โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันปัสสาวะรดที่นอนโลก ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

การวินิจฉัยและการดูแลรักษาปัสสาวะรดที่นอนต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์สหสาขา อาทิ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะเด็ก จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น และกุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม ที่สำคัญพ่อแม่ผู้ปกครองต้องร่วมมือ http://winne.ws/n15984

619 ผู้เข้าชม
โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันปัสสาวะรดที่นอนโลก ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย

รพ.มหาราชนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันปัสสาวะโลก ครั้งแรกในประเทศไทย เนื่องจากการปัสสาวะรดที่นอนถือเป็นโรคชนิดหนึ่งที่ทางองค์การอนามัยโลกให้ความสำคัญ จึงกำหนดให้ในทุกวันที่30พฤษภาคมของทุกปีเป็นวันปัสสาวะโลก 

คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จัดกิจกรรมวันปัสสาวะรดที่นอนโลก ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย เพื่อให้ความรู้แก่ผู้สนใจ เรื่องภาวะปัสสาวะรดที่นอน และให้ประชาชนทั่วไปมีการตื่นตัว และตระหนักถึงความสำคัญของการไปพบแพทย์และรับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่เหมาะสม 

ผศ.นพ.พิษณุ มหาวงศ์ อาจารย์ประจำหน่วยศัลยศาสตร์ระบบปัสสาวะ ภาควิชาศัลยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ปัสสาวะรดที่นอน เป็นภาวะที่ปัสสาวะในขณะนอนหลับในเด็กที่อายุมากกว่า 5 ขวบขึ้นไป โดยมีรายงานอุบัติการณ์ในประเทศไทยที่ร้อยละ 15-18 ในเด็กอายุระหว่าง 5-15 ปี สาเหตุของโรคปัสสาวะรดที่นอนที่พบบ่อยคือ ปริมาณปัสสาวะมากตอนกลางคืน ความผิดปกติของการทำงานของกระเพาะปัสสาวะและหูรูด ความผิดปกติในพฤติกรรมและพัฒนาการ ภาวะปัสสาวะรดที่นอนมีผลกระทบทำให้เกิดภาวะซึมเศร้า ปัญหาครอบครัว การเรียน การเข้าสังคม และคุณภาพชีวิตได้ 

การวินิจฉัยและการดูแลรักษาปัสสาวะรดที่นอนต้องอาศัยความร่วมมือระหว่างแพทย์สหสาขา อาทิ ศัลยแพทย์ระบบปัสสาวะเด็ก จิตแพทย์เด็กและวัยรุ่น และกุมารแพทย์ด้านพัฒนาการและพฤติกรรม เป็นต้น และที่สำคัญต้องได้รับความร่วมมือจากผู้ปกครองและเด็กด้วย เนื่องจากการปัสสาวะรดที่นอนมีความสำคัญในทางการแพทย์มากองค์การอนามัยโลกจึงมีการกำหนดให้วันที่ 30 พฤษภาคม ของทุกปีเป็น “วันปัสสาวะรดที่นอนโลก” (World Bedwetting Day) โดย International Children’s Continence Society (ICCS) และ European Society for Pediatric Urology (ESPU) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ผู้ปกครองและเด็กตระหนักถึงความสำคัญและเข้าถึงการรักษาภาวะปัสสาวะรดที่นอนต่อไป 
 

ที่มา: http://news.voicetv.co.th/thailand/494275.html

แชร์