การชิงชัยของ 2 ผู้สมัคร ระหว่างนางมารีน ลูแปน และ นายเอมมานูเอล มาครง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส

ส่วนนโยบายของ มาครง ซึ่งเป็นนักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่ ที่โปรภาคธุรกิจ โปรยุโรป ต้องการให้สถาบันยุโรปเข้มแข็ง มีนโยบายเศรษฐกิจ ที่ต้องการลดภาษี และตัดงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้ฝรั่งเศสเข้าสู่เงื่อนไขด้านงบประมาณของอียู http://winne.ws/n15374

948 ผู้เข้าชม
การชิงชัยของ 2 ผู้สมัคร ระหว่างนางมารีน ลูแปน และ นายเอมมานูเอล มาครง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศสแหล่งภาพจาก ThaiPublica

การชิงชัยของ 2 ผู้สมัคร ระหว่างนางมารีน ลูแปน และ นายเอมมานูเอล มาครง เพื่อก้าวสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีฝรั่งเศส ที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 7 พฤษภาคมนี้ และในช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้ง นโยบายเศรษฐกิจของทั้งสองคนเป็นอีกประเด็นที่น่าสนใจ โดยเฉพาะผลกระทบที่จะมีต่อประเทศไทย

นายพิพัฒน์  เหลืองนฤมิตชัย  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หัวหน้าทีมวิจัยลูกค้าบุคคล บริษัทหลักทรัพย์ภัทร วิเคราะห์นโยบายเศรษฐกิจของ 2 ผู้สมัคร ซึ่งเป็นผู้สมัครอิสระ คู่ชิงชัยที่มาจากคนละขั้วในหลายประเด็น   

ในด้านการค้า ลูแปน เสนอให้เก็บค่าเซอร์ชาร์จ หรือค่าระวางพิเศษเพิ่มเติมกับสินค้านำเข้า  เสนอให้นำเงินสวิตซ์ฟรังค์ กลับมาใช้แทนยูโร และเสนออัดฉีดสภาพคล่องเข้าสู่ระบบเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ  ซึ่งทำให้เงินเฟ้อสูงขึ้น กระทบผู้ออมและผู้ลงทุน        

ส่วนนโยบายของ มาครง ซึ่งเป็นนักการเมืองหนุ่มรุ่นใหม่  ที่โปรภาคธุรกิจ โปรยุโรป ต้องการให้สถาบันยุโรปเข้มแข็ง  มีนโยบายเศรษฐกิจ ที่ต้องการลดภาษี และตัดงบประมาณรายจ่าย เพื่อให้ฝรั่งเศสเข้าสู่เงื่อนไขด้านงบประมาณของอียู ประเด็นนี้ทำให้ผู้นำประเทศอื่นๆ ในยุโรป ชื่นชอบมาครง และมอง ลูแปน เป็นอันตรายต่อยุโรป      

ในมุมมองของนักเศรษฐศาสตร์ มองว่า การตัดสินใจเลือกผู้สมัครคนใดในครั้งนี้ ไม่มีประเด็นปัญหาทางเศรษฐกิจ เป็นแรงกดดันต่อการตัดสินใจลงคะแนน มากเท่ากับจะเลือกคนที่มีแนวคิด หรืออุดมการณ์ทางการเมืองแบบไหน จะเลือกคนที่โปรธุรกิจ หรือ โปรแรงงาน      
 
ส่วนประเด็นการค้าและเศรษฐกิจไทย  ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร เชื่อว่า การเลือกตั้งครั้งนี้ ไม่มีความเสี่ยงทางการค้าโดยตรงกับไทย  เพราะสัดส่วนการส่งออกไปฝรั่งเศส มีเพียงร้อยละ 2-3 จากการส่งออกไปอียูทั้งหมดร้อยละ 10 แต่อาจมีผลกับบางบริษัท ที่เป็นคู่ค้ากับฝรั่งเศสโดยตรง หาก ลูแปน ชนะเลือกตั้งและต้องการเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้น

ขณะที่ผลกระทบต่อตลาดทุน-ตลาดเงิน หาก ลูแปน ชนะ อาจเกิดความผันผวนกับตลาดทุนตลาดเงินพอสมควร เพราะนโยบายของ ลูแปน ยังมีรายละเอียดที่ต้องถกเถียงกัน  แต่หากนายมาครง ชนะ จะส่งผลบวกต่อตลาดหุ้นยุโรปและตลาดหุ้นโดยรวม เพราะนโยบายเศรษฐกิจของเค้า เป็นสิ่งที่ตลาดคาดการณ์ได้  

ที่มา: http://news.voicetv.co.th/business/487176.html

แชร์