สำนักข่าว CNN รายงานว่า Davis Allen Cripe เด็กหนุ่มวัย 16 ปี เสียชีวิตจากการดื่มกาเฟอีนเกินขนาด ซึ่งสารเหล่านี้ได้เข้าไปกระตุ้นหัวใจจนอาจทำให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ 

            สาเหตุการเสียชีวิตนี้ได้รับการยืนยันจาก Gary Watts เจ้าหน้าที่ชันสูตรศพเทศมณฑล Richland เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐฯ โดยคาดว่าสาเหตุน่าจะมาจากภาวะ arrhythmia หรืออาการหัวใจเต้นผิดจังหวะ ซึ่งทำให้หัวใจไม่สูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายอย่างเพียงพอ จนสมอง หัวใจ และอวัยวะส่วนอื่นล้มเหลว 

            Diet Mountain Dew ขวดใหญ่ และเครื่องดื่มชูกำลัง เพียง 2 ชั่วโมงหลังจากนั้นจึงล้มลงในห้องเรียน เมื่อวันที่ 26 เมษายนที่ผ่านมา โดยเขาซื้อกาแฟลาเต้มาดื่มราว 12.30 น. ตามด้วย Mountain Dew และเครื่องดื่มชูกำลังหลังจากนั้น และล้มลงตอน 14.30 น.

           ผลการชันสูตรยังพบว่า Davis ไม่ได้มีปัญหาหัวใจทำงานผิดปกติ, ไม่มีภาวะเสี่ยงจะถูกสารกาเฟอีนกระตุ้นใดๆ และมีสุขภาพดี อีกทั้งยังไม่พบการใช้ยาเสพติดหรือแอลกอฮอล์ในร่างกายแต่อย่างใด

           Sean Cripe พ่อของ Davis เด็กหนุ่มผู้เสียชีวิต กล่าวว่า เขาก็เหมือนพ่อแม่ทุกคนที่มีเรื่องให้กังวลสารพัด ตั้งแต่ความปลอดภัย สุขภาพ โดยเฉพาะเมื่อพวกเขาหัดขับรถเอง แต่สิ่งที่คร่าชีวิตลูกชายของเขาไม่ใช่อุบัติเหตุทางรถยนต์ กลับเป็นเครื่องดื่มชูกำลัง 

             "กรณีนี้ไม่ได้การใช้ยาเกินขนาด เราเสีย Davis ไปเพราะสารกระตุ้นที่ถูกกฎหมายล้วนๆ" เขากล่าว "เราออกมาพูดวันนี้เพราะอยากให้คนรู้ว่า เครื่องดื่มเหล่านี้แฝงอันตราย ควรระมัดระวังเมื่อดื่มสิ่งเหล่านี้ ไปจนถึงปริมาณที่จะดื่มในแต่ละวัน" พร้อมทั้งย้ำว่าพ่อแม่ควรพูดคุยกับลูกถึงอันตรายแฝงในเครื่องดื่มชูกำลังเหล่านี้

             สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา แนะนำว่า วัยรุ่นอายุ 12-18 ปีไม่ควรดื่มกาเฟอีนเกิน 100 มิลลิกรัมต่อวัน ซึ่งหากมากกว่านี้อาจเพิ่มความดันเลือดในวัยรุ่น ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการแนะนำว่าเด็กและวัยรุ่นควรหลีกเลี่ยงเครื่องดื่มชูกำลัง เพราะร่างกายจะดูดซึมกาเฟอีนและสารกระตุ้นเหล่านี้ได้ดีกว่าวัยอื่น

             งานวิจัยในปี 2014 พบว่าในแต่ละวัน 73% ของเด็กอเมริกันบริโภคกาเฟอีนไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง ซึ่งยังไม่ได้กำหนดมาตรฐานว่าเด็กควรบริโภคเครื่องดื่มเหล่านี้มากเท่าไร แต่องค์การอาหารและยาของสหรัฐระบุว่าผู้ใหญ่สามารถบริโภคกาเฟอีนได้ 400 มิลลิกรัมต่อวัน หรือเทียบกับกาแฟราว 4-5 แก้ว โดยไม่มีผลข้างเคียง

ขอขอบคุณคลิปจาก CNN

ขอขอบคุณคลิปจาก CBS Boston

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก http://news.voicetv.co.th

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/world/490333.html