https://www.thairath.co.th/content/960198

สื่อท้องถิ่นของสหรัฐฯ รายงานว่า แหล่งข่าวใกล้ชิดกับรัฐบาลสหรัฐฯเปิดเผยว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจถอนตัวออกจากข้อตกลงปารีสภายใต้กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือข้อตกลงปารีสที่มี 195 ประเทศลงนามร่วมกัน และนายทรัมป์ก็ทวีตว่า เขาจะออกแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อตกลงปารีสในเวลา 15.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นหรือ 2.00 น. ของวันที่ 2 มิถุนายน ตามเวลาประเทศไทย

หากสหรัฐฯ ถอนตัวจากข้อตกลงปารีสและไปเข้าร่วมกับนิการากัวและซีเรีย เป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศในโลกที่ไม่ร่วมข้อตกลงนี้ จะถือเป็นการทำลายหนึ่งในความสำเร็จที่สำคัญที่สุดของนายบารัก โอบามา อดีตประธานาธิบดี ในการผลักดันให้ทั่วโลกร่วมกันแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง

แม้แต่รัฐบาลรัสเซียที่เหมือนจะเป็นพันธมิตรกับนายทรัมป์ก็ยังออกมาแถลงว่า ข้อตกลงปารีสจะไม่ได้ประสิทธิภาพเท่าที่ควร หากประเทศที่เป็นผู้นำผลักดันเรื่องนี้ไม่เข้าร่วม ส่วนนายหลี่เค่อเฉียง นายกรัฐมนตรีจีนกล่าวว่า การต่อสู้กับปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงเป็นฉันทามติที่ทั่วโลกตกลงกัน ไม่ใช่เรื่องที่จีนกุขึ้นมาอย่างที่นายทรัมป์กล่าวหา

นอกจากนี้ จีนและสหภาพยุโรปก็เตรียมจับมือกันออกแถลงการณ์ตอบโต้นายทรัมป์ก่อนจะมีการ ประชุมระหว่างผู้นำจีนและอียู โดยจะมีการเร่งแผนการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนทั่วโลก และเปลี่ยนผ่านอุตสาหกรรมพลังงานไปสู่เศรษฐกิจคาร์บอนต่ำ เพื่อไม่ให้อุณหภูมิโลกสูงขึ้นจากเดิมเกิน 2 องศาเซลเซียส ไม่ว่าสหรัฐฯจะเข้าร่วมหรือไม่ก็ตาม

ขณะเดียวกัน อียูยังตกลงที่จะให้เงินช่วยเหลือโครงการของจีนจำนวน 10 ล้านยูโร หรือประมาณ 380 ล้านบาท เพื่อไปช่วยประเทศกำลังพัฒนาปฏิรูปอุตสาหกรรมพลังงาน พร้อมระบุว่า พลังงานสะอาดสร้างงานมากกว่าการใช้พลังงานแบบดั้งเดิม

รายงานของกระทรวงพลังงานของสหรัฐฯ เองก็ระบุว่า ช่วงปี 2016 ที่ผ่านมา มีการจ้างงานในอุตสาหกรรมพลังงานสะอาดมากกว่าพลังงานดั้งเดิมอย่างถ่านหิน ก๊าซธรรมชาติ และน้ำมันรวมกัน โดยอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์จ้างงานชาวอเมริกันมากที่สุดที่ 374,000 คน คิดเป็นร้อยละ 43 ของอุตสาหกรรมพลังงานทั้งหมด ขณะที่อุตสาหกรรมพลังงานดั้งเดิมจ้างงานเพียง 187,000 คน คิดเป็นร้อยละ 22 เท่านั้น

ที่มา https://www.facebook.com/VoiceTVonline/?hc_ref=NEWSFEED&fref=nf