กฟภ.-ม.ธรรมศาสตร์ จับมือ จัดโครงการ Move World Together เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 6 สำหรับเยาวชน
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ร่วมกับมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดโครงการ Move World Together เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม เฟ้นหาเยาวชนสร้างสรรค์โครงงานนวัตกรรม เพื่อไปแข่งขันระดับชาติและนานาชาติ http://winne.ws/n15504
เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 12 พ.ค. 2560 นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร รองผู้ว่าการกิจการสังคม การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ดร.ธิดารัตน์ ศักดิ์วีระกุล อาจารย์ประจำวิทยาลัยพัฒนศาสนตร์ป๋วยอึ๊งภากรณ์ ผศ.ดร.จิตติ มงคลชัยอรัญญา ผอ.โครงการเพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม ร่วมมอบเกียรติบัตรเยาวชนผ่านการอบรมค่ายผู้นำเยาวชนเพื่อโลกที่ยั่งยืน ปีที่ 6 ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก ภายใต้โครงการ Move World Together เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค.60 ถึง วันที่ 12 พ.ค.60 เป็นเวลา 5 วัน เพื่อพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้มีความคิดนอกกรอบสร้างสรรค์ เป็นคนพันพันธุ์ใหม่ที่พร้อมรับมือกับปัญหาต่างๆ ในปัจจุบันและโลกอนาคต โดยเฉพาะปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม มีเยาวชนจาก 18 จังหวัด 36 โรงเรียน จำนวน 107 คน ที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมกิจกรรมครั้งนี้ ที่ เดอะไพนรีสอร์ท ตำบลท้ายเกาะ อำเภอสามโคก จังหวัดปทุมธานี
โครงการ Move World Together เพื่อพลังงานและสิ่งแวดล้อม เป็นความร่วมมือของ 4 องค์กร ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาเยาวชนและด้านพลังงาน ประกอบด้วย การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ กรมกิจการเด็กและเยาวชนและสมาคมพัฒนาศักยภาพและอัจฉริยภาพมนุษย์ ร่วมกันออกแบบกระบวนการพัฒนาศักยภาพเยาวชนให้มีความคิดนอกกรอบสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเครือข่ายผู้นำเยาวชนพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของโลกโดยเฉพาะปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม เยาวชนที่เรียนรู้และเปลี่ยนแปลงตัวเอง จะสามารถแก้ปัญหาด้วยวิธีการแปลกใหม่และได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิม และนำไปสู่การสร้างสังคมอย่างยั่งยืน
ค่ายผู้นำเยาวชนเพื่อโลกที่ยั่งยืนจัดขึ้นทุกภาคทั่วไปประเทศ เยาวชนที่ผ่านค่ายดังกล่าวต้องกลับไปพัฒนาโครงงานแก้ปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อม ซึ่งหากมีผลงานที่โดดเด่นมีความคิดสร้างสรรค์ตั้งแต่ระดับ 2 ขึ้นไป จะได้รับการสนับสนุนเงินทุนพัฒนาโครงงานไปสู่ผลงานนวัตกรรม และได้เข้ารับการอบรมที่เข้มข้นขึ้นในค่ายที่ 2 และค่ายที่ 3 ได้รับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำทั่วไปประเทศ และได้รับการพิจารณาถึงขั้นจดสิทธิบัตร อนุสิทธิบัตร และการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ เป็นตัวแทนประเทศไทยให้เข้าร่วมประกวดนวัตกรรมระดับชาติและนานาชาติ ซึ่งปัจจุบันมีผลงานของเยาวชน Move World Together จำนวน 9 ผลงาน คว้ารางวัลระดับนานาชาติ ได้ถึง 40 รางวัล จากการแข่งขันสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมที่ประเทศไต้หวัน มาเลเซีย เกาหลีใต้ แคนนาดา อัฟริกาใต้ เป็นต้น
กิจกรรมในค่ายผู้นำเยาวชนเพื่อโลกที่ยั่งยืน ประกอบด้วยการปลูกจิตสำนึกเยาวชน อายุ 15-21 ปี ให้ตระหนักถึงปัญหาต่างๆ ที่กำลังรุมเร้าสังคมไทยและโลก เพื่อกระตุ้นให้เยาวชนใช้พลังของตนเองร่วมกันทำงานเป็นทีมกับกลุ่มเพื่อน คิดวิเคราะห์ปัญหา และสรรค์สร้างแนวทางแก้ไขปัญหาด้านพลังงานและสิ่งแวดล้อมด้วยวิธีที่แปลกใหม่ ทั้งในเชิงวิทยาศาสตร์และสังคมศาสตร์ ทั้งนี้เยาวชนจะถูกฝึกให้คิดอย่างมีวิจารณญาณ เชื่อมโยงเหตุและผลอย่างถูกต้อง ควบคู่ไปกับการเรียนรู้ผ่านการลงมือปฎิบัติ ทดลอง ถอดบทเรียนจากชีวิตจริง และร่วมกันพัฒนาโครงงานเพื่อแก้ไขปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมในชุมชนอย่างยั่งยืน
นางสาวนงลักษณ์ ม่วงเอี่ยม อายุ 17 ปี โรงเรียนเตรียมอุดมน้อมเกล้า ปทุมธานี กล่าวว่า ความรู้ที่ได้จากการร่วมกิจกรรมในครั้งนี้จะปรับตามกลับไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันรวมถึงการพัฒนาโครงงานที่กลุ่มของตนเองได้คิดขึ้นมานั่นก็คือโครงการ เครื่องคัดแยกเศษอาหารจากโรงอาหารของโรงเรียน เนื่องจากที่โรงอาหารของโรงเรียนอยู่ใกล้กับบ่อน้ำทำให้เศษอาหารบางส่วนหล่นลงไปในแหล่งน้ำทำให้บ่อสกปรกเมื่อโครงงานของกลุ่มตนเองทำสำเร็จจะทำให้ระบบนิเวศของโรงเรียนดีขึ้น
ด้านนายปิยะ พลหนองคูณ อายุ 16 ปี โรงเรียนวัดเขมาภิรตาราม นนทบุรี กล่าวว่า การที่ได้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ทำให้มีความคิดสร้างสรรค์และคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆของเราเอง รวมถึงต่อยอดโครงการของกลุ่มที่ตนเองได้ทำขึ้น คือ โครงการทำแผ่นซับน้ำในห้องน้ำ เมื่อมีผู้ใช้ห้องน้ำจะทำให้ไม่ลื่นและลดอุบัติเหตุ รวมถึงประทับใจที่พี่ในค่ายที่ให้คำแนะนำรวมถึงเพื่อนใหม่ๆที่ได้พบเจอในกิจกรรมนี้
ส่วนนางสาวพรศิริ กาญจนาอภิริการ อายุ 15 ปี โรงเรียนจุฬาภรณราชวิทยาลัย เพชรบุรี กล่าวว่า ดีใจมากที่ได้มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้โดยได้ประสบการณ์ใหม่ๆจากเพื่อนและการฝึกกระบวนการคิดในรูปแบบต่างๆสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ในส่วนของโครงงานที่กลุ่มของตนเองได้คิดขึ้นนั้น คือการดัดแปลงพันธุกรรมของแมลงด้วงก้นกระดกลดพิษของมัน ทำให้พิษของมันไม่สามารถทำอันตรายใครได้อีก.