บีทรูท มีชื่อเรียกอย่างอื่น เช่น ผักกาดฝรั่ง ผักกาดแดง ส่วนที่นำมารับประทานที่เราเห็นกันเป็นลูกสีแดงเลือดหมู หรือม่วงแดง ที่มักนิยมเรียกกันว่า หัวบีทรูท นั้น คือ ส่วนราก ซึ่งจะมีลักษณะกลมป้อม ทำหน้าที่สะสมอาหาร

ภายในหัวบีทรูทจะมีวิตามินและสารอาหารจำนวนมาก มีการวิจัยพบว่ามีคุณประโยชน์ต่อสุขภาพผู้บริโภคหลายประการ

ตัวอย่างของวิตามินและแร่ธาตุที่พบมาก เช่น วิตามินเอ วิตามินบีรวม วิตามินซี บีทานิน(กรดอะมิโน ต้านมะเร็ง) แอนโทไซยานิน(สารต้านอนุมูลอิสระ) และไนเตรต

โดยเฉพาะอย่างยิ่งไนเตรตที่กล่าวถึงในการวิจัยครั้งนี้นั้นนอกจากช่วยบำรุงหลอดเลือดและหัวใจ ทำให้ความดันลดลงแล้ว ยังช่วยให้ร่างกายกระปรี้กระเปร่าจนสามารถออกกำลังกายได้นานขึ้นถึง 16%

การทดลองของนักวิจัย ทดสอบด้วยการให้คนไข้ที่มีความดันโลหิตสูงจำนวน 15 คน ลองดื่มน้ำบีทรูทหนึ่งแก้วในปริมาณแก้วละ 250 มิลลิลิตร จากนั้นทำการวัดความดันและบันทึกค่าที่ได้ในช่วง 3-6 ชั่วโมงหลังจากดื่ม ซึ่งผลที่ได้พบว่าความดันโลหิตจะต่ำลงประมาณ 10 มิลลิเมตรปรอท โดยจะเห็นผลอยากชัดเจนในวันถัดไปหลังจากดื่ม

นักวิทยาศาสตร์อธิบายเรื่องนี้ว่า เป็นเพราะในบีทรูทมีสารไนเตรต ซึ่งช่วยในการขยายหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนโลหิตดีขึ้น ทั้งนี้โดยทั่วไปแล้วสารไนเตรตดังกล่าวก็เป็นสารที่แพทย์ใช้รักษาผู้ป่วยโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ

สำหรับทีมงานวิจัยที่ค้นพบว่าบีทรูทมีคุณสมบัติในการช่วยลดความดัน เป็นทีมจากโรงเรียนแพทย์และทันตกรรมบาทส์แอนด์ลอนดอน โดยพวกเขาได้ใช้เวลาในการค้นคว้าและทดลองมามากกว่า 1 ปี

ทีมวิจัยให้สัมภาษณ์ว่า ยังมีการทดลองให้ทำอีกมากมายหลายเพื่อให้ทราบคุณสมบัติทางการแพทย์ของบีทรูท อย่างไรก็ดีขอเตือนผู้ที่ดื่มบีทรูืทบ่อย ๆ อาจจะมีผลทำให้ฉี่เป็นสีชมพูได้

ไนเตรตถูกพบในดินเป็นสารที่พืชทั้งหลายใช้ในการเจริญเติบโต โดยจะใช้รากในการดูดขึ้นมาจากดิน ทั้งนี้ทีมวิจัยได้คาดหวังว่าในอนาคตผู้บริโภคที่มีปัญหาความดันโลหิตสูง จะหันมานิยมรับประทานผักที่มีไนเตรตสูง รวมถึงผักใบเขียวทั้งหลาย เพิ่มมากขึ้น

Cr. http://www.thaikasetsart.com/