามารถพัฒนา ส่งเสริมต่อความก้าวหน้าของชีวิต และจินตนาการที่กว้างไกลที่สุด แต่การใช้เทคโนโลยีอย่างไม่มืออาชีพ มันสามารถดึงเราให้รู้สึกโดดเดี่ยวลำพัง ตื่นเต้น หรือหวาดกลัว จงเลือกใช้เทคโนโลยีอย่างชาญฉลาด และใช้มันให้เกิดประโยชน์ทั้งต่อตัวคุณเองและคนรอบตัว” แอนดี้ พุดดีคัมม์ (Andy Puddicombe

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

     ผมชอบที่จะได้รับการแจ้งเตือนครั้งหรือสองครั้ง การได้รับสิ่งเล็กน้อยเหล่านี้จากโลกของโทรศัพท์ช่วยให้ผมรู้สึกดีขึ้นเล็กน้อยโดยเฉพาะการแจ้งเตือนมาจากบุคคลสำคัญสำหรับผมและการเปิดดูผ่านแอปพลิเคชั่นก็ดึงดูดผมอยู่เสมอ

แต่ผมได้ตระหนักแล้วว่า สมาร์ทโฟนทำให้ผมไขว้เขว้อย่างมาก

เวลาหลายวันที่ผมไม่สามารถหยุดยั้งตัวเองได้จากการติดหนึบที่หน้าจอโทรศัพท์ 

ผมเคยมีประสบการณ์หลายวันที่ปลดล็อกโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องเกินกว่าที่จะสามารถนับได้ และมีอีกหลายต่อหลายวันที่ผมทำมันทั้งสองอย่าง 

ผมรู้สึกได้ถึงประสบการณ์ในการมีโทรศัพท์มือถือในหัวของผมซึ่งติดแน่นอยู่กับการแจ้งเตือน ระฆังและนกหวีดซึ่งอาจมาจากเครื่องโทรศัพท์ของผมเอง

บางครั้งกำลังเดินบนถนน แต่จริงๆ แล้วเราอยู่ในสองสถานที่ในเวลาเดียวกันแทนที่จะอยู่กับโลกรอบตัวเรา

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

ทำไมเราจึงติดหนึบอยู่กับโทรศัพท์ของเรา?

     ทุกคนรู้ว่าที่เราชอบจะเช็คโทรศัพท์บ่อยๆ ไม่มีเหตุผลใดนอกเหนือจากความเบื่อ ความเหงาหรือความวิตกกังวล ซึ่งจากการศึกษา โดยเฉลี่ยคนปลดล็อกโทรศัพท์ของพวกเขาอย่างเหลือเชื่อ 80 ถึง 100 ครั้งต่อวัน

     ดังนั้น จึงชัดเจนว่าเราไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟนอย่างตั้งใจหรือมีวัตถุประสงค์ชัดเจน แต่เรามองหาโทรศัพท์เพื่อความสะดวกสบายเมื่อเรารู้สึกขาดหรือรู้สึกไม่สบายใจ เราคิดถึงการสนทนาและการแลกเปลี่ยนที่เราเคยมีหรือยังมีอยู่ในสมาร์ทโฟน บางทีเราอาจต้องการการหลบเหลี่ยงเล็กน้อยจากกิจวัตรประจำวันอันน่าเบื่อ แต่การหลบหลีกเหล่านั้น นับว่าได้ละทิ้งความตั้งใจของตัวเองซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าที่สุดของเรา

การละทิ้งความตั้งใจของตัวเองไปอย่างไร้สติ วันแล้ววันเล่า เราจึงไม่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีความหมายและคุณค่า

     ก่อนที่ผมจะเอาชนะการเสพติดสมาร์ทโฟน ผมเคยพิมพ์คำว่า “f” เพื่อหาเฟสบุ๊ค กดค้นหาอยู่หลายรอบจนนับจำนวนครั้งไม่ได้ มีอีกหลายวันที่ผมเคยเช็คข้อความเข้าใน gmail มากกว่ายี่สิบครั้ง แม้หลังจากถอนการติดตั้งแอปที่เกี่ยวข้องแล้วก็ไม่สามารถช่วยผมได้ ผมยังไปค้นหาต่อจากเวบไซต์บนมือถือ

     ผมเสพติดมันแล้ว พยายามที่จะขีดข่วนไปมาบนหน้าจอ ค้นหาการแจ้งเตือนเพื่อทำให้ตัวเองรู้สึกถึงการเชื่อมต่อ คุณอาจจะเข้าใจถึงความรู้สึกนั้น ผมกลายเป็นคนที่แนบติดกับ "เช็คนิดหน่อย" แต่หลายๆ ครั้ง

     ส่วนหนึ่งนั้น ผมอยากจะเห็นป๊อปใหม่เข้ามาชีวิต ผมตระหนักว่าพฤติกรรมแบบนี้ได้ค่อยๆ กลายมาเป็นบรรทัดฐานมากกว่าที่จะเป็นข้อยกเว้น แต่นับว่าพฤติกรรมนี้ไกลจากความมีสติยิ่งนัก 

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

ราคาจิตใจแห่งการเช็คโทรศัพท์อย่างต่อเนื่องของคุณ

     การเช็คโทรศัพท์ได้พัฒนาแนวทางที่ผมรู้สึกใช่ไหม? ใช่บางทีแต่เล็กน้อย จุดหนึ่งที่ชัดเจน มันเป็นเพียงภาพลวงตาของความรู้สึกที่ดีเท่านั้น ในขณะความเป็นจริง คือมันจบไปแล้วตั้งแต่ที่มันทำให้ผมรู้สึกไม่จดจ่อและไม่มีความพอใจ

     การเช็คโทรศัพท์หลายๆ ครั้งในแต่ละวันทำให้สมองของผมล้ามาก มันทำให้ผมตัดขาดจากตัวเอง ในขณะที่มันก็ให้ความหวังกับสิ่งที่อยู่ภายนอกตัวผมเอง บนหน้าจอสี่ถึงห้านิ้วแต่สามารถให้ความรู้สึกของความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นมากกว่าได้

     ครั้งหนึ่งผมเคยตระหนักถึงปัญหานี้อย่างมากถึงขั้นปิดโทรศัพท์ไปสองวัน บางช่วงรู้สึกเหมือนเรากำลังขาดหายจากบางสิ่งบางอย่างไป แทนที่จะตอบรับต่อความต้องการขณะนั้น ผมกลับมานั่งพิจารณาว่า โทรศัพท์มันเป็นเพียงภาพลวงตา สิ่งนี้ดึงผมออกจากความเป็นผู้กำกับสติในแต่ละวันของผม เมื่อหลายชั่วโมงผ่านไป ทำให้ผมคลายจากเสียงรบกวน ผมเริ่มรู้สึกถึงความไม่เชื่อมต่อมากขึ้นเรื่อยๆ หลังจากหนึ่งวัน ผมรู้สึกห่างไกลยิ่งขึ้นที่จะเชื่อมต่อตัวเองและสิ่งอื่นๆ รอบตัว 

     เรามีข้อสันนิษฐานนี้ว่า สมาร์ทโฟนสามารถพาเราไปในที่อื่นๆ ที่คอยกระตุ้นเราและทำให้ตื่นเต้นมากขึ้น โทรศัพท์เปรียบเทียบเป็นเหมือนกับบุหรี่สำหรับสายตา และเป็นน้ำตาลสำหรับความอยากของเราและเราก็ไม่รู้สึกพอได้

     แต่ยิ่งเราเช็คโทรศัพท์บ่อยครั้งมากขึ้นๆ เรายิ่งสูญเสียความสงบแห่งจิตใจและตัดการเชื่อมต่อจากตัวตนที่แท้จริงของเราเอง

ทำไมการตัดขาดจากโทรศัพท์ของคุณไปเลยจึงไม่ใช่คำตอบ?

     ผมได้ตระหนักว่าต้องหาวิธีการสักอย่างเพื่อที่จะเลิกเสพติดโทรศัพท์ ดังนั้นผมจึงเลือกวิธีลัด จึงกลับไปใช้โทรศัพท์รุ่นมาตรฐานที่ไม่มีแอพใดๆ เลยในเครื่อง หลังจากหลายเดือนผ่านไป ทั้งๆ ที่ผลประโยชน์อันยอดเยี่ยมจะเกิดขึ้น ผมกลับพลาดไปหลายอย่าง เช่น ไม่สามารถใช้ กูเกิล แม็ป, ใช้บริการรถอูเบอร์, การถ่ายภาพ, หรือการมีปฏิสัมพันธ์กับเพื่อนๆ จากรอบโลกด้วยการส่งข้อความ, ผมพลาดที่จะได้ฟังเพลง ฟังหนังสือเสียง และรายการวิทยุ

     ผมไม่ใช่กำลังโต้แย้งบางคนที่จะไม่ใช้โทรศัพท์อย่างถาวร แต่นี้เราอยู่ยุคดิจิตอล การไม่มีอุปกรณ์เหล่านี้จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับคนส่วนใหญ่ และเป็นการยับยั้งเราให้มีชีวิตชีวาในการใช้ชีวิตอย่างมีความหมายด้วยประโยชน์มากมายของเทคโนโลยี

สมาร์ทโฟนจึงไม่ใช่ศัตรู แต่สิ่งที่จำเป็นต้องเปลี่ยน คือวิธีการที่เราจะใช้สมาร์ทโฟน

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

7 วิธีในการเลิกเสพติดสมาร์ทโฟนของคุณ

     สมาร์ทโฟนในถุงกระเป๋าหรืออยู่ไม่กี่เมตรจากมุมมองของคุณ มันไม่เพียงแค่อยู่ระหว่างคุณและความสงบของจิตใจ, ความจดจ่อ, และความตระหนักรู้มีสติ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างคุณและทิศทางที่คุณไป

     เนื่องจากเวลาที่ใช้หมดไปบนหน้าจอมากขึ้นหมายถึงยิ่งทำให้คุณมีเวลาเหลือน้อยลงในการทำสิ่งที่ต้องการอย่างแท้จริงในชีวิต 

     การทำตามขั้นตอนด้านล่างนี้ ผมสามารถลดเวลาตัวเองที่ใช้ไปกับสมาร์ทโฟนลงได้ครึ่งหนึ่งและยังเพิ่มความสงบของจิตใจและความสามารถในการทำงานของผมอย่างมาก 

1. อย่าใช้โทรศัพท์ของคุณเป็นนาฬิกาปลุก

     หลายคนมักใช้โทรศัพท์เป็นสิ่งแรกในตอนเช้า การทำเช่นนั้นหมายความว่าเราเริ่มต้นวันใหม่ด้วยแผนการของคนอื่นแทนที่จะเป็นของเราเอง

2. ตั้งโทรศัพท์ในโหมดเครื่องบินทุกคืน ในเวลาเดียวกัน

     คุณจะหลีกเลี่ยงการนอนหลับที่ถูกขัดจังหวะและคุณจะถูกล่อลวงน้อยลงไม่ให้เข้าสู่โลกอินเทอร์เน็ตเป็นสิ่งแรกในตอนเช้าถ้าอยู่ในโหมดเครื่องบิน นั่นหมายถึงการพักผ่อนที่ดีขึ้นและช่วงเช้าที่เงียบสงบ

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน

3. ปิดโทรศัพท์ตลอด 24 ชั่วโมง หนึ่iงครั้งต่อสัปดาห์ 

     หนึ่งวันของแต่ละสัปดาห์การปลดปล่อยตัวเองออกห่างจากโทรศัพท์นับว่า คุณได้ให้พรที่ดีงามเพื่อตัวเอง ทำให้ผมตระหนักว่าสมาร์ทโฟนเป็นเพียงเครื่องมือเท่านั้นและไม่ใช่สิ่งจำเป็นที่ผมต้องถือไว้ใช้งานตลอด 24/7 ช่วยให้ผมมีระยะห่างไกลระหว่างผมกับโทรศัพท์

4. ใช้แอปติดตามเวลาเพื่อดูจำนวนเวลาที่คุณใช้ในการดูสมาร์ทโฟนทุกสัปดาห์ 

     บนแอนดรอยด์ (Android) มีแอป TimeUsed ในเพลย์สโตร์ (Play Store) ส่วนบนไอโฟน ลองพิจารณาแอป Moment คุณจะเห็นได้ทันทีและง่ายขึ้นว่า สมาร์ทโฟนกินเวลาของคุณไปเท่าไหร่? คุณจะตระหนักชัดว่า การเช็คโทรศัพท์นิดหน่อยแต่ทำบ่อยๆ เหล่านั้น ใช้เวลาส่วนหนึ่งที่ดีในวันของคุณไป 

5. ปิดใช้งานแอปที่คุณไม่ได้ใช้ 

     เก็บเฉพาะแอปโซเชียลมีเดียที่คุณชื่นชอบจริงๆ และกำจัดแอปส่วนที่เหลือ ตัวอย่างเช่น ผมไม่มี อินสตาแกรม (Instagram), ทวิตเตอร์ (Twitter) หรือเฟสบุ๊ค (Facebook) ติดตั้งอยู่ในโทรศัพท์ของผม แต่ผมมี WhatsApp และ Snapchat. พิจารณาเองว่าแอปอะไรเหมาะกับคุณ

6. ปิดการใช้งานอีเมลในโทรศัพท์ของคุณ

     ถ้าคุณเสพติดอย่างหนัก ให้พิจารณาปิดการใช้งานอินเทอร์เน็ตเบราเซอร์เช่นกัน การเคลียร์แอปอีเมล์ออกจากเครื่องโทรศัพท์ ทำให้ผมรู้สึกเบาและผ่อนคลายขึ้น คุณสามารถใช้ PackageDisabler Pro บนแอนดรอยด์ เพื่อปิดใช้งานเบราว์เซอร์สต็อก มิฉะนั้นการถอนการติดตั้งเบราว์เซอร์ที่คุณชื่นชอบอาจยังทำงานได้

คุณความสูญเสียความสงบทางจิตใจจากมาร์ทโฟนหรือไม่  มี 7 วิธีที่จะเลิกเสพติดมัน


7. โปรดจำไว้ว่า เมื่อคุณใช้สมาร์ทโฟนโดยคำนึงถึงเป้าหมายในใจก่อนที่คุณจะปลดล็อก จากนั้นคุณจะใช้มันด้วยเหตุผลที่เหมาะสม

     พยายามที่จะตระหนักรู้ว่า คุณเข้าถึงโทรศัพท์ของคุณโดยไม่จำเป็นแต่แค่รู้สึกสบายใจ หรือเพราะคุณมีความตั้งใจอย่างหนึ่งอย่างใดหรือไม่ การตระหนักรู้เช่นนี้จะเปลี่ยนแปลงคุณที่จะเช็คโทรศัพท์บ่อยๆ อย่างได้ผล

นึกภาพยนต์ที่ตัวละครหลักคอยเช็คสมาร์ทโฟนอยู่ตลอดเวลา ตัวละครฟุ้งซ่านจะไม่ทำให้เป็นวีรบุรุษมากนัก

มีอะไรจะพูดว่า คุณไม่ใช่ตัวละครหลักในชีวิตของคุณ?

หยุดพฤติกรรมดังกล่าว 

และเริ่มใช้สมาร์ทโฟนเพื่อประโยชน์ของชีว


ขอบคุณาพและข้อมูลจาก

https://timeline.line.me/post/_dUc8Ejo01FB5AkFwWGTP-DG0m5bHzPkGQf9WxGU/1149346396002021004

www.google.co.th

แชร์