ให้ลูกเล่นมือถือส่งผลเสียทุกด้าน คำเตือนจากแพทย์ชาวญี่ปุ่น!

สมาคมกุมารแพทย์แห่งญี่ปุ่นออกโปสเตอร์เตือนอันตรายของการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ซึ่งผลกระทบด้านลบต่อเด็กทั้งสุขภาพกาย, การเรียน และพัฒนาการด้านต่างๆ http://winne.ws/n15790

1.7 พัน ผู้เข้าชม
ให้ลูกเล่นมือถือส่งผลเสียทุกด้าน คำเตือนจากแพทย์ชาวญี่ปุ่น!

แพทย์ญี่ปุ่นเตือน ให้ลูกเล่นมือถือ ส่งผลเสียทุกด้านกระเเสการใช้งานเครื่องมือสื่อสารออนไลน์ ส่งผลกระทบไปทั่วโลกนะคะ 

ล่าสุด แพทย์ญี่ปุ่นเตือน ให้ลูกเล่นมือถือ ส่งผลเสียทุกด้านมือถือ เป็นอันตรายต่อเด็กสมาคมกุมารแพทย์แห่งญี่ปุ่นออกโปสเตอร์เตือนอันตรายของการใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟน ซึ่งผลกระทบด้านลบต่อเด็กทั้งสุขภาพกาย, การเรียน และพัฒนาการด้านต่างๆ

ภาพโปสเตอร์เตือนถึงอันตรายของการใช้สมาร์ทโฟนจะถูกจัดส่งไปยังสถานพยาบาล 170,000 แห่งทั่วประเทศญี่ปุ่น โดยเป็นการตั้งคำถามว่า “เราจะสูญเสียอะไรไปบ้าง เมื่อใช้เวลากับสมาร์ทโฟน?” เพื่อเตือนให้ผู้ปกครองใส่ใจถึงผลกระทบต่อสมาร์ทโฟนที่มีต่อเด็ก

ให้ลูกเล่นมือถือส่งผลเสียทุกด้าน คำเตือนจากแพทย์ชาวญี่ปุ่น!

6 ผลกระทบ จากการใช้สมาร์ทโฟนมากเกินไปทำให้นอนหลับไม่เพียงพอผลการเรียนย่ำแย่ลง สมรรถภาพทางกายลดลงสายตาแย่ลง พัฒนาการทางสมองช้าลงความสามารถในการสื่อสารลดลงผลกระทบต่อการต้องมองจอโทรศัพท์ทำให้

สายตาเสีย, นอนหลับไม่เพียงพอ และขาดการออกกำลังกายจนสุขภาพถดถอยลงนั้นเป็นเรื่องที่ทราบกันดี แต่ผลกระทบต่อสมองและการเรียนก็ได้รับการพิสูจน์โดยผลการสำรวจแล้วมือถือยิ่งเล็ก ผลกระทบยิ่งมาก

ข้อมูลจากกระทรวงศึกษาธิการ วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของญี่ปุ่น พบว่า ตั้งแต่ปี 2014 นักเรียนชั้นประถมและมัธยมที่ใช้เวลากับโทรศัพท์มากจะยิ่งมีผลการเรียนถดถอยลง นอกจากนี้ การจ้องมองจอภาพเป็นเวลานานยังมีส่วนทำลายสมองและทำให้ประสิทธิภาพเรื่องความจำถดถอยอีกด้วย ผลการวิจัยเคยพบว่า โทรทัศน์ส่งผลลบต่อพัฒนาการของเด็ก เพราะเป็นการสื่อสารทางเดียว ทำให้เด็กขาดพัฒนาการการด้านการสื่อสารและความคิดสร้างสรรค์ 

ให้ลูกเล่นมือถือส่งผลเสียทุกด้าน คำเตือนจากแพทย์ชาวญี่ปุ่น!

แต่สมาร์ทโฟนซึ่งมีจอขนาดเล็กจะยิ่งมีผลเสียมากกว่าผู้ปกครองควรจำกัดเวลาการดูโทรทัศน์ เล่นเกม และใช้สมาร์ทโฟนของเด็กให้ไม่เกินวันละ 2 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนเด็กที่อายุต่ำกว่า 2 ขวบไม่ควรให้ดูโทรทัศน์ หรือใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์โดยสิ้นเชิง

ทั้งนี้ตามความคิดเห็นของผู้เขียนที่ให้ลูกชายเริ่มเล่นเเทปเล็ตเเละมือถือตอน 4 ขวบ ก็คิดว่าผลที่ได้ไม่ต่างกันกับการเริ่มตั้งเเต่ 2 ขวบค่ะ ทุกวันนี้ยังเสียใจว่าเริ่มเร็วเกินไปหน่อย กฎที่เริ่มทำก็คือการจำกัดเวลาที่ใช้ได้ต่อวัน ณ ปัจจุบันนี้ลูกชายของผู้เขียนได้รับอนุญาติให้ใช้เครื่องมือพวกนี้ได้ 3 ครั้ง ครั้งละไม่เกิน 15 นาที ก็ช่วยให้อาการติดมือถือเเละเเทปเล็ตน้อยลงได้นะคะที่มา 


ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก

 https://www.pageqq.com/en/content/view/page/cntth1/0-3129220.html#.WSQ8j-GGHXI.lineme

www.google.co.th

แชร์