นาง มากาเร็ต ชาน ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกที่กำลังจะหมดวาระ กล่าวแถลงการณ์เป็นครั้งสุดท้ายในที่ประชุมของชาติสมาชิกที่จัดขึ้นในนครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ว่าองค์กรอนามัยโลกภายใต้การนำของเธอได้ทำให้โลกมีความพร้อมรับมือกับวิกฤตด้านอนามัยต่างๆ ทั้งการแพร่ระบาดของไวรัสซิกา และอีโบลา ได้มากขึ้น โดยเธอยอมรับว่า แม้จะมีการทำงานที่ผิดพลาดบ้าง แต่องค์การอนามัยโลกก็ไม่เคยยอมแพ้กับการต่อสู้กับปัญหาต่างๆ

             นาง มากาเร็ต ชาน ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกตั้งแต่เดือนมกราคมปี 2007 ซึ่งเธอก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ว่ารับมือกับวิกฤตด้านการแพร่ระบาดของโรคร้ายได้อย่างล่าช้าจนทำให้คนจำนวนมากเสียชีวิต โดยเฉพาะการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในทวีปแอฟริกาตะวันตก ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตกว่า 11,300 คน ในช่วงระหว่างปลายปี 2013 ถึงต้นปี 2016 ซึ่งนางชาน ยอมรับว่าองค์การอนามัยโลกคาดคะเนความรุนแรงของการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาครั้งนั้นน้อยเกินไป อย่างไรก็ตาม องค์การอนามัยโลกได้ปฏิรูปนโยบายและมาตรการทำงานหลายอย่าง ทำให้สามารถควบคุมการแพร่ระบาดและพัฒนาวัคชีนป้องกันไวรัสอีโบลาได้เป็นครั้งแรก

              นางชาน บอกทิ้งท้ายกับตัวแทนของชาติสมาชิกต่างๆกว่า 4,000 คนในที่ประชุมว่า ประวัติศาสตร์จะเป็นผู้ตัดสินเองว่าเธอทำหน้าที่ในฐานะผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกได้ประสบความสำเร็จหรือไม่ และในวันนี้ จะมีการลงคะแนนเสียงของชาติสมาชิกเพื่อเลือกผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกคนใหม่ โดยมีผู้ถูกเสนอชื่อให้รับตำแหน่งจำนวน 3 คน ซึ่งมีทั้งอดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของปากีสถาน, อดีตรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขของเอธิโอเปีย, และแพทย์นักการทูตชาวอังกฤษ โดยผู้ถูกเสนอชื่อทั้ง 3 คนมีนโยบายผลักดันการปฏิรูปองค์การอนามัยโลกให้มีความโปร่งใสมากขึ้น

ขอขอบคุณภาพจาก https://www.google.co.th

ขอขอบคุณแหล่งข่าวจาก http://news.voicetv.co.th

อ่านข่าวเพิ่มเติมได้ที่ http://news.voicetv.co.th/world/492208.html