อนิจจา!! เป็นแม่ค้าหอยทอดดี ๆ กลับมีชื่อโผล่เป็นกรรมการบริษัทแถมพ่วงหนี้ 14 ล้าน

แม่ค้าขายหอยทอดวัย 50 ปี จบแค่ป.6 ที่เปิดร้านขายอยู่ภายในเพิงร้านค้าบริเวณริมคลองของทางวัด 20 ปีมีรายได้ต่อวันเพียง 400-500 บาท แต่มีชื่อเป็นกรรมการบริษัทได้รับฟ้องร้องจากบริษัทเอกชน ในคดีผิดสัญญาซื้อขาย เรียกใช้หนี้ มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท http://winne.ws/n15474

866 ผู้เข้าชม

ขายหอยทอดอยู่ดี ๆได้หนี้มา 14 ล้าน

อนิจจา!! เป็นแม่ค้าหอยทอดดี ๆ กลับมีชื่อโผล่เป็นกรรมการบริษัทแถมพ่วงหนี้ 14 ล้าน

วันที่ 10 พ.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับเรื่องการร้องเรียนจากพระสมุห์เจริญ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดดอนมะโนรา ต.ดอนมะโนรา อ.บางคนฑี จ.สมุทรสงคราม ว่า มีแม่ค้าขายหอยทอดวัย 50 ปี ที่เปิดร้านขายอยู่ภายในเพิงร้านค้าบริเวณริมคลองของทางวัด มานานกว่า 20 ปีแล้ว ซึ่งมีรายได้ต่อวันเพียง 400-500 บาท กำลังได้รับความเดือดร้อนอย่างหนักจากการโดนหมายศาลเรียกฟ้องร้องจากบริษัทเอกชนรายหนึ่งในกรุงเทพมหานคร ในคดีผิดสัญญาซื้อขาย เรียกใช้หนี้ มูลค่ากว่า 14 ล้านบาท ร่วมกับจำเลยอีก 3 คน และให้ไปขึ้นศาลในวันที่ 26 มิ.ย. ที่ศาลแพ่งธนบุรี

นางกรรณิกา ธนิกกุล อายุ 50 ปี ชาวตำบลขุนพิทักษ์ อ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นแม่ค้าขายหอยทอด กล่าวด้วยอาการเครียด ว่า หลังมีหมายศาลมาที่บ้าน รู้สึกตกใจและเกิดอาการเครียดอย่างหนัก เพราะตนได้เป็นจำเลยร่วมกับบุคคลอื่น รวม 4 ราย ที่ถูกบริษัทจำหน่ายเหล็กเส้นและเหล็กฉากแห่งหนึ่ง ที่ตั้งอยู่ที่กทม. ยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งธนบุรี ในคดีฐานความผิดสัญญาซื้อขาย เรียกใช้หนี้กว่า 14 ล้านบาท ซึ่งในรายละเอียดระบุว่าตนเป็นกรรรมการบริษัทขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างแห่งหนึ่ง ในอ.ดำเนินสะดวก จ.ราชบุรี ได้ร่วมกันซื้อเหล็กจากบริษัทดังกล่าวที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง รวมเป็นจำนวนเงิน 14,073,929.62 บาท แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่ได้มีการชำระเงินค่าสินค้าแต่อย่างใด บริษัทที่เป็นโจทก์ จึงยื่นฟ้องให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหาย พร้อมดอกเบี้ย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 14,255,100.10 บาท

นางกรรณิกา กล่าวทั้งน้ำตา ว่า ตนเรียนจบเพียงชั้น ป.6 ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับบริษัทดังกล่าว ยังงงอยู่ว่ามีชื่อไปเป็นกรรมการของบริษัทที่ถูกฟ้องได้อย่างไร หรือมีคนแอบนำสำเนาบัตรประชาชนของตนไปแอบอ้างหรือไม่ ตนได้ค้าขายหอยทอดที่หน้าวัดดอนมะโนราแห่งนี้มากว่า 20 ปี มีรายได้เพียงวันละ 200-300 บาท อยู่ดีๆโดนฟ้องเช่นนี้ตนไม่รู้จะดำเนินการอย่างไร เพราะไม่มีเงินเพียงพอที่จะไปสู้ความในคดี

ด้านพระสมุห์เจริญ คเวสโก เจ้าอาวาสวัดดอนมะโนรา กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับเอกสารก็นำเข้ามาพูดคุยและปรึกษากัน ซึ่งอาตมาเห็นโยมกรรณิกาตั้งแต่ยังไม่ได้บวชเป็นพระ จะเห็นพายเรือขายของอยู่ที่คลองหน้าวัด และเกิดสงสารและเห็นใจจึงได้สร้างเพิงให้ค้าขายกัน จึงไม่เชื่อเลยว่าโยมกรรณิกาจะไปเป็นกรรมการหรือรู้จักกับคนในบริษัทนั้น เพราะเห็นนั่งขายอยู่ที่นี่ทุกวัน รายได้ก็น้อยเพราะคนมาทำบุญที่วัดไม่ค่อยมากนักจะดีก็ช่วงวันหยุดเท่านั้น

สังคมชักอยู่ยาก!! ไม่รู้เรื่องแบบนี้จะมีอีกเท่าไหร่สงสารคนไม่รู้อิโหน่อิเหน่  เหมือนเรื่องที่เกิดกับบางวัด พระอยู่วัดรับบริจาคจากญาติโยมวันร้ายคืนร้ายพระกลายเป็นรับของโจร โดนจนท.รัฐหาเรื่องจับสึกยึดวัดซะงั้น 

 ฝากถามรัฐ เรื่องที่เกิดขึ้นแบบนี้จะแก้ปัญหาอย่างไร  เกิดขึ้นกับหลายรายล้วนแต่ชาวบ้านจน ๆ และพระภิกษุสงฆ์ วัดวาอาราม


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

https://www.khaosod.co.th/breaking-news/news_341932

แชร์