“ประยุทธ์ จันทร์โอชา”นั่งหัวโต๊ะประชุมครม. แต่ก่อนประชุมครม.มีประชุมคสช.เพื่อหารือเหตุระเบิดรพ.พระมงกุฏฯ

                    วันนี้(23พ.ค.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นั่งหัวโต๊ะประชุมคณะรัฐมนตรี แต่ก่อนจะเข้าวาระประชุมครม. พล.อ.ประยุทธ์เรียกประชุมคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ก่อน ภายหลังเกิดเหตุระเบิดโรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า เมื่อวานที่ผ่านมา โดยพล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผบ.ทบ. ในฐานะเลขานุการคสช. เตรียมรายงานความคืบหน้าและมาตรการด้านการข่าว ส่วนพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จะรายงานความคืบหน้าทางคดี

                   ส่วนวาระการประชุมครม.มีดังนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างแผนแม่บทเพื่อพัฒนาเกษตรกรรม พ.ศ.2560–2564 โดยมอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นเจ้าภาพหลัก ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประกอบด้วยกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 

                  กระทรวงมหาดไทย รับแผนแม่บทฯ ไปบูรณาการร่วมกับแผนพัฒนาการเกษตรในช่วงแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 พ.ศ. 2560–2564 เพื่อขับเคลื่อนพัฒนาการเกษตรของประเทศให้มีความเชื่อมโยงสนับสนุนซึ่งกันและกัน นำไปสู่ความเข้มแข็งของภาคเกษตรกรเพื่อให้พึ่งพาตนเอง ได้อย่างมั่นคงยั่งยืนในอนาคต

                  กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา เรื่องการขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรี เพื่อดำเนินการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน ในพื้นที่ป่าชายเลนในท้องที่อำเภอ ท่าศาลา อำเภอเมือง และอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช และจัดที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยให้ชุมชนในท้องที่จังหวัดชายฝั่งทะเล 18 จังหวัด

                 กระทรวงการคลัง เสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง ลดอัตราและยกเว้นภาษีสรรพสามิต โดยสาระสำคัญให้คงการเก็บภาษีสรรพสามิตในส่วนของน้ำมันหล่อลื่นเหลวและน้ำมันที่คล้ายกัน ลิตรละ 5 บาท ให้ยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันหล่อลื่นเหลวและน้ำมันที่คล้ายกันที่ทำจากน้ำมันหล่อลื่นเหลวและน้ำมันที่คล้ายกันที่ใช้แล้ว  

                รวมทั้งให้ยกเว้นภาษีสรรพสามิต ที่นำไปใช้เป็นวัตถุดิบในการอุตสาหกรรมการผลิตสิ่งของอื่น เช่น ยางสังเคราะห์ ยางรถยนต์ เทียนไข น้ำยาขัดเงา ดินน้ำมัน สิ่งประสานไม้อัด เป็นต้น เพื่อลดภาระต้นทุนภาคอุตสาหกรรม และ ให้ยกเว้นภาษีสรรพสามิตสำหรับน้ำมันหล่อลื่นเหลวและน้ำมันที่คล้ายกัน ซึ่งแม้ว่ามาตรการนี้จะท าให้รัฐมีรายได้ลดลง 1,876 ล้านบาทต่อปี แต่ช่วยลดต้นทุนการผลิตในภาคอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง และ ช่วยลดภาระการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมในอนาคต

                  นอกจากนี้ครม.จะพิจารณาร่างพระราชกำหนดเรือไทย พ.ศ. ..... และร่างพระราชกำหนดการเดินเรือ พ.ศ. .... ซึ่งเป็นการปรับปรุงโครงสร้างของกฎหมายให้ สอดคล้องกับหลักการเรื่องรัฐเจ้าของธง หลักการเรื่องรัฐชายฝั่ง และรัฐเมืองท่า ให้มีความทันสมัย เป็นไปตามมาตรฐานสากล และสอดคล้องกับสภาวการณ์ในปัจจุบัน ทั้งการกำกับดูแลระบบทะเบียน การจดทะเบียน การโอนกรรมสิทธิ์การตรวจสภาพ การจัดการความปลอดภัย การรักษาความปลอดภัยของเรือและอุปกรณ์ประจำเรือ เป็นต้น

               พร้อมพิจารณาข้อเสนอข้อเสนอการพัฒนาระบบอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจแบบครบวงจร หรือ doing business portal วงเงิน 4,000 ล้านบาท ซึ่งสนับสนุนโดย กสทช.

ที่มา: http://www.komchadluek.net/news/politic/278573